พวกฟายแดงหรือเสื้อแดง มักชอบอ้างบ่อย ๆ ว่าทักษิณสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ก็เพราะมันมาสร้างเสร็จในยุคทักษิณ
แต่ก่อนจะมาสร้างเสร็จในยุคทักษิณ เราต้องค้นข้อมูลอีกสักนิดจะรู้ว่า
การริเริ่มสร้างสนามบิน
แนวคิดในการก่อสร้าง ท่าอากาศยานนานาชาติแห่งที่สองในกรุงเทพมหานคร เริ่มมีขึ้นในปี พ.ศ. 2503 ในสมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ได้ผลการศึกษาของบริษัทลิตช์ฟีลด์ และองค์การบริหารการบินพลเรือนแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ได้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของการสร้างท่าอากาศยานพาณิชย์แห่งที่สองในกรุงเทพมหานคร
รัฐบาลจึงเริ่มเวนคืนและจัดซื้อที่ดิน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานานกว่า 14 ปี ในพื้นที่ตำบลหนองปรือ ตำบลบางโฉลง และตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พื้นที่ที่เวนคืนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ตำบลหนองปรือ ทำให้หมู่บ้านหายไปกว่า 7 หมู่ครึ่ง
โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินให้ครอบครัวละ 800,000 บาทนอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนย้ายศาสนสถาน 1 แห่ง และโรงเรียนอีก 3 แห่งไปสร้างบริเวณใหม่
ต่อมารัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร ให้สัมปทานแก่บริษัทนอร์ททรอปแห่งสหรัฐอเมริกา แต่ยังไม่ทันก่อสร้าง ก็เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ จนสัมปทานถูกยกเลิก
ต่อมา รัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาแทมส์ เพื่อศึกษาพื้นที่ในการก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ จนเมื่อ พ.ศ. 2521 ก็ได้ข้อสรุปตามเดิมว่า หนองงูเห่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด
----------------
เริ่มก่อสร้างสนามบินหนองงูเห่า ภาค 2
เมื่อถึง พ.ศ. 2534 รัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน ของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) โดยมติคณะรัฐมนตรี อนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้าง ท่าอากาศยานกรุงเทพแห่งที่สอง ณ บริเวณหนองงูเห่า โดยมอบหมายให้ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ในปัจจุบัน) เป็นผู้ดำเนินการ
ต่อมาในสมัยรัฐบาลชวน1 ได้อนุมัติ 2 เรื่อง คือเริ่มแผนอพยพผู้คนออกจากเขตเวนคืน และการเริ่มออกแบบก่อสร้างในปี 2536
ซึ่งกว่าจะให้ชาวบ้านที่ตั้งบ้านเรือน ทำเรือกสวนไร่นา ทำบ่อปลาอยู่บริเวณหนองงูเห่า ย้ายออกไปนั้น กว่าจะอพยพคนออกหมด ใช้เวลานาน 2 ปี
ต่อมาในวันที่ 27 พฤษภาคม 2540 ในสมัยรัฐบาลชวลิต ได้มีมติครม. เห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกอบด้วย ทางวิ่ง 1 เส้นทาง สามารถรองรับ ผู้โดยสาร 20 ล้านคน ต่อปี โดยมีเงินลงทุนประมาณ 68,832 ล้านบาท
ต่อมาในวันที่ 21 กรกฏาคม 2541 สมัยรัฐบาลชวน ได้มีมติครม. อนุมัติให้ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งที่ 2 ดำเนินการก่อสร้างทางวิ่ง 2 เส้นทาง เพื่อรองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปี โดยมีเงินลงทุน 120,000 ล้านบาท !! (โดยครึ่งนึงเป็นเงินกู้จากJBIC )
แต่เพราะการขาดเสถียรภาพทางการเมืองและเกิดวิกฤติเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540
หรือวิกฤติติมยำกุ้ง ในสมัยรัฐบาลชวลิต ที่มีทักษิณ ชินวัตรเป็นรองนายกฯ จึงทำให้การก่อสร้างสนามบินหนองงูเห่าต้องชะงักและล่าช้าลง แต่ในช่วงนี้ก็ใช้เวลาในการปรับปรุงพื้นที่เป็นเวลาอีก 5 ปี เ(พ.ศ. 2540–2544) เพื่อรอให้ดินและทรายที่ถมไปเกิดการเซตตัวเพื่อพร้อมในการก่อสร้าง
จนเมื่อพ้นวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งไปแล้ว การก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้อีกครั้ง ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2545 สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร
ในเดือนพฤษภาคม 2548 เพิ่มขยายการรองรับผู้โดยสารเป็น 45 ล้านคน/ปี รัฐบาลทักษิณได้กู้เงินก่อสร้างเพิ่มอีก 13,100 ล้านบาทจากเจบิค
จนก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิแล้วเสร็จ และเปิดใช้งานในวันที่ 28 กันยายน 2548 ในสมัยรัฐบาลทักษิณ
แต่สนามบินสุวรรณภูมิเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบจริง ๆ คือ 28 กันยายน 2549
(ซึ่งการเร่งรีบเปิดใช้งานในปี 2548 ถือเป็นการเร่งเปิดเพื่อเอาหน้าของทักษิณ เพราะหลังจากการเปิดใช้งานได้ไม่นาน ก็มีปัญหาที่เกิดจากการก่อสร้างที่เร่งรีบเกินไป เช่น หลังคาอาคารรั่ว ห้องน้ำน้ำท่วม รันเวย์ร้าว กระเบื้องปูพื้นร่อน เป็นต้น)
คลิกที่รูปเพื่อขยาย!! (และกดแสดงภาพหน้าเว็บแบบเต็มจอ)
เพิ่มคำอธิบายภาพ |
ที่มาจากเว็บสนามบินสุวรรณภูมิ
----------------
สรุปคร่าว ๆ ว่า
การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิได้กลับมาเริ่มก่อสร้างอีกครั้งจริง ๆ ในยุครัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน (สมัย รสช.)
ส่วนในสมัยรัฐบาลชวน ได้เริ่มจ้างบริษัทออกแบบก่อสร้างในปี 2536 พร้อมเริ่มอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ก่อสร้าง
ต่อมาในปี 2540 รัฐบาลชวลิต ได้อนุมัติก่อสร้างทางวิ่ง 1 เส้นทาง และอนุมัติงบการก่อสร้างขั้นต้นมูลค่า 68,832 ล้านบาท
จนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ในสมัยรัฐบาลชวลิต ที่มีทักษิณ ชินวัตร เป็นรองนายกรัฐมนตรี ทำให้การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิต้องล่าช้าไปอีก
และพอนายชวน หลีกภัย กลับมารับภาระเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากพลเอกชวลิต รัฐบาลชวนก็ได้อนุมัติงบประมาณก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมเพิ่มทางวิงเป็น 2 เส้นทาง ในปี 2541 มูลค่า 120,000 ล้านบาท
จนช่วงเวลาวิกฤติต้มยำกุ้งเริ่มผ่านพ้นไปแล้ว การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิจึงได้กลับมาก่อสร้างอย่างจริงจังอีกครั้งในปี 2545 สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร
ทักษิณได้กู้เงินจากเจบิคเพิ่มอีก13,100บาท เพื่อขยายการรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น45ล้านคน/ปี (คลิกอ่านข่าว)
แล้วพอสร้างเสร็จ ทักษิณ ชินวัตร ก็ขโมยซีนจากทุกรัฐบาลที่ผ่านมา เพื่อไปหลอกควายแดงว่า ผมคือผู้สร้างสนามบินสุวรรณภูมินะสิบอกให้ 555
ทั้ง ๆ ที่มันก็เป็นผลงานร่วมกันของทุกรัฐบาลนั่นแหละ แต่สันดานเลวๆ ของทักษิณมันชอบเอาดีเอาหน้าแต่เพียงคนเดียว
เหมือนเรื่องที่ทักษิณขโมยซีนจ่ายหนี้ไอเอ็มเอฟคนเดียว ไม่มีผิด
คลิกอ่าน ใครกู้imf ใครปลดหนี่ไอเอ็มเอฟ ใครผลาญเงินเอาหน้า
----------------------
พระราชทานชื่อสนามบินสุวรรณภูมิ
ชื่อของสนามบินสุวรรณภูมิ มีความหมายว่า "แผ่นดินทอง" เป็นชื่อพระราชทานโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทาน เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2543 (ในสมัยรัฐบาลชวน)
และเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2545
ชื่อสากลของสนามบินสะกดตามการถ่ายตัวสะกดภาษาสันสกฤต ว่า "Suvarnabhumi" แทนการเขียนทับศัพท์ตามระบบราชบัณฑิตยสถาน ซึ่งสะกดว่า "Suwannaphum"
ก่อนจบควรอ่านพระบรมราโชวาท ก็จะเข้าใจว่า หลักการทำงานร่วมกัน นั้นมีจุดประสงค์สำคัญอย่างไร
คลิกที่รูปเพื่อขยาย
อยากทราบข้อมูลที่ว่าในหลวงทรงทัดทานการสร้างในบริเวณหนองงูเห่า เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำหลาก นั้นจริงเท็จอย่างไรครับ
ตอบลบจริงครับ รู้สึกจะเป็น พระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมฯ วันที่ 4 ธันวาดม ปีไหนผมจำไม่ได้แน่ชัด แต่ได้ฟังครับ
ลบ4 ธันวาคม ปี 2539หรือเปล่าคะ
ลบอ้างอิงจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=768684
พื้นที่รับน้ำแท้ๆดันไปสร้างสนามบิน คิดเล่นๆไปเองว่า1เพื่อให้มีช่องทางการโกงได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการถมที่ การป้องกันน้ำที่จะหลากเข้ามาและยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขกันไปจบไม่ได้ง่ายๆแน่ ตัวอาคารก็บ้าแท้แทนที่จะเป็นอาคารกันแดดร้อนๆของประเทศไทยเจึอกเป็นเรือนกระจกซะ เพื่อมันจะได้ติดแอร์กินไฟเข้าไปอีก ขนาดบ้านคนอยู่แท้ๆอยู่บนดินแต่นี่สนามบินดันทะเล้นไปอยู่ในหนอง เวรจิงๆ
ตอบลบผมว่าเรื่องนี้สมควรให้เครดิตถ้าไม่นับเรื่อง คอรับชั่นนะครับ เห็นได้ว่า จากข้อมูล ของคุณ ใหม่ เมืองเอก มีคนเริ่มทำตั้งแต่ปี 2536 จนถึง ปีที่เริ่มสร้างจริง 10 ปีได้
ตอบลบรัฐบาลคุณชวนได้เงินกู้มาแล้วครึ่งหนึ่งจาก 120,000 ล้าน แต่ทำได้แค่ปรับปรุงพื้นที่ เศษรฐกิจไม่ดียิ่งต้องกระตุ้นรายจ่ายภาครัฐไม่ใช่เหรอครับ แต่นี่แม้กระทั่งความคิดก่อสร้าง หรือ แม้กระทั่งเชิญในหลวงท่านทรงไปเจิมยังไม่มี แค่หลังจากนั้น 3 ปีมันเสร็จได้ผมว่า มันก็น่าคิดนะครับ
ขั้นตอนการปรับปรุงพื้นที่นี่แหละครับ ที่สำคัญที่สุด และเปลืองงบมากที่สุด เพราะเดิมพื้นที่เป็นบ่อปลา และเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ เป็นที่ดินอ่อนเสี่ยงต่อการทรุดตัวได้ง่าย
ลบจึงต้องมีการถม มีการบดทับหลายครั้ง ต้องใช้ปริมาณดิน หิน ทรายมากมายมหาศาล และต้องรอให้พื้นที่มีการเซ็ตตัวจนแน่นครับ ถึงจะเริ่มก่อสร้างตัวอาคาร และรันเวย์ได้
ไม่ใช่ว่าถมเสร็จจะสร้างสนามบินได้เลย เพราะมันจะมีการทรุดตัวของดินอีกครับ การรอให้ชั้นดินแน่นนี่ต้องใช้เวลาหลายปีครับ
โดยเฉพาะที่ดินที่เป็นหนองน้ำมาก่อน ต้องใช้เวลานานถึง 5 ปีเป็นอย่างน้อยในการรอให้แน่น
การถมที่เนี่ยครับ ใช้งบเยอะสุดเหมือนที่ คุณใหม่ เมืองเอกบอกแหละครับ เหมือนสร้างถนนนั้นแหละครับ ถนนจะดีได้ก็ต้องบดต้องอัดดินไปหลายๆชัด รอให้ดินแข็งตัวใส่เพิ่มเติมจุดที่ ทรุดตัว อัดให้แน่นและเสมอกัน ลองคิดหลายๆครั้งแล้วกัน นะครับคุณไม่ระบุชื่อ
ลบต้องไปถามเทพเทือกเรื่องถมที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ลบการเวนคืนที่ดิน ก็ใช้เวลาเหมือนกัน เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลชวน ที่ไปขอร้องชาวบ้าน ให้ย้ายออกจากพื้นที่ และจ่ายค่าเวนคืนให้กับประชาชน ไม่ใช่ทำเหมือนฮุนเซนที่ไล่เขมรออกจากพื้นที่ ด้วยการเอารถแทร๊คเตอร์มาไถนะครับ ไอ้แม้วมาเริ่มก่อสร้าง ทุกอย่างก็พร้อมให้มันลงมือได้เลย เรียกว่ากองทุกอย่างไว้ให้แล้ว พอสร้างเสร็จ มันเอาหน้าไปคนเดียว คนมันมีความละอายใจ มันไม่ทำแบบนี้หรอก
ลบการถมที่ทำสนามบินจริงๆเฉพาะรันเวย์ต้องไม่ต่ำกว่า7ปีครับ ยิ่งเป็นหนองน้ำมาก่อนยิ่งต้องระวัง บ้านจัดสรรแถวนั้นก็เจอปัญหาดินทรุด
ลบผมจะตอบอะไรอย่างนึงนะครับ ไอ้ที่มันถมมา เกือบ 10 ปี ก็ได้แต่ถมที่นะ ทักษิณ สั่ง ขุดทิ้งทั้งหมด เพราะ มันเป็นโคลนและเลน อยู่ด้านล่าง ถมอีก 10 ปีจะได้สร้างมั้ยก็ยังไม่รู้ ทักษิณสั่งขุดเอาโคลนและเลนออกจนหมด แล้วจึงทำการ ถมดินและตกเสาเข็ม ในส่วนของ รันเวย์
ลบอันที่จริง มันผิดตั้งแต่ ไอ้พวกเหี้ย ไปเลือกที่ดินแถวนั้นทำสนามบินตั้งแต่แรกแล้ว ถมแดกงบกันมาเป็น 10 ปี คิดว่า งบประมาณมันเท่าไร เอาเงินค่าถมที่ในรัฐบาลก่อนๆ มา บวกลบ กับ เงินที่ทักษิณ เอามาทำจนเสร็จ ยังถูกกว่าตั้งหลายเท่าตัว
เรื่องขุดดินเลนทิ้ง ไปถามคนขับรถบรรทุก ได้นะ
ถ้ามันเป็นการพัฒนาประเทศผู้ที่ริเริ่ม ผู้ที่สานงานต่อ ย่อมได้รับเครดิตนะคะ
ตอบลบมันไม่จำเป็นว่าต้องเป็นการพัฒนาประเทศหรอกครับ ถึงคุณทำงาน หรือโครงการอะไรที่ไหนก็ตาม จะส่วนตัว จะของบริษัท มันก็ควรจะได้รับเครดิตกันไปทุกฝ่ายถ้างานมันสำเร็จเพราะการกระทำของทุก ๆ ฝ่าย ที่เขาด่าเพราะพวกฉวยโอกาสเอาเครดิตไปคนเดียว
ตอบลบพวกอคติ มันก็มองแบบอคติวันยันค่ำนั่นละ ทำไมไม่คิดมั้งว่า เพราะมันมัวแต่ทุจริตกันหรือเปล่า มันถึงได้ยืดเยื้อ ไม่เสร็จกันซักที ถ้างั้น ทีมชาติไทย ณ เวลานี้ ก็ให้เครดิตคนตั้งทีมคนแรก และคนต่อๆมาด้วยสิ ยังซะ คนเขาก็ชมยุคที่มันพัฒนาหรือสำเร็จทั้งนั้นละ ตึกสร้างเสร็จ ยังให้เครดิตคนคุมงานก่อสร้าง มีใครจำชื่อแรงงานคนก่ออิฐ ฉาบปูนได้บ้างมั้ย
ลบใครกันแน่ที่มีอคติ หัดอ่านบทความซะก่อนจะได้ไม่โชว์โง่นะ อ่านรึเปล่าว่า ยุคไหนที่เขาเริ่มก่อสร้างอย่างจริงจัง ยุคไหนที่อนมัติงบประมาณก่อสร้างสูงสุด แล้วเขาต้องถมดิน ต้องรอให้ดินเซ็ทตัวกี่ปี จึงจะเริ่มก่อสร้างได้ตามหลักวิศวกรรม
ลบ.
แล้วถ้าคิดจะมายกตัวอย่างน่ะ ก็แสดงถึงความโง่ของคุณแล้ว ยกตัวอย่างทีมชาติไทย มันใช่ซะที่ไหน คยละบริบทเลย
.
เรื่องนโยบายรัฐ เรื่องการก่อสร้างสิ่งสาธารณะประโยชน์ของรัฐ เขาให้เกียรติคนที่ริเริ่มนโยบายคนแรกโว้ย เหมือนที่ให้เครดิตนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคของทักษิณไง
.
สนาบมบินสุวรรณภูมิเขาสร้างต่อเนื่องมาในยุค 2 อ่านรึเปล่าในบทความน่ะ มันเพิ่งจะมาเสร็จพอดียุคทักษิณโว้ย ยุคทักษิณมีส่วนเกี่ยวเกี่ยวไม่ได้มากนักหรอก แต่มันฉลาดเรื่องขโมยซีนไง
.
จะแสดงความเห็นอะไร หัดอ่านข้อมูลซะก่อน จะได้ไม่ประจานความโง่ตัวเองนะ 555
555555 เจอของจริง หายโง่
ตอบลบเอาอคติออกไปจากสมองก่อน แล้วค่อยตัดสินพิพาก
ตอบลบษา
ใหม่ เมืองเอก คุณนี่อคติจังเลยนะคับ คุณรู้ไหมว่าก่อนหน้านี้กี่รัฐบาลแล้วล่ะ อนุมัติงบประมาณเท่าไหร่แล้ว แต่ก็ไม่เคยเสร็จเพราะเอางบประมาณไปกินกันไงล่ะคับ ถ้าทักษิณไม่ได้เป็นนายกป่านนี้ประเทศไทยยังคงไม่มีสนามบิสุวรรณภูมิแบบนี้หรอกคับ เพราะนายกแต่ละคนไม่เคยทำงานเพื่อประชาชนอย่างจริงจังและจริงใจกับประชาชน จะมีแต่ก็ทักษิณคนเดียว แล้วคุณรู้ไหมว่าทักษิณไปกางเต้นท์กินนอนอยู่ที่สุวรรณภูมิเลยนะ พวกสลิ่มนี่ไม่ยอมเปิดหูเปิดตาเปิดใจอคติที่ 1 อิจฉาที่ 1
ตอบลบอยากรู้ก็ไปดูคลิปนี่สิสลิ่มจอมอคติขี้อิจฉา
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2498501126876393&id=100001495890042&sfnsn=mo