วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทำไมขายอาหาร ขายดีกำไรเยอะแต่ไม่รวยสักที






ผมเขียนเน้นเฉพาะผู้ขายอาหาร แต่อาชีพค้าขายอื่น ๆ ก็นำไปปรับใช้ได้

----------------

ผู้ขายอาหารเวลาขึ้นราคาอาหารมักขึ้นทีละ 5 บาท นี่เป็นเพราะประเทศไทยพิการเรื่องระบบจัดเก็บภาษี ทำให้บรรดาผู้ค้าทุกชนิดตั้งแต่ต้นทางยันปลายทางมักขึ้นราคาได้ตามอำเภอใจ

ส่วนคนทำงานกินเงินเดือนจำนวนมาก รายได้น้อยกว่าพ่อค้าแม่ค้าเสียอีก กว่าจะได้ขึ้นเงินเดือน ราคาสินค้าขยับหนีไปหลายรอบแล้ว

ใครไม่เชื่อแต่ผมเชื่อเรื่อง กฎแห่งกรรม !!

ผู้ค้าใดเอาเปรียบผู้ซื้อเกินเหตุ ค้ากำไรเกินควร เขาผู้นั้นมักมีเหตุให้ต้องเสียเงินเสียทองในทางอื่น ๆ เสมอ จึงไม่รวยสักที

เช่น อาจเสียเงินเพราะลูกเกเร หรือไม่คนในครอบครัวก็อาจต้องเจ็บป่วยเสียเงินเสียทองโดยใช่เหตุอยู่เสมอ นั้่นเพราะค้าขายเอากำไรอย่างเดียว โดยไม่ค้าขายแบบได้ทั้งกำไรพอประมาณ และได้บุญไปด้วย

การเห็นใจลูกค้า เมตตาต่อลูกค้าเป็นกุศลในอาชีพค้าขายอย่างหนึ่ง ที่จะเป็นเกราะคุ้มภัยให้ผู้ค้าขายเอง เช่น จะมีลูกใฝ่ดี คนในครอบครัวสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย เพราะลูกค้ามักอวยพรให้แก่ผู้ค้าขายที่ไม่เอาเปรียบลูกค้าอยู่เรื่อย ๆ

ผิดกับผู้ค้าที่เห็นแก่เงินเกินไป มักได้รับคำด่าในใจลูกค้าอยู่เรื่อย ๆ เช่นกัน การโดนชาวบ้านด่าบ่อย ๆ ย่อมเป็นเสนียดแก่ตัวผู้ค้าขายเอง

ผมขอทิ้งท้ายว่า "ค้าขายได้กำไรแแต่พอควร เปรียบเสมือนได้ทำบุญทุกวัน ดีกว่าขูดรีดลูกค้า แล้วเอาไปทำบุญภายหลัง"

เพราะอย่างหลังได้บุญไม่มากหรอกครับ เชื่อผม การเห็นใจซึ่งกันและกัน สังคมจะคืนสิ่งดี ๆ ให้คุณเอง เพราะคุณมีบุญคุ้มครอง /@akecity


------------------------

ถาม มีบ้างไหมที่ ขายของแบบเอากำไรเกินควร แต่ก็ยังขายดีและรวย

ตอบ มีเยอะครับ ผมเห็นมาเยอะ อย่างบางร้านรสชาติไม่ได้อร่อยมากมาย แต่โชคดีที่ได้ทำเลดี แถมคู่แข่งก็ไม่มี เลยขายดีมาก ๆ มีลูกค้ามาอุดหนุนอยู่เรื่อย ๆ เขาก็ขึ้นราคาตามอำเภอใจเหมือนกัน นั่นคงเพราะบุญเก่าเขาคงทำมาดี เขาคงเคยให้การเกื้อหนุนผู้คนมากมายในอดีต ชาตินี้แม้จะค้าขายเอาเปรียบลูกค้าไปบ้าง แต่ก็ยังมีคนมาอุดหนุนสม่ำเสมอ

ฉะนั้น ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกครับ เพราะเราไม่สามารถทราบได้ว่า ในอดีตชาติเราสั่งสมมามากน้อยเพียงใด และกรรมใดจะส่งผลให้เรามากน้อยแค่ไหน

-------------


ผมเชื่อว่า ผู้ค้าขายย่อมรู้ตัวเองดีว่าได้ขายอาหารเอาเปรียบลูกค้าหรือไม่ ?

เพราะร้านบางร้านค่าเช่าแพง ก็ต้องขายแพงอันนี้พอเข้าใจ ต้นทุนวัตถุดิบพากันขึ้นราคาพร้อม ๆ กันหลายอย่างก็ทำให้มีเหตุให้ขึ้นราคา

แต่ผมเคยเจอนะ อย่างเช่นข้าวเหนียวหมูเส้นหวาน จาก กล่องละ 10 บาทเป็น 15 บาท ทันทีแบบนี้ก็เกินไป

อย่างร้าน ช.ศรแก้ว ร้านข้าวเหนียวชื่อดังในโชคชัย 4 เคยขายข้าวเหนียวสังขยากล่องเล็ก ๆ 10 บาท ต่อมาขึ้นเป็น 15 บาทเลย แบบนี้ก็ขึ้นเกินไปครับ


คลิกอ่าน ร้านข้าวแกง 10 บาท ในกรุงเทพฯ พร้อมที่จอดรถให้ 80 คัน

อย่าโทษยา Tramadol ต้องโทษเด็กไทยแม่งชั่ว






ยา tramadol ทรามาดอล เป็นยาแก้ปวดที่ดีมากตัวหนึ่ง เพราะลดอาการปวดรุนแรงได้ผลดี โดยที่ไม่กัดกระเพาะ เพราะการออกฤทธิ์ของยาจะไปออกฤทธิ์ที่ประสาทส่วนกลางเพื่อลดความเจ็บปวดโดยผ่านคำสั่งมาจากสมอง

เช่น ปวดจากอาการกระดูกหัก หรือปวดข้อจากกระดูก หรือปวดกล้ามเนื่อชนิดอักเสบรุนแรง เพราะยามันไปกดประสาทเพื่อระงับความปวดโดยตรงที่สมอง จึงรู้สึกว่า หายปวด แต่แพทย์ให้ทานครั้งละเม็ดเดียวเท่านั้น

อย่าง โวทาเรน แบบเม็ด แก้ปวดกล้ามเนื่ออักเสบได้ดี แต่ข้อเสียคือ กัดกระเพาะมาก ๆ

ตอนนี้มีข่าวว่า เด็กไทยเอายาทรามาดอลไปทานกับน้ำอัดลม ทานทีเดียวครั้งละหลาย ๆ เม็ด (ร่วม10เม็ด) เลยมีฤทธิ์กดประสาทรุนแรง คล้ายอาการเมา อันตราย !!

ไอ้เรื่องเลว ๆ แบบนี้เด็กไทยแม่งคิดเก่งจริง ๆ

ส่วนตัวผมเองเคยใช้ยาตัวนี้ ซึ่งเห็นว่ายาที่มีประโยชน์มาก ราคาก็ไม่แพงโดยเฉพาะผู้ที่กระดูกหักในวันแรก หรือผู้ที่มีกล้ามเนื้อฉีกขาด อักเสบรุนแรง เพราะยาแก้ปวดอื่น ๆ อาจเอาไม่อยู่ และมีผลข้างเคียงมาก แต่ถ้าทานทามอล ก็จะบรรเทาอาการปวดได้ดี

----------------

ความเห็นโดน ๆ จากข่าวยา ทรามาดอล จากเว็บข่าว astv

คห.3

"ยาดีและถูก ก้อมาห้ามขาย จริงๆไม่รู้จักแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ วันนั้นนั่งดู รายการ สอระยู้ด เห็นมีผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อ้างว่ารักลูกมากๆ มาพูดนู่น พูดนี่ แล้วลูกมรึง ไปติดยา tramadol ได้อย่างไร ถ้าครอบครัวเข้มแข็งจริง ลูกคงรักพ่อ รักแม่ ไม่กล้าไปลองไอ้ยาเนี่ยหรอก อีนี่มันมาพูดไม่หมด ต่อหน้ากล้องเที่ยวโทษ กระทรวง โทษร้านขายยา ไมแมร่งไม่โทษตัวเองวะ ที่เลี้ยงลูกได้ here ๆ"


คลิกอ่าน ยกเลิก ใบกระท่อม ออกจากยาเสพติดดีไหม ?


วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

นโยบายรัฐซ้ำเติมมารยาทคนขับรถเมล์ร่วมฯให้แย่ลง






รถเมล์ร่วมบริการ ชี้ อย่าโทษรถร่วมฝ่ายเดียว !!

ผู้ประกอบการรถเมล์ร่วมบริการ โทษรัฐบาลมีส่วนซ้ำเติมทำให้มารยาทรถคนขับร่วมบริการแย่ลงไปอีก

นั่นคือนโยบายค่าแรง 300 บาท นโยบายรถคันแรก และนโยบายรถเมล์ฟรี

เพราะค่าแรง 300 บาท ทำให้ข้าวของแพง ค่าครองชีพสูง แต่คนขับรถร่วม มีรายได้จากหักเปอร์เซนต์ค่าตั๋ว แต่ราคาค่าโดยสารเท่าเดิม จึงทำให้ต้องพยายามวิ่งรถให้เร็วขึ้นเพื่อทำรอบ

ส่วนนโยบายรถคันแรก ทำให้รถติดเพิ่มขึ้น แทนที่รัฐบาลจะสนับสนุนคนใช้รถบริการสาธารณะ กลับไปสนับสนุนคนไทยซื้อรถคันแรกจนรถติดมาก ทำให้รถร่วมบริการวิ่งรอบได้น้อยลงไป 1 รอบต่อวัน
นโยบายรถเมล์ฟรี ก็ช่วยซ้ำเติมให้รายได้รถร่วมแย่ลงไปอีก

เมื่อนโยาย 3 อย่างของรัฐบาลเกิดขึ้น คนขับรถร่วมนอกจากต้องแข่งกันเองแล้ว ก็ยังต้องสู้กับปัญหาของนโยบายรัฐที่มาซ้ำเติม ให้พวกเขามีรายได้ลดลง ภาวะกดดันหลายด้านเลยทำให้ไอ้ที่ว่าแย่อยู่แล้ว เลยยิ่งแย่กันไปใหญ่

/@akecity

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ไคลแมกซ์ ดราม่า ของเรื่องพันท้ายนรสิงห์







เรื่องพันท้ายนรสิงห์ ในตอนแรก จะเริ่มที่ว่า พระเจ้าเสือปลอมพระองค์ ไปคลุกคลีกับชาวบ้าน ในหมู่บ้านของสิงห์ (พระเอก) เพื่อดูว่า ชาวบ้านรักหรือเกลียดพระเจ้าเสือแค่ไหน
พระเจ้าเสือ ได้รู้ว่า ราษฎรเกลียดพระเจ้าเสือ

ส่วนพระเจ้าเสือชอบไอ้สิงห์ เลยชวนไปทำงานด้วย ซึ่งตอนนั้นสิงห์ไม่รู้ว่า พระองค์คือพระเจ้าเสือ

----------------

ผมจำไม่ได้ว่า ทำไมอยู่ ๆ ผมพอจำเรื่องพันท้ายนรสิงห์ขึ้นมาได้ เพราะถ้าให้นึกกลับไป ผมจำได้แค่ว่า เคยดูสมัยจะรื้อโรงหนังเฉลิมไทย มีละครเวทีพันท้ายนรสิงห์ อำลาเฉลิมไทย

แต่จำได้คลับคล้ายคลับคลาวา ศรัณญู เล่นเป็นพันท้ายนรสิงห์

ไคลแมกซ์ของพันท้ายนรสิงห์ ไม่ได้อยู่ตรงที่ พันท้ายนรสิงห์เบนหัวเรือชนต้นไม้

แต่ไคล์แมกซ์อยู่ที่ ผองเพื่อนของพระเอก เกิดได้รู้ความจริงว่าพระเจ้าเสือไม่ได้เป็นกษัตริย์ที่ไม่ดี อีกทั้งพระเจ้าเสือยังได้มีพระราชโองการจับกุมพวกขุนนางท้องถิ่นที่ฉ้อฉลไปดำเนินคดี

ดังนั้นผองเพื่อนของพันท้ายนรสิงห์จึงได้ล้มเลิกการลอบปลงพระชนม์พระเจ้าเสือลง

ทีนี้นางเอกชื่อ นวล เลยพยายามจะวิ่งไปบอกพันท้ายนรสิงห์ว่า แผนการปลงประชนม์ได้ล้มเลิกแล้ว ในขณะที่นางเอกวิ่งไปเพื่อจะไปดักเรือพระที่นั่ง เพื่อยับยั้งพระเอกที่คิดจะเบนหัวเรือชน

แต่แล้วนางเอกวิ่งไปถึง ก็ไปทันเห็นเพชรฆาตตัดหัวพันท้ายนรสิงห์ขาดพอดี

นี่แหละครับ ไคลแมกซ์ของเรื่อง พันท้ายนรสิงห์

แล้วภายหลังพระเจ้าเสือจึงได้รู้ความจริงทั้งหมดว่า พันท้ายนรสิงห์แกล้งคัดท้ายเรือพลาดเพื่อคิดจะช่วยชีวิตพระองค์ครับ

เพลงน้ำตาแสงใต้ เพลงประกอบพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งเนื้อเพลงจะขึ้นต้นด้วยชื่อของนางเอกคือ นวล




คลิกอ่าน เหตุผลที่สร้างละครพันท้ายนรสิงห์ ในพ.ศ.2556


เพื่อนแท้ ดูไม่ยาก !!







เพื่อนแท้ ดูกันง่าย ๆ เวลามีภัยหรือมีทุกข์ เพื่อนแท้ไม่ทิ้งเพื่อน ไม่หนีเอาตัวรอดไปคนเดียว

แต่ทักษิณ "ไม่ต้องห่วงครับพี่น้อง ผมเอาตัวรอด"

"ถ้าเสียงปืนดังนัดแรก ผมจะกลับมาเดินนำหน้าขบวนพี่น้องเอง"

สรุปว่า ไอ้พวกหลงใหลทักษิณ แม่ง โง่บัดซบจริงเลย 555


--------------

ในช่วงที่เสื้อแดงออกไปสู้กลางถนน ตระกูลชินและเครือญาติมันหนีไปเมืองนอกกันหมด

ขอบคุณที่พวกมันยังส่อสันดานชั่วให้คนดีได้รู้ทัน แต่เสียดายพวกเสื้อแดงมันโง่ 5555


วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เหตุผลที่ท่านมุ้ยต้องสร้างหนัง พันท้ายนรสิงห์







ถาม ทำไมหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ถึงได้คิดสร้างภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ ในช่วงนี้

ตอบ เพราะพันท้ายนรสิงห์ยอมเสียสละชีพ เพื่อปกป้องกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ แม้ตัวเองจะได้พระเมตตาจากพระเจ้าเสือให้ได้รับการพระราชทานอภัยโทษแล้วก็ตาม

ซึ่งแตกต่างจากในยุคปัจจุบันที่ คนทำผิดกลับไม่ยอมรับผิด แถมยังหน้าด้านจะขอพระราชทานอภัยโทษก่อน ทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่เคยยอมรับผิดและรับการลงโทษเลย

ส่วนสาเหตุที่พันท้ายนรสิงห์ต้องเบนหัวเรือให้ชนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ จนหัวเรือพระที่นั่งพระเจ้าเสือหักสะบั้นนั้น

ก็เพราะพันท้ายนรสิงห์ รู้ว่า พรรคพวกเพื่อนฝูงของตนกำลังดักลอบปลงพระชนม์พระเจ้าเสืออยู่ข้างหน้า พันท้ายนรสิงห์เลยแกล้งหันหัวเรือชนต้นไม้จนหักก่อนที่เรือจะไปถึงจุดที่เพื่อน ๆ ดักรอ แล้วพันท้ายนรสิงห์ก็ยอมเอาชีวิตตัวเองสละไว้เพื่อรักษากฎหมาย

ที่พันท้ายนรสิงห์ต้องปกป้องพระเจ้าเสือ เพราะเขารู้ว่า พระเจ้าเสือไม่ได้โหดร้าย และขูดรีดประชาชนอย่างที่เพื่อน ๆ ตนเองเข้าใจผิด แต่เพราะพวกข้าราชการฉ้อฉลฉ้อราษฎร์บังหลวงต่างหากที่แอบอ้างพระองค์เพื่อมาขูดรีดราษฎร จนราษฎรต่างเกลียดชังพระเจ้าเสือ จนถึงขนาดจะลอบปลงพระชนม์

ก็เหมือนในยุคปัจจุบันที่มีพวกนักการเมืองคดโกง ไม่ทำเพื่อประชาชนจริง ๆ แล้วพวกนักการเมืองเลว ๆ เหล่านี้ก็อุ้มชูพวกล้มเจ้าให้ช่วยโพนทะนากล่าวโทษไปที่สถาบันกษัตริย์แทน


ฎหมายในยุคนั้นกำหนดไว้ว่า นายท้ายผู้คัดท้ายเรือจนทำให้หัวเรือหักนั้น จะต้องโทษประหารชีวิต

แต่พระเจ้าเสือทรงพระราชทานอภัยโทษให้พันท้ายนรสิงห์ ก็เพราะพระองค์ทรงรักพันท้ายนรสิงห์มาก

แต่พันท้ายนรสิงห์กลับไม่ขอรับพระเมตตา แต่จะขอตายเพื่อรักษากฎหมาย เพื่อให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ต่อไป




เกร็ดเล็กน้อย

ให้สังเกตว่า หนังเกือบทุกเรื่องของท่านชายมุ้ย หรือ มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล มักจะมี สรพงษ์ ชาตรี เล่นด้วย

แล้วที่ สรพงษ์ ใช้นามสกุล ชาตรี ที่มาก็จากชื่อของแรกของท่านมุ้ย นี่แหละครับ

คลิกอ่าน ไคลแมกซ์ ดราม่า ของหนังพันท้ายนรสิงห์


วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ช่วยกันคืนอิสรภาพให้ ต้นกระท่อม กันเถอะ





ต้นกระท่อม และ ใบกระท่อม เป็นคำภาษาไทยแท้ ที่แม้แต่มาเลเซีย อินโดนีเซีย ก็ใช้คำนี้เรียกพืชชนิดนี้เช่นเดียวกัน

นั่นจึงแสดงว่า กระท่อม เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศไทย ที่แพร่หลายออกไปในหลายประเทศแถบอาเซียนด้วยกัน

ที่จริงเมื่อสัก 2 อาทิตย์ก่อน ผมเคยคิดจะเขียนเรื่องยกเลิกใบกระท่อม ออกจากหมวดยาเสพติด อยู่พอดี

และบังเอิญก็มีข่าว รมว.ยุติธรรม ใน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ แนะให้กลับไปศึกษาว่า ควรจะยกเลิกใบกระท่อมออกจากสิ่งเสพติดหรือไม่ ?

ถ้าถามความเห็นของผม ผมเห็นว่า ควรยกเลิกครับ เพราะใบกระท่อมมันไม่ได้มีโทษร้ายแรงมากจนต้องห้ามปลูก ห้ามขาย

ผมยังมองว่า เหล้ายังน่ากลัวกว่าใบกระท่อมเสียอีก

ทีนี่ผมจะเล่าเรื่องที่ผมเคยรับรู้เกี่ยวกับคนที่ใช้ใบกระท่อมเป็นประจำ

--------

เมื่อ 10 กว่าปีก่อน แม่ผมเคยเปิดร้านมินิมาร์ท ผมก็เคยมีโอกาสได้รู้จักมักคุ้นกับพวกวินมอไซค์ รับจ้างในซอยนั้น

ผมได้รับรู้มาว่า เกินกว่าครึ่งของพวกวิน ต้องกินใบกระท่อมกันทั้งนั้น สนนราคาตอนนั้น ใบใหญ่ ๆ ใบละ 5 บาท

ผมได้รู้จากพวกวินเล่าให้ฟังว่า ที่กินใบกระท่อมจะทำให้แก้ง่วง สู้งาน สู้แดด อดทน แก้เมื่อย แก้เหนื่อย

มอไซค์วินคนไหนกินใบกระท่อม ตบด้วย M150 จะอึด สู้แดด ขยันวิ่งวินทั้งวัน หาเงินได้มากกว่าคนที่ไม่ได้กิน

แต่ !! พวกวินที่กินใบกระท่อม จะแพ้ฝน คือถ้าฝนตกต้องหลบเข้าบ้าน เพราะเขาจะรู้สึกหนาวมาก ๆ

ส่วนวินบางคนที่เลิกวิ่งวินแล้ว พอจะเลิกกินใบกระท่อมก็ต้องทนทรมานอยู่นานเป็นอาทิตย์ เพราะจะเกิดอาการนอนไม่หลับ ต้องซดเบียร์วันละไม่ต่ำกว่า 6 ขวดเพื่อช่วยให้หลับ แถมช่วงเลิกใบกระท่อมจะมีอาการปวดตัว ปวดกระดูก ต้องกินยาแก้ปวดบรรเทาอาการทุกวัน

แต่นั่นแหละ อดทนสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็เลิกใบกระท่อมเองได้แล้ว

ส่วนสมัยโบราณเขาใช้ใบกระท่อมเป็นยาแก้ปวด เช่น ทหารยุคโบราณที่ไปรบ แล้วบาดเจ็บกลับมา ก็อาศัยใบกระท่อมนี่แหละแก้ปวดแผล

----------------

ในมาเลเซีย ใบกระท่อมไม่ผิดกฎหมายนะครับ

จึงทำให้มีการลักลอบนำใบกระท่อมจากมาเลเซียมาขายในไทย ราคาขายในไทยตกกิโลละ 600 - 800 บาท

เผลอ ๆ สาเหตุหนึ่งของความรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ อาจเพราะฝั่งมาเลเซียกินใบกระท่อมไม่ผิดกฎหมาย แต่พอข้ามมาฝั่งไทยดันผิดกฎหมาย !?

ผมว่า ใบกระท่อม หากรู้จักใช้ก็เป็นประโยชน์มาก

เพราะผู้ที่ใช้แรงงานหนัก ๆ เมื่อเขาไม่มีอะไรกินเพื่อให้ทนงาน ให้อึดสู้งาน ก็เลยหันไปเสพยาบ้าแทน

พวกมอไซค์วินที่ผมรู้จัก ที่กินใบกระท่อม ทุกคนก็นิสัยดี ขยันทำงาน ไม่มีปัญหาคลั่งยา เมายา แบบพวกเมายาบ้า

เราไม่เคยได้ยินข่าว มีคนเมาใบกระท่อมไปทำร้ายหรือฆ่าใคร จริงไหม ?

ทั้ง ๆ ที่ในสังคมเมืองของกรุงเทพฯ และสังคมชนบท มีคนไทยที่ติดใบกระท่อมเป็นจำนวนมาก

สรุปก็คือ พวกเสพใบกระท่อม ไม่น่ากลัวเท่าพวกเสพยาบ้าแน่นอน ครับ

ส่วนแม่ผมบอกว่า "พวกผู้ชายก็หาเรื่องจะกินไปเรื่อย ดูพวกมอไซค์วินผู้หญิงสิ ไม่เห็นต้องกินอะไรพวกนี้เลย เขาก็วิ่งรถกันได้ขยันดี อย่างเก่งก็แค่ M150 ขวดนึง หรือไม่ก็กาแฟแค่กระป๋องเดียวก็อยู่แล้ว"

-------------------

มาช่วยกันคืนอิสรภาพให้ต้นกระท่อมเถิด

ผมเคยดูสารคดี แอนดีส ชาวอเมริกาใต้ที่ทำงานในเหมืองเงิน เขาจะกิน ใบโคคา เป็นอาหารเช้ากันเลย
.
สรรพคุณของใบโคคาคือ ช่วยให้ทำงานอึด ทำงานทน แก้ปวดเมื่อย

ใบโคคา จากต้นโคคา ก็ที่เขานำไปสกัดทำ โคเคน นั่นแหละ ที่อเมริกาใต้ ต้นโคคา ใบโคคา ไม่ผิดกฎหมาย แต่ โคเคน ผิดกฎหมาย

คือ พวกคนงานเหมืองถ้าไม่ทานใบโคคา จะไม่มีทางทำงานหนักในเหมืองได้เลย เพราะที่แถบเทือกเขาแอนดีส พวกเขาไม่มี กระทิงแดง เอ็ม 150 คาราบาวแดง ทาน เขามีแต่ใบโคคาให้เคี้ยวเท่านั้น

อย่างน้อยใบโคคา ก็เป็นของธรรมชาติ 100 % ซึ่งก็คล้ายกับที่พระเจ้าสร้าง ใบกระท่อม (kratom) ให้คนไทยนั่นแหละ

ถ้ารัฐบาลไทยยังไม่ปลดล็อคให้ #ต้นกระท่อม กลับมาเป็นพืชพื้นเมืองที่ควรอนุรักษ์ไว้ ปลดล็อคจากพืชต้องห้าม

คนไทยก็จะต้องเป็นทาสนายทุนจำพวก เครื่องดื่มสิ้นคิด ของแอ๊ด คาราบาว ตลอดไป (แอ๊ดเคยเรียกแบบนี้)

ลองนึกดู ถ้าคนไทยทุกคนมีสิทธิปลูกต้นกระท่อมได้อย่างเสรี ราคาใบกระท่อมก็จะไม่แพง เชื่อว่า สามารถลดปัญหายาบ้าลงได้เยอะ

----------

พวกนักวิชาการ ชอบอ้างข้อเสียของใบกระท่อม ทั้งที่ความจริง ทุกอย่างในโลกนี้มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น เช่น ยาพาราเซตามอล ถ้ากินมาก ๆ ก็อันตรายยิ่งกว่าใบกระท่อมด้วยซ้ำ จริงม่ะ



ในต่างประเทศมีการขายผลิตภัณฑ์จากกระท่อมอย่างถูกกฎหมาย เช่น ใน สหรัฐอเมริกา กระท่อมเป็นพืชและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ถูกกฎหมายใน 48 รัฐของสหรัฐอเมริกา

และ 90 % ของประเทศในโลกนี้ กระท่อมก็ไม่ใช่พืชหรือผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด

ภาพโฆษณาสรรพคุณของกระท่อมในต่างประเทศ



ตัวอย่างผลิตภัณฑ์กระท่อม Kratom ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา (ซึ่งมีขายมากมายหลายยี่ห้อ)



คลิกอ่าน อย่าโทษยา ทรามาดอล ต้องโทษเด็กไทยแม่งชั่วเอง


วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

พบสาเหตุที่ยิ่งลักษณ์ชอบโดดสภา





อย่างเช่นเวลาที่เราเรียนหนังสือ หากเป็นวิชาที่เราไม่ชอบ เราก็มักมีอาการเบื่อ เซ็ง ง่วงจนอยากจะหลับ จริงไหม ?

คนเป็นนายกรัฐมนตรีที่พี่ใช้ให้มาเป็น ก็เช่นเดียวกัน

ตอนทำงานบริษัท ยิ่งลักษณ์ก็มักมีหน้าที่เปิดงาน ออกงานอีเวนท์ แจกรางวัล นั่นคืองานที่ชอบที่ถนัดของยิ่งลักษณ์

แต่พอให้ต้องมานั่งฟังอะไรที่มันยาก ๆ ในสภา ยิ่งลักษณ์ก็มักมีอาการเช่นนี้

หลับหมดสภาพ น้ำลายไหลยืด สมกับเป็นผู้นำหญิงของฟายแดงจริง ๆ 555




ก็นะ เธอไม่ได้มีสมองมาเพื่อรับรู้เรื่องยาก ๆ ในการบริหารประเทศ ถ้าไม่มีโพยให้พึ่งพิง ก็มีแต่จอดสนิท

ทำไงได้ ก็ทักษิณมันส่งมาให้เป็นนี่

ถึงอย่างนั้น ฟายแดงมันก็บอกว่า ถึงยิ่งลักษณ์จะหลับ แต่ก็ยังน่ารัก แหวะ

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

TGT 3 สมชาย นิลศรี ชัยชนะบนความดราม่า







ถ้าสังเกตมาตลอด ผู้ชนะเลิศในรายการไทยแลนด์ก๊อตทาเลนจ์ ทั้ง 3 ปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นผู้เข้าแข่งขันประเภทเดี่ยวทั้งนั้น

เพราะคนไทยชอบดราม่า อะไรที่มีส่วนช่วยให้ซาบซึ้งดราม่าก็เลยเป็นที่ถูกอกถูกใจคนไทย

การที่สมชาย นิลศรี มาบอกเล่าความทุกข์ใจในปัญหาบ้านเกิดใน 3 จังหวัดใต้ โดยเฉพาะปัตตานีบ้านเกิดของเขานั้น เราคนไทยทุกคนเข้าใจ และเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปด้วย

แต่ถ้าตัดความดราม่าออกไป เอาแค่ฝีมือกีต้าร์ และการร้องเพลง และเพลงที่คุณสมชายแต่งมานั้น

ผมว่า คุณสมชายยังไม่ถึงขึ้นที่สมควรจะชนะเลิศ เพราะในความเห็นของผม ทีมไทยยิมสมควรจะได้รับชัยชนะมากกว่า เพราะแสดงได้ยอดเยี่ยมทั้งไอเดีย ความสามารถพิเศษ การนำเสนอ และทีมเวิร์ค

แต่ก็นั่นแหละ ใครที่สามารถดึงอารมณ์ดราม่าร่วมจากคนดูได้ ก็ย่อมได้เปรียบ ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง

แต่เอาเถอะ ต่อให้คุณสมชายร้องเพลงซึ้งใจเรียกร้องให้ตาย ก็ไม่ได้ทำให้พวกโจรใต้มันสำนึกซาบซึ้งตามไปด้วยหรอก

ก็มีแต่คนไทยด้วยกันเท่านั้นแหละ ที่ซาบซึ้งจนโหวตให้ผู้นำเสนออารมณ์ดราม่าอย่างคุณสมชายได้เงินและรางวัลไป10 ล้านบาท

ซึ่งก็นับว่าคุณสมชายโชคดีมาก ๆ ที่แปลงวิกฤติแห่งความนองเลือด กลายเป็นเงิน 10 ล้านบาทได้

ขอแนะนำปีหน้าเปลี่ยนชื่อเป็น ไทยแลนด์ก๊อตดราม่าทาเล้นจ์ ไปเลย 5555

-----------------------

ถ้าผมเป็นโจรใต้

ถ้าผม akecity เป็นโจรใต้ ผมจะหมายหัวคุณสมชาย นิลศรี ไว้เป็นเป้าหมายในการฆ่าลำดับต้น ๆ เลยทีเดียว เพราะอยากดราม่านักเหรอมึง งั้นกูต้องสงเคราะห์มึงให้ดราม่าจนถึงที่สุด

แต่คุณสมชายคงไม่ได้ทำงานในบ้านเกิดแล้วมั้ง (งั้นญาติ ๆ ของคุณก็ต้องระวัง)

ถ้ายังไงผมขอเตือนคุณสมชายให้ระวังตัวให้มาก เพราะผมแค่เดาสันดานพวกโจรใต้ ที่พักนี้มันชอบฆ่าคนที่เข้าข้างรัฐอย่างเปิดเผย แม้จะเป็นมุสลิมด้วยกัน พวกมันก็ไม่ละเว้น

ว่าแต่ คุณสมชาย นิลศรีนี่คงจะเป็นไทยพุทธใช่ไหมครับ ?

แบบนี้ต้องยิ่งระวังตัวให้มาก ๆ เลยล่ะ

ปัญหาภาคใต้ใช้ความซาบซึ้งดราม่าแก้ไม่ได้แน่นอน มันต้องตาต่อตาฟันต่อฟันเท่านั้น !!


คลิกอ่าน ตรรกะโง่ชั่วของพวกโจรแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ 


ตู้น้ำ RO หยอดเหรียญ ส่วนใหญ่มั่วนิ่ม







ทุกวันนี้มีคนไทยนิยมไปกดน้ำดื่มที่ตู้ข้างทางลิตรละ 1 บาท กันเป็นจำนวนมาก โดยน้ำดิ่มที่ว่านั้น คือน้ำที่ผ่านการกรองในระบบริเวอร์ส ออสโมซิส หรือ RO ซึ่งระบบนี้สามารถเปลี่ยนน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืดได้เลยทีเดียว

ด้วยคุณภาพการกรองที่ผ่านไส้กรองที่มีความละเอียดสูง ที่ยอมให้โมเลกุลของน้ำผ่านไปได้เท่านั้น จึงทำให้สามารถกรองสิ่งปนเปื้อน ตลอดจนกรองเชื้อโรคได้จนสะอาดหมดจด ใกล้เคียงน้ำกลั่นเลยทีเดียว

แต่ปัญหาก็คือ การดูแลรักษาความสะอาดตู๋ให้สะอาดปราศจากฝุ่นและเชื้อโรคไปเกาะติดตามตู้ ตามก๊อก หรือส่วนต่าง ๆ ภายนอกของตู้น้ำดื่ม ส่วนใหญ่คือ บกพร่องห่วยแตก

รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคเองก็ซกมก ไม่ช่วยกันดูแลรักษา เช่น พอเติมน้ำเสร็จก็ไม่ปิดฝาตู้ให้สนิทเพื่อป้องกันฝุ่นและควันพิษจากรถ


ต่อมา การบำรุงรักษาดูแลไส้กรองว่าสมควรเปลี่ยนตามอายุการใช้งานหรือไม่ ? ทางบริษัทเจ้าของตู้ก็มักจะละเลยไม่มาดูแลรักษาซ่อมแซมให้ตู้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน

จึงเกิดปัญหาที่ว่า การกรองของระบบ RO จึงบกพร่อง หรือบางตู้พอกรองน้ำแล้ว ก็ไม่ได้คุณภาพน้ำเท่ากับคุณภาพน้ำ RO ที่ควรจะเป็น เช่น กลายเป็นน้ำประปาผ่านตู้โดยแทบไม่ได้กรอง เพราะเครื่องเสีย ตัวกรองหมดสภาพ จนกลายเป็นขายน้ำประปาลิตรละบาทไปซะงั้น โดยที่ผู้บริโภคก็ไม่รู้ และไม่ทันสังเกต

เมื่อไม่กี่วันก่อนมีข่าวว่า อย. ได้ตรวจตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ พบว่า คุณภาพน้ำไม่ผ่านมาตรฐานมากถึง 57% คลิกอ่านข่าวนี้ที่นี่

ซึ่งผมเองก็ขอร่วมยืนยันว่า น้ำ RO หยอดเหรียญตามตู้ต่าง ๆ ล้วนไม่ได้มาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ เพราะที่บ้านผมมีเครื่องมือตรวจวัดคุณภาพน้ำ เพราะที่บ้านมีตู้น้ำROไว้ใช้ในบ้าน


เครื่องตรวจวัดคุณภาพน้ำ ราคาประมาณ 450 บาท

ผมเคยนำน้ำจากตู้น้ำแถวบ้านผม คือ ถนนโชคชัย 4 มาตรวจวัดคุณภาพ บอกตามตรง น้ำ 1 ลิตรราคา 1 บาท ส่วนใหญ่เป็นแค่น้ำประปามาผ่านตัวกรองธรรมดา ๆ นี่เอง หาใช่คุณภาพมาตรฐานในระดับน้ำ RO จริง  ๆ

คำแนะนำ ถ้าบ้านคุณอยู่กันหลายคน ผมว่า หาซื้อเครื่องผลิตน้ำ RO มาไว้ใช้ที่บ้านเลยจะคุ้มค่ากว่าครับ เพราะแค่เรากินกันแค่คนในบ้าน คุณภาพไส้กรองก็ใช้ได้นานเป็นปี แถมได้น้ำสะอาดมั่นใจได้ 100 % จริง ๆ

โดยค่าสิ่งปนเปื้อนในน้ำ RO ควรอยู่ในค่าระดับประมาณ 4-20 เท่านั้น ยิ่งตัวเลขน้อยมากเท่าไหร่ ก็แสดงว่า มีสิ่งเจือปนในน้ำน้อยลงเท่านั้น

ไม่ใช่เสียเวลาแบกแกลลอนไปเติมน้ำที่ตู้ตั้งเยอะแยะ สุดท้ายกลายเป็นว่า เสียเงินซื้อน้ำประปามาดื่มตั้งลิตรละ 1 บาท ทั้ง ๆ ที่ ต้นทุนน้ำประปาจริง ๆ คือ 12 บาทต่อ 1,000 ลิตร

แต่ถ้าใครไม่สามารถที่จะซื้อตู้ผลิตน้ำ RO มาไว้ที่บ้านได้ อันนี้ ผมก็จนปัญญาจะแนะนำครับ เพราะเครื่องผลิตน้ำ RO เดี๋ยวนี้ไม่ได้แพงมาก เครื่องขนาดเล็กก็ราคาแค่หลักไม่กี่พันบาทเท่านั้น

เครื่องกรองน้ำระบบอาร์โอหลายรุ่น เดี๋ยวนี้ราคาถูกกว่าสมาร์ทโฟนบางรุ่นเสียอีก !!

ยิ่งพักหลัง ๆ น้ำประปามักมีปัญหาค่าความเค็มเพิ่มขึ้นจากน้ำทะเลหนุนสูงไปจนถึงโรงกรองน้ำ ถ้าเรามีเครื่องกรองน้ำ RO ไว้ที่บ้านสักเครื่องจะทำให้เราไม่ต้องห่วงปัญหาน้ำดื่มเลย ประหยัดกว่าไปซื้อน้ำขวดกินเยอะครับ

-----------------

แต่ถ้าใครยังกลัวว่า น้ำประปาอาจจะไม่ไหลอีก แต่ถ้าคุณรวย  ก็ขอแนะนำ ลองค้นในกูเกิ้ลเกี่ยวกับ เครื่องผลิตน้ำจากบรรยากาศครับ คือ ไม่ต้องมีน้ำประปา แต่สามารถผลิตน้ำดื่มได้ทุกวัน แต่ราคาเครื่องก็ตั้งแต่ 4 หมื่นบาทขึ้นไป ราคาเครื่องขึ้นอยู่กำลังการผลิตน้ำต่อวัน

หลักการทำงาน ก็คล้ายที่เราเปิดแอร์ แล้วเราเห็นน้ำจากแอร์หยดออกนอกบ้านนั่นแหละครับ เพียงแต่เครื่องทำน้ำจากอากาศเขาจะทำน้ำให้สะอาดด้วยระบบ RO อีกขั้นตอน

แต่ผมว่าคงไม่จำเป็นขนาดใช้เครื่องทำนำจากอากาศหรอกครับ แค่เรามีเครื่องกรองน้ำ RO ก็เกินพอแล้ว หากมีปัญหาเรื่องน้ำดื่มอาจขาดแคลน เราก็กรองน้ำเก็บไว้ให้มาก ๆ ไว้ก็พอ ประหยัดกว่าไปซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดสำเร็จรูปเยอะครับ

-----------------

น้ำกลั่นบริสุทธิ์ที่เติมแบตเตอรี่รถ ส่วนใหญ่เป็นน้ำกลั่นปลอม

ผมก็ใช้เครื่องวัดค่าความบริสุทธิ์ของน้ำ ไปใช้วัดน้ำกลั่นบริสุทธิ์ที่สำหรับเติมแบตเตอรี่รถยนต์ ผลที่ได้คือ น้ำกลั่นบริสุทธิ์ในท้องตลาดส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ล้วนเป็นน้ำกลั่นปลอมทั้งสิ้น คือ ไม่มีความบริสุทธิ์เหมือนน้ำกลั่นแท้ ๆ เลย

เพราะถ้าเป็นน้ำกลั่นบริสุทธิ์ ค่าความสิ่งเจือปนในน้ำจะต้องมีค่าเท่ากับ ศูนย์ หรือแปลว่า ไม่มีการปนเปื้อนของแร่ธาตุหรือสารต่าง ๆ ในน้ำกลั่นเลย

ถ้าให้ผมแนะนำน้ำกลั่นสำหรับเติมแบตเตอรี่รถยนต์ หรือน้ำกลั่นสำหรับใช้เติมหม้อน้ำเพื่อไม่ให้หม้อน้ำเป็นสนิมได้ง่าย ๆ

ผมขอแนะนำ น้ำกลั่นยี่ห้อ เทสโก้ หาซื้อได้ที่ห้างเทสโก้โลตัส หรือ โลตัสเอ็กซ์เพรส ได้ครับ

ผมวัดค่าสิ่งเจือปนน้ำกลั่นยี่ห้อเทสโก้หลายครั้งแล้ว ผลปรากฎว่า มีค่าสิ่งปนเปื้อนในน้ำเท่ากับ ศูนย์ หรือแปลว่า ไม่มีสิ่งใดเจือปนในน้ำเลย จึงถือว่า เป็นน้ำกลั่นแท้ ๆ





วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เพราะสื่อไทยมันโง่ถึงเรียกพม่าว่า เมียนมาร์







สาธารณรัฐเฮเลนิก คือชื่ออย่างเป็นทางการของ ประเทศกรีซ

แต่คนไทยก็ยังเรียกว่า ประเทศกรีซ เหมือนเดิม

ทีมชาติฮอลแลนด์ (ชื่อเก่า) ก็คือ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ (ชื่อปัจจุบัน) แต่สื่อบอลไทยก็ยังชอบเรียก ทีมฮอลแลนด์ เหมือนเดิม

แต่ทีประเทศพม่า สื่อไทยแม่งเสือกกระแดะเรียก เมียนมาร์ !!

เพราะมีหนังสือเวียนส่งไปยังหน่วยงานต่าง ๆ โดยกระทรวงการต่างประเทศไทยในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้ใช้คำว่า เมียนมาร์ แทนคำว่า พม่า ทุกคำ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย


ฤา สื่อไทย รัฐบาลไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยอมเป็นขี้ข้าพม่าไปแล้ว ?

ที่พยายามเรียกประเทศพม่า เป็นเมียนมาร์ กันไปหมด !!

ประเทศพม่า เขาแค่เปลี่ยนชื่อประเทศในภาษาสากล จาก Burma เป็น Myanmar เท่านั้น เพราะคำว่า  Burma เป็นชื่อที่อังกฤษอดีตเจ้าอาณานิคมตั้งให้

พม่า เขารังเกียจชื่อ Burma เพราะเขาไม่ชอบชื่อที่เจ้าอาณานิคมอังกฤษเรียก

แต่ทางไทยเองกลับมากระแดะ มาเปลี่ยนคำไทยเดิม ๆ ที่เราเรียก พม่า เป็น เมียนมาร์ ไปด้วย

เพราะคำว่า พม่า คือ คำภาษาไทยที่เราใช้เรียกประเทศเพื่อนบ้านทางด้านตะวันตกของไทย มาช้านาน

แต่อยู่ ๆ ดันกระแดะไปเรียกชื่อพม่าในภาษาสากลเป็น เมียนมาร์ กันไปหมด

ผมถือว่าเป็นความผิดพลาดอย่างมาก โดยเฉพาะพวกสื่อที่ชอบรายงานข่าวออกโทรทัศน์ โดยเฉพาะช่องมาตรฐานหลัก หรือ ฟรีทีวี 3 5 7  11 ไทยพีบีเอส

ผมขอขอบคุณ สำนักข่าวไทย และข่าว 9 อสมท. ที่ยังใช้คำว่า พม่า เสมอมา โดยไม่กระแดะเพี้ยนตามสื่อหลักช่องอื่น ๆ


เพราะ ภาษาไทยเราเรียก ประเทศ Myanmar ว่า ประเทศพม่า ไม่ใช่เรียก ประเทศเมียนมาร์

เพราะคำว่า Myanmar คือชื่อประเทศพม่าในภาษาสากล หรือตัวเขียนในภาษาอังกฤษ

อย่างเช่น England ไทยเราก็เรียกว่า ประเทศอังกฤษ ไม่ใช่เรียก ประเทศอิงแลนด์

เช่น France ไทยเราเรียกว่า ประเทศฝรั่งเศส ไม่ใช่เรียก ประเทศฟรานซ์

เช่น Japan ไทยเราเรียกว่า ประเทศญี่ปุ่น ไม่ใช่เรียก ประเทศเจแปน

ดังนั้น Myanmar ไทยเราจึงเรียกว่า ประเทศพม่า ไม่ใช่เรียก ประเทศเมียนมาร์

ไม่ว่าพม่า จะใช้ชื่อสากลเดิมว่า Burma หรือ Myanmar ก็ตาม ภาษาไทยก็ต้องเรียกว่า ประเทศพม่า หรือ ชาวพม่า เหมือนเดิม

----------------------

คำว่า เมียนมาร์ ไม่มีในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

คำว่า เมียนมาร์ ไม่มีในพจนานุกรมราชบัณฑิตฯ นั่นแสดงว่า คำ ๆ นี้ไม่ใช่ภาษาไทย

แต่คำว่า พม่า ในพจนานุกรมราชบัณฑิตฯ มีความหมายดังนี้

พม่า ๑ [พะม่า] น. ชื่อประเทศและชนชาติหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศไทย.



ผศ.วิรัช นิยมธรรม จากศูนย์พม่าศึกษา ม.นเรศวร ได้แสดงความเห็นที่คนไทยเรียก พม่า ไว้ว่า "ส่วนที่คนไทยเรียก “พม่า” สันนิษฐานว่าไทยรับชื่อ “พม่า” ผ่านภาษาเขียนของฝ่ายมอญ ที่เขียนว่า “พม่า” หรือไม่ก็เรียกตามเสียงชาวพม่าใต้ ที่ออกเสียงว่า “บะมา” "

ฉะนั้น เราต้องอนุรักษ์ภาษาไทย ไม่ใช่ไปสะเออะเรียก "เมียนมาร์" จนเหมือนยอมไปเป็นเมืองขึ้นทางภาษาไปแล้ว

ส่วนที่ พม่า เขาเปลี่ยนชื่อประเทศไปเป็น Myanmar สาเหตุเพราะ พม่า ไม่ต้องการใช้คำว่า Burma ที่เจ้าอาณานิคมอังกฤษใช้เรียกประเทศของเขา

---------------------

ฉะนั้นทุกครั้งที่ผมเห็นผู้สื่อข่าวรายงานแล้วเรียกว่า ประเทศเมียร์มาร์ ผมถือว่า ผู้สื่อข่าวคนนั้นเสมือนตกเป็นขี้ข้าพม่าไปแล้ว

แถมเป็นตัวอย่างที่ผิด ๆ แก่คนดู เด็ก และเยาวชนให้จำในสิ่งผิด ๆ ไปใช้ต่อไปอีก

ในภาษาไทย เราเรียกพม่า มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อยู่ ๆ พอพม่า เปลี่ยนชื่อประเทศในภาษาสากลจาก Burma มาเป็น Myanmar ทำไมมันมากระทบการเรียนรู้ของคนไทยให้เพี้ยนไปได้

ไม่ว่า พม่า จะเปลี่ยนชื่อประเทศไปอีกกี่ครั้งก็ตาม เราคนไทยต้องจำไว้เสมอว่า เราเรียกประเทศนี้ คนในประเทศนี้ว่า พม่า เท่านั้น ไม่ได้ต้องเปลี่ยนไปตามภาษาสากล

สรุปว่า สื่อไทยยังสอบตกในการแยกแยะระหว่างภาษาไทยกับภาษาสากล

แต่ที่แย่ที่สุด ค่านิยมเรียกเมียนมาร์ มันดันออกมาจากกระทรวงการต่างประเทศของไทย เพราะกระทรวงนี้มันริเริ่มนี่แหละ

กระทรวงต่างประเทศไทยในวันนี้ ถ้าไม่เป็นขี้ข้าเขมร ก็ไปเป็นขี้ข้าพม่า แทนที่จะอนุรักษ์ภาษาไทยไว้ ดันไปเป็นขี้ข้าทางภาษาชาติอื่นซะนี่

ต่อไปเลิกเรียกเขาพระวิหาร ด้วยไปเลยดีไหม ?

ไปเรียก เขาแพร่วิเหี้ย ตามที่เขมรมันเรียกดีไหม ??

หรือประเทศ Cambodia ก็อย่าไปเรียก กัมพูชา ก็เรียก แคมโบเดีย ดีไหม ??

สรุป สื่อไทยที่เรียก พม่า ว่า เมียนมาร์ ผมขอบอกตรง ๆ ว่า สื่อไทยพวกนี้กลายเป็นขี้ข้าพม่าไปแล้วครับ !!!

ดูกูเกิ้ลแปลภาษา ยังฉลาดกว่าสื่อไทย !!


----------------

ล่าสุด 19 ต.ต. 2557

เมื่อกี้ผมดูทางรายการเปิดบ้านไทยพีบีเอส ไทยพีบีเอสได้ถาม หญิงพม่าคนหนึ่งซึ่งเธอเป็นอาจารย์สอนภาษาพม่าในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของไทย เกี่ยวกับคำว่า พม่า กับ เมียนมาร์ ซึ่งอาจารย์พม่าคนนี้ยังพูดภาษาไทยได้ชัดเจนอีกด้วย



อาจารย์ตูชาร์ นวย เธอตอบว่า "เพราะคำว่าพม่า ในภาษาไทยไปพ้องเสียงกับคำว่า พามา  ที่แปลว่า โสเภณี ในภาษาพม่า โดยส่วนตัวชอบให้เรียกคนพม่าว่า เมียนมาร์มากกว่า แต่นี่ในอีกแง่มุมนึงนะคะ 
ส่วนอีกแง่มุมนึงคนไทยเรียกคนจีนใช่ไหมคะ ญี่ปุ่น เกาหลี ไม่ได้เรียกตามชื่อที่เขาเรียก พม่าก็มีอยู่ในนั้นด้วย ถ้าจะเปลี่ยนพม่าเป็นเมียนมาร์ แล้วเกาหลี ญี่ปุ่น จีน เราต้องเปลี่ยนด้วยไหม ตามที่เขาเรียกกันอยู่ใช่ไหมคะ 
ก็คนไทยเรียกมายาวนานมากแล้วทั้งหมด ชื่อทั้งหมดนี้ ก็คือ..อันนี้ก็แล้วแต่ สำหรับคนไทย"

สะใจจริง ๆ พอดูรายการไทยพีบีเอสตอบประชาชน ก็ยิ่งทำให้ผมยิ่งเชื่อเลยว่า คนไทยโดยเฉพาะสื่อไทย มันโง่กันจริง ๆ ต้องให้คนพม่ามาสอนแบบผู้ดี 555

----------------

ทำไม คนพม่าเรียกคนไทยว่า โยเดีย

ส่วนคน พม่า เขาเรียกคนไทยว่า โยเดีย มาตั้งแต่สมัยอยุธยา เขาก็ไม่เคยเปลี่ยนที่จะเรียกเป็นอย่างอื่น

แม้ประเทศ Siam จะเปลี่ยนเป็น Thailand คนพม่าเขาก็เรียกไทยเราว่า โยเดีย เช่นเดิม คนพม่าไม่เคยสนใจว่าต้องเปลี่ยนมาเรียก สยาม หรือเรียกว่า ไทย  เลย

คนพม่าเรียกคนไทยว่า โยเดีย มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคำว่า โยเดีย มีรากศัพท์มาจากคำว่า อยุธยา

เพราะคนพม่า เรียกคนไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาว่า โยเดีย มาตั้งแต่โบราณ แม้ต่อมาจะเป็นประเทศสยาม แล้วเปลี่ยนเป็นไทยแลนด์ หรือประเทศไทย คนพม่าก็ยังเรียกคนไทยว่า โยเดีย มาตลอดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ความหมายของคำว่า โยเดีย กลับเป็นในแง่ลบ

แต่เนื่องจากคำว่า "อยุธยา" มีความหมายถึงเมืองที่ไม่มีทางรบแพ้

 อ + ยุทธ = อยุธ แปลว่า ไม่มีสงคราม หรือแปลว่า สงบ เมื่อเมืองสงบสุข ก็หมายถึง เมืองนี้รบไม่แพ้

แต่พม่ากับไทยได้ทำสงครามรบกันมาตลอด ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้เคล็ด

พม่าจึงได้เรียก "อยุธยา" สั้น ๆ ว่า "ยุธยา" แทน ตัดคำว่า อะ ออกไป ซึ่งทำให้มีความหมายในทางตรงกันข้าม นั่นคือเมืองที่รบแพ้ โดยเรียกในสำเนียงพม่าว่า "โยเดีย"

ดังนั้น เราจึงไม่ควรเรียก "อยุธยา" ว่า "ยุดยา" หรือ "โยเดีย" ตามแบบที่พม่าเรียก เพราะเหมือนจะเป็นการด่าพวกเราเองว่าเป็น "ไอ้ขี้แพ้" หรือ "เมืองที่มีแต่สงคราม"

ถามว่า ถ้าคนไทยจะเปลี่ยนไปเรียกพม่า ว่า เมียนมาร์ 
แล้วคนพม่าล่ะ จะเลิกเรียกไทยว่า โยเดีย รึเปล่า ?

-----------------

ตัวอย่างการสัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภาษาพม่าประจำบีบีซี

กรณีเครื่องบินรบพม่ารุกล้ไปทิ้งระเบิดในชายแดนจีน จากการไล่โจมตีชนกลุ่มน้อยของพม่า

คุณณัฏฐา โกมลวาทิน สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวพม่าประจำบีบีซี

แม้แต่ผู้สื่อข่าวชาวพม่าประจำบีบีซี ก็ยังใช้คำในภาษาไทยเรียกประเทศตัวเองว่า พม่า ไม่ได้ใช้คำว่า เมียนมาร์ แต่อย่างใด เพราะถ้าสื่อสารในภาษาไทยก็ควรใช้คำไทยคำว่า พม่า

ดูนาทีที่ 24 เป็นต้นไป


ซึ่งไม่ว่าจะสกู๊ปข่าว สารคดีอะไรก็ตามที่ไปสัมภาษณ์คนพม่า คนกะเหรียง คนไทยใหญ่ ที่พูดไทยได้ ทุกคนเวลาจะพูดถึงพม่า หรือคนพม่า ก็จะใช้คำว่า พม่า ทุกครั้ง ไม่มีใครใช้คำว่า เมียนมาร์ เลย

คลิกอ่าน ราชบัณฑิต ผิดพลาดกรณีบัญญัติคำว่า โรฮิงจา


วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สัมภาษณ์ เสธ.แดง ในนรก






ระหว่างพักการทรมาน ในนรก

ยมบาล "เสธ.แดง ข้าขอถามหน่อยว่า ทำไมเอ็งถึงตั้งชื่อลูกสาวว่า เดียร์"

เสธ.แดง "ตอนแรกที่ตั้ง ก็เห็นมันคือลูกรัก ถ้าต่อไปลูกสาวผมคนนี้มันอกตัญญูเห็นโจรฆ่าพ่อมันเป็นนาย ก็ขอให้ทุกคนเรียกอีลูกเนรคุณของผมคนนี้ว่า อีเดียรฉาน แทนครับท่านยมบาล"

ยมบาล "อะไรนะ นังเดียรฉาน มันยังไม่รู้อีกเหรอว่า ใครสั่งฆ่า เสธ."

เสธ.แดง "ผมว่ามันรู้ แต่นังเดียรฉาน ลูกเนรคุณของผม มันเห็นแก่ตำแหน่ง สส. จนกล้าเหยียบศพพ่อของมันเพื่อตำแหน่งให้ทรงเกียรติไงครับ ผมล่ะเสียใจจริง ๆ "

ยมบาล "ทำไงได้นะ เสธ.แดง ก็เอ็งฆ่าคนมามาก กรรมที่เอ็งรู้มาก เขาก็ต้องสั่งเก็บเอ็งแบบนี้แหละ ส่วนลูกเอ็งก็คงไม่กล้าไปชนกับเขา เลยเลือกทางเสวยสุขบนศพพ่อ ดีกว่าไปงัดข้อกับไอ้ตัวเหี้ย จริงไหม"

เสธ.แดง "ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละท่านยมบาล"

ยมบาล "ปะ เราไปทำหน้าที่ของเรากันต่อได้แล้ว เสธ.แดง"

เสธ.แดง "ครับ"

หลังจากนั้น ท่านยมบาลก็จับเสธ.แดง มาสับด้วยดาบขนาดใหญ่ ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของ เสธ.แดง จน เสธ.แดง ขาดใจตายในนรก



แล้วจากนั้นท่านยมบาลก็โยนซากศพเสธ.แดงให้หมานรกรุมแทะกิน จนเหลือแต่กระดูก

แล้วสักพักท่านยมบาลก็นำซากกระดูกของเสธ.แดง มาราดด้วยน้ำอมฤตอีกครั้ง เพื่อให้เสธ.แดงฟื้นคืนชีพขึ้นมา เพื่อรับการทรมานในนรกอีกครั้ง




คลิกอ่าน เดียร์ ขัตติยา อย่าโง่อีกเลย ยอมรับความจริงเถอะ


วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มันไม่เท่หรอกครับ คุณพิศณุ สปอร์ตกูรู







ผมเป็นแฟนรายการของคุณพิศนุ นิลกลัด มาร่วม ๆ 20 กว่าปี ยอมรับว่า คุณพิศณุจัดรายการทุกอย่างได้น่าสนใจ

โดยเฉพาะเมื่อก่อนผมชอบรายการยอดมวยเอกอย่างมาก และก็ดูรายการสอนกอล์ฟ รายการกอล์ฟทิป ช่วงกอล์ฟตีไกลของคุณพิศณุทุกรายการมาตลอด

และเมื่อคุณพิศณุย้ายมาช่อง 3 ผมก็ยังติดตามทุกรายการของคุณพิศณุเหมือนเดิม และชอบมากคือ เรื่องเล่าข่าวดี

แต่รายการที่ผมก็ยังดูอยู่เสมอก็คึอ สปอร์กูรู ซึ่งตอนนี้ออกอากาศในคืนวันเสาร์ต่อวันอาทิตย์ตอนตี 1 ครึ่ง

และรู้สึกว่าเนื้อหารายการยังมีสาระน่ารู้ดีเหมือนเดิม แต่ที่ผมรู้สึกขัดลูกตามากที่สุด คุณพิศณุแต่งตัวในการสอนกอล์ฟได้เห่ยมากครับ

คือ กางเกงสีแสบตา เสื้อคอตั้ง ปลดกระดุมเสื้อบน คงนึกว่าเท่มากสิครับ



ดูจากรูปนิ่งอาจไม่รู้สึกเท่าไหร่ แต่ถ้าดูในรายการรู้สึกขัดลูกตามากครับ

ผมขอบอกว่า ด้วยวัย ด้วยรูปร่าง ด้วยบุคลิกภาพ ความน่าเชื่อถือ ของคุณพิศณุ การใส่แบบนี้มันไม่เข้ากับตัวคุณพิศณุเลยครับ

ดูแล้วออกรำคาญตามากกว่า เพราะคุณพิศณุไม่ได้เท่แบบเอริค คันโตนา ไม่ได้หล่อหุ่นดีแบบ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ผมก็เข้าใจนะว่า คุณพิศณุย้ายช่องมา ก็อยากแปลกใหม่ อยากดูหนุ่มขึ้น อยากดูสดใสขึ้น

แต่บางครั้งอะไรที่มันไม่ใช่ !! ก็คือไม่ใช่ครับ จากเท่ กลายเป็นเท่เรศมากกว่า

แนะนำด้วยความหวังดี เชื่อผม กลับมาเป็นกูรูที่ดูภูมิฐานน่าเชื่อถือสมวัยดีกว่าครับ

ข้อเสียของรายการสองข้างทาง ไทยพีบีเอส






รายการ สองข้างทาง ที่ออกอากาศทางไทยพีบีเอส โดยพิธีกร 2 สาวเดินทางไปในหลายประเทศแล้วนำเสนอ เป็นกึ่งสารคดีกึ่งการท่องเที่ยว

รายการนี้ดีทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียว

คือผมไม่ค่อยอยากดูเพราะ มันสร้างความสุขและความเสียอารมณ์ทางสายตากระทบโสตประสาทของผมสลับกันไปกันมา จนผมไม่ค่อยอยากดูรายการนี้ เพราะรู้สึกเครียดทุกครั้งเมื่ออารมณ์ดี ๆ ต้องมาสลับการต้องอดทนดู

สิ่งที่ทำให้ผมเกิดอารมณ์แปรปรวนในการดูรายการสองข้างทาง ก็คือ

ผมอยากดูเฉพาะผู้ดำเนินรายการสาวสวย คนในรูปข้างล่าง ดำเนินรายการหน้าจอเท่านั้น




ตอนดูผู้ดำเนินการคนนี้ออกหน้าจอ อารมณ์ผมแจ่มใส มองไปเพลินตาเพลินใจไปอย่างมีความสุข

แต่พอผู้ดำเนินการร่วมอีกคนโผล่มาสลับ ผมเครียดทันที ทำไงได้ ผมชอบอาหารตาด้วยนี่

ทำให้เวลาดู พอคนสวยออกก็ดู พอคนไม่สวยออก ก็ขอฟังแต่เสียงพอ 555

หากรายการเป็นสองสาวที่ไม่สวยทั้งคู่ ก็คงไม่มีปัญหา แต่บังเอิญรายการมีผู้ดำเนินรายการคนนึงสวยมาก อีกคนไม่สวยเลย

ผมย่อมอยากเลือกอยากดูคนสวยในช่วงเวลาเต็ม ๆ ซึ่งเชื่อว่า แฟนรายการนี้ที่เป็นผู้หญิงคงไม่เห็นด้วยกับความคิดของผม

ขอบอกว่า ผู้ดำเนินรายการสองข้างทางคนในรูปข้างบนสวยน่ารักดีครับ ดูเพลินตาเพลินใจ

ที่จริงผมไม่ได้รังเกียจผู้ดำเนินรายการที่ไม่สวย แต่ในเมื่อรายการมีกัน 2 คน ก็ควรเลือกคนสวยมาออกเยอะ ๆ สิ แต่รายการนี้กลับกลายเป็นว่า คนไม่สวยดันออกในรายการมากกว่าเยอะ ส่วนคนสวยดันไปเป็นตากล้องซะเป็นส่วนใหญ่นี่สิ

มันทำให้ผมเครียด !!

สุดท้ายสำหรับความคิดผมรายการสองข้างทางล้มเหลว ก็เพราะผมไม่อยากดู เพราะขี้เกียจเครียดครับ 5555

ผมว่า รายการสองข้างทางยังสู้รายการหนังพาไป ของหนุ่ม 2 คนที่ดูแอ๊บชาย ยังดีกว่าเยอะ

ผมว่านะ

------------

ล่าสด 11 ตุลาคม 2557 รายการ สองข้างทาง หรือ Along way home ได้มาออกทางไทยพีบีเอสอีกครั้ง ผมก็เผอิญได้ดูอีก เพราะแม่ผมเปิดมาเจอ

ผมก็ยังเครียดเหมือนเดิม คือ มีพิธีกรคนไม่สวยคนเดิมออกหน้าจอเกือบตลอดทั้งรายการ

ผมบอกให้แม่เปลี่ยนช่องหน่อย เพราะผมเครียดทุกครั้งที่ดูรายการนี้ แม่ดันไม่ยอมเปลี่ยนช่อง

ผมเลยไปบ่นหน้าเพจของรายการ Along way home แล้วเอาลิงค์บทความนี้ไปแปะ

สุดท้ายผมโดนเพจรายการสองข้างทางแบนผมทันที

ฮ่า ๆ รายการยอมรับความจริงไม่ได้ล่ะสิ !!

ก็ดูสิครับ พิธีกรมี 2 คน คนสวยกับคนไม่สวย แล้วดันให้คนไม่สวยดำเนินรายการหลัก จะให้ไม่เครียดได้ไง ?? 555



คลิกอ่าน สถานีไทยพีบีเอส คือสถานีทีวีที่ดีที่สุด


วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รัฐบาลยิ่งลักษณ์เห็นชีวิตคนไทยไร้ค่า กรณีอ่าวพร้าว







เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์มองเห็นชีวิตของคนไทยไร้ค่า มองเป็นชีวิตคนไทยสำคัญน้อยกว่าการท่องเที่ยว จึงพยายามปกปิดความจริงทุกอย่างมาตั้งแต่เกิดปัญหาคราบน้ำมันดิบรั่วเข้าอ่าวพร้าว

หากได้ตามข่าวมาโดยตลอด เราจะเห็นรัฐบาลปกปิดข้อมูลหลายต่อหลายอย่างต่อประชาชน โดยคนในรัฐบาลนี้จะเข้าข้าง ปตท. อย่างออกนอกหน้า

จนกระทั่งกรณีล่าสุด เรื่องสารปรอทปนเปื้อนในน้ำทะเลอ่าวพร้าว ซึ่งผมจะลำดับเหตุการณ์ให้เห็นดังนี้

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 56 อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ แถลงว่าน้ำทะเลอ่าวพร้าวมีค่าสารปรอทเกินกว่าค่าปกติถึง 29 เท่า และได้เตือนประชาชนว่าไม่ควรลงเล่นน้ำทะเลอ่าวพร้าวในช่วงนี้

พออธิบดีกรมควบคุมมลพิษแถลงออกไปเท่านั้น ก็ทำให้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่เชื่อ และสั่งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เป็นเจ้ากระทรวงที่กรมควบคุมมลพิษสังกัดอยู่ ให้กลับไปตรวจสอบใหม่

ส่วน รมว.กระทรงทรัพยากร ก็มีท่าทีไม่พอใจการแถลงข่าวของกรมควบคุมมลพิษ โดยให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้ตำหนิ แต่ถ้าจะแถลงอะไรที่มีผลกระทบวงกว้าง ก็ควรมาปรึกษาหารือกันก่อน

หรืออย่างนายปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ได้ไปว่ายน้ำสร้างภาพที่อ่าวพร้าวมาแล้ว ก็ถึงกับออกมาตำหนิอธิบดีกรมควบคุมมลพิษว่า

"ตนได้ตำหนินายวิเชียรว่าการให้ข้อมูลต้องแม่นยำ เนื่องจากข้อมูลผลตรวจจัดเก็บคุณภาพน้ำ เป็นข้อมูลเก่าของวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่มาเปิดเผยวันที่ 13 ส.ค.นี้ ทำให้คนตกใจ ทั้งนี้ยอมรับว่าการทำงานวิเคราะห์ต้องล่าช้า แต่บางประเด็นอะไรที่เร่งด่วนก็จะต้องเร่งห้องแล็บเพราะอยู่ในวิสัยที่ทำได้ในระยะเวลา 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ควรต้องวัดคุณสมบัติน้ำอันเกิดจากน้ำมันโดยตรงเน้นที่สารไฮโดรคาร์บอนมากกว่าเพราะน้ำมันรั่วจากเรือ"

"ผมยืนยัน 100% ว่าตอนนี้ว่าคุณภาพน้ำทะเลปลอดภัยลงเล่นน้ำได้ ประชาชนไม่ต้องตกใจ เพราะข้อมูลผลตรวจเป็นข้อมูลเก่า ซึ่งวันนี้ผ่านมา 10 วันแล้ว ถ้าให้ผมไปว่ายน้ำก็ยังจะไป และจะให้อธิบดี คพ.ลงไปว่ายน้ำกับผม แต่จะไม่ไปว่ายกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รวมทั้งจะไม่ไปตรวจสุขภาพแน่นอน อย่างไรก็ตาม ส่วนอาหารทะเล เป็นห่วงโซ่อาหารระยะยาว จำเป็นต้องติดตาม ผลกระทบระยะยาวอย่างต่อเนื่อง" นายปลอดประสพกล่าว

ต่อมาวันที่ 14 สิงหาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กลับบอกว่าเล่นน้ำทะเลอ่าวพร้าว-อ่าวทับทิม ปลอดภัย เผยสารปรอทที่ตกค้างหลังน้ำมันดิบรั่วไม่เข้าสู่ร่างกายผ่านการสัมผัส เว้นแต่เผลอกิน-สูดดมในปริมาณมาก ๆ

ต่อมากรมควบคุมมลพิษจนัดว่าจะแถลงผลตรวจสารพิษปนเปื้อนครั้งต่อมาอีกครั้ง ในวันที่ 15 สิงหาคม 56 แต่อยู่ ๆ ก็ถูกเลื่อนการแถลงข่าวออกไป ทำให้หลายคนสงสัยว่า โดนอำนาจทางการเมืองเข้าแทรกแซงหรือไม่ ?

จนเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 56 กรมควบคุมมลพิษ ถึงได้ออกมาแถลงผลตรวจสารพิษปนเปื้อนในทะเลรอบอ่าวเสม็ดอีกครั้ง

และแล้ว ผลตรวจล่าสุดกลับพบว่า ค่าสารปรอทในทะเลอ่าวพร้าว ก็ได้กลับมามีค่าต่ำกว่าค่าปกติแล้วอย่างมหัศจรรย์ จากที่เคยมีค่าสารปรอทเกินค่าปกติถึง 29 เท่า

บอกตามตรง เราคนไทยควรยึดปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า อย่าไปฟังพวกรัฐบาลให้ข่าวมากนัก ไม่งั้นคุณอาจตายฟรี !!

เพราะรัฐบาลนี้เห็นแก่เงินและตัวเลขทางเศรษฐกิจ มากกว่าความปลอดภัยของชีวิตคนไทย !!

ตอบบอร์ดเสรีไทย จากบทความคนอีสานฉลาดที่สุดถ้า...







จากบทความเรื่อง คนอีสานฉลาดที่สุด ถ้า.... ? 

ที่ผมเขียนไป ใครยังไม่ได้อ่านลองไปอ่านบทความก่อนนะครับ ถึงจะอ่านบทความนี้เข้าใจ

ผมก็ไม่นึกว่าทางบอร์ดเสรีไทยจะมีคนนำไปโพสแล้วถามความเห็นถึงบทความนั้นของผม ตามลิงค์นี้ คลิก!!

ผมได้อ่านหลาย ๆ ความเห็นในบอร์ดเสรีไทยแล้ว ได้พบความเห็นค่อนข้างโง่ ๆ ในบางความเห็น เลยนึกอยากจะตอบความเห็นเหล่านั้น

แต่เพราะผมไม่ใช่สมาชิกบอร์ดนั้น ก็เลยต้องนำมาตอบในบล็อคของผมแทน


ความเห็นแรกของคนที่ใช้ชื่อว่า "ม่านน้ำ"



ผมขอตอบคุณม่านน้ำว่า

คุณเป็นคนที่อ่านบทความไม่แตก ผมไปบอกตรงไหนว่าใครเป็นพระอรหันต์ ผมแค่ถามในบทความว่า พระอรหันต์มีมากที่ภาคไหนมากที่สุด ซึ่งถ้าคุณไม่โง่ คุณควรจะรู้ว่า พระอรหันต์นั้นจะจริงจะแท้ ต้องดูตอนที่ท่านได้มรณภาพไปแล้ว อัฐิของพระรูปนั้น ๆ จะกลายเป็นพระธาตุ ซึ่งคือสิ่งการันตีว่า พระรูปนั้น ๆ ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ซึ่งภาคอีสานนั้นมีพระธาตุของพระจากอีสานมากที่สุด

ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองไปเสาะหาความรู้เพื่มเติมมาก ๆ นะครับ

ส่วนในบทความที่ผมเขียนว่า หลวงปู่มั่น หลวงปู่ชา ผมแค่บอกว่าท่านเป็นพระสุปฏิปันโนเท่านั้น หมายถึงพระผู้ปฏิบัคิดี ปฏิบัติชอบ ในบทความผมไม่ได้ชี้ว่าใครคือพระอรหันต์

ฉะนั้น หัดอ่านหนังสือให้แตกครับ คุณม่านน้ำ


ความเห็นของคนที่ใช้ชื่อว่า "hinotori"



ผมขอตอบคุณ hinotori ว่า

การที่คุณไม่เชื่อเนื้อหาในบทความนั้นไม่เป็นไร แต่ผมสงสัยว่า คุณเข้าใจเนื้อหาในบทความมากแค่ไหนต่างหาก

ในบทความผมบอกและย้ำว่า คนอีสานจะฉลาดได้ก็ต้องมีศีลธรรม มีคุณธรรมนำชีวิต เพราะหากปราศจากสิ่งเหล่านี้ คุณอีสานจะไม่ฉลาด เพราะจะถูกความเสื่อมดึงให้โง่

นี่คือหัวใจของบทความผม ฉะนั้นสิ่งที่คุณยกมาหลายข้อนั้น มันแสดงถึงคนไม่มีศีลธรรม ไม่มีคุณธรรมครับ

ดังนั้นผมจึงเชื่อว่า คุณก็เป็นอีกคนที่อ่านเนื้อหาบทความไม่แตก



ความเห็นของคนที่ใช้ชื่อว่า "baboon"

คลิกที่รูปเพื่อขยาย


ผมขอตอบคุณ baboon ว่า

ในบรรดาความเห็นทั้งหมดที่ผมอ่านมา ความเห็นคุณจัดว่าโง่ที่สุดครับ เพราะผมไม่ได้บอกว่าพระเกจิมีมาก ผมเขียนว่า พระอรหันต์ที่ภาคไหนมีมาก ?

คำว่า พระเกจิ แตกต่างกับ พระอรหันต์ เพียงเท่านี้ก็รู้ว่าคุณสับสนแล้วครับ

แล้วยิ่งการที่คุณบอกว่า งั้นเอาพระมาเป็น รมต. เลยมั้ย ? 

นั่นยิ่งแสดงให้เห็นความโง่ของคุณมีมากครับ ผมคงไม่อธิบาย เพราะอธิบายไปคุณคงไม่เข้าใจอยู่ดี 555



ความเห็นของคนที่ใช้ชื่อว่า "Bourne"

คลิกที่รูปเพื่อขยาย



ผมขอตอบคุณ Bourne ว่า

คุณเป็นคนที่ยกอะไรยกมาไม่หมด ที่ผมเขียนว่า คนอีสานโดยเนื้อแท้แล้วเป็นคนฉลาดที่สุด ผมได้เขียนต่อไปอีกว่า แต่คนอีสานมักถูกหลอกจากคนชั่วโดยง่าย เพราะคนอีสานเป็นคนซื่อ

การที่คนอีสานโดนหลอกเพราะคนอีสานเป็นคนซื่อนั้น ก็ไม่ได้แปลว่า คนอีสานเป็นคนโง่นะครับ คนละประเด็นกันเลย

คนซื่อ ก็คือคนดี คนซื่อมักมองโลกในแง่ดี จึงคิดว่าคนที่มาทำดีด้วยนั้น เขาเป็นคนดีเหมือนกับตัวเอง สุดท้ายก็เลยถูกชักนำพาไปในทางเสื่อมโดยที่อาจกลับตัวกลับใจไม่ทัน เพราะมันสายไปเสียแล้ว

คนอีสานเป็นคนฉลาด จริงใจ จึงมักไว้ใจคนที่มาทำดีด้วยโดยง่าย นี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมคนอีสานถึงมักถูกหลอกครับ

การที่คนเราโดนหลอก ก็ไม่ได้แปลว่า เราต้องโง่ไปตลอดชีวิตนะครับ



ความเห็นของคนที่ใช้ชื่อว่า "colt rampant"



ผมขอตอบคุณ colt rampant ว่า

คุณเข้าใจถูกต้องครึ่งเดียวครับ เจตนาครึ่งนึงผมต้องการด่าพวกฟายแดงอีสานจริง ๆ นับว่าคุณฉลาดครับที่เข้าใจเจตนาครึ่งหนึ่งของผมได้ 555


-----------------------------


สรุป คือผมอยากจะบอกว่า คนเรานั้นหากมีความโลภ และไม่มีคุณธรรม มันก็จะพาให้คนเราโง่ได้เสมอ เราจึงมักได้เห็นคนโดนพวก 18 มงกุฎต้มตุ๋น เพราะใช้ความโลภของคนมาเป็นเหยื่อล่อ

การที่คนเรามีความโลภ เห็นแก่เงิน จึงมักโดนหลอกได้ง่าย แต่หากวันใดเราเลิกโลภได้ เราก็จะฉลาดขึ้น

คนอีสานนั้นยากจนเป็นส่วนใหญ่ จึงมักถูกคนชั่วนำอามิสหรือประชานิยมอะไรก็ตามแต่มาล่อหลอกให้คนอีสานหลงเชื่อ หลงใหล

หากวันใดคนอีสานไม่โลภไม่หลงในสิ่งที่เขานำมาล่อหลอก แลเวคนอีสานหันมายึดคุณธรรมนำชีวิต ก็จะไม่มีทางที่คนโกงแต่ให้ ได้มาเป็นขวัญใจของคนอีสานอย่างแน่นอนครับ



วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คำด่าที่แสบที่สุดใน ปี 2556






เมื่อกระเทยด่าสก๊อย

กระเทย "โธ่อีแรด อีชะนี"

สก๊อย "เหรอ ๆ ไม่เห็นเจ็บตรงไหนเลย"

กระเทย "โถ อีปู อีโฟร์ซีซั่น อีปูรณาการ "

สก๊อย "แงแง กูจะไปฟ้องผัวกูว่ามึงด่ากูโง่ ด่ากูร่าน ด่ากูขายชาติ แงแง"

5555 /akecity

-----------------

แรดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกน้ำนม เป็นสัตว์ที่จัดว่าอยู่ในชั้นที่สูงกว่าปู แรดมีสมองที่ฉลาดดกว่าปู

ปูเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ปูไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนม ถือเป็นสัตว์ชั้นต่ำกว่าแรด สมองก็แทบไม่มี

ถ้าใครโดนด่าว่าอีแรด จึงถือว่า แสบไม่มาก

แต่ถ้าใครโดนด่าว่า อีปูสิ แสบสันต์เลยล่ะ จะบอกให้ 55555 /@akecity

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สำนักงานตำรวจหน้าแหก น้องเมย์ รัชนกไม่อยากเป็นตำรวจ






หลังจากน้องเมย์ รัชนก ได้แชมป์โลกแบตมินตันประวัติศาสตร์ ก็สมควรได้รับการตอบแทนจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนตัวอย่างตำรวจบางนายในรูปข้างล่างเกิดอยากจะให้



ตำรวจคนนี้รวยจัง เงินเดือน ผบ.ชน.เท่าไหร่หว่า หรือฟอกส่วยเอ่ย ? 555


และหน่วยงานรัฐที่รีบชิงตัวน้องเมย์ไปเข้าสังกัดก่อนหน่วยงานใด ๆ จะได้ไป ก็คือสำนักงานตะกวด เอ้ย! สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รีบประกาศบรรจุน้องเมย์เข้ารับราชการตำรวจในทันที ซึ่งจะมีพิธีมอบตำแหน่ง จ.ส.ต. แก่น้องเมย์อย่างเป็นทางการในกำหนดเดิมคือในวันที่ 15 สิงหาตม 56 นี้

แต่บังเอิญน้องเมย์ถูกเชิญไปตีแบตกับ น้องชายต่างมารดาของทักษิณ คือ พล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ชน. ในวันที่ 14 สิงหาคมซะก่อน

ผมดูจากข่าวทุกช่อง น้องเมย์สีหน้าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ สงสัยจะพักผ่อนน้อย น้องเมย์ไม่ค่อยจะยิ้มเลย ออกหน้าตาเครียด ๆ ยังไงไม่รู้ (บางกระแสบอกว่า น้องเมย์เพิ่งไปถอนฟันมา)

และหลังจากน้องเมย์รับเงินส่วนตัวของคำรณวิทย์แล้ว นักข่าวไดัสัมภาษณ์น้องเมย์ถึงการรับเข้าราชการตำรวจ ซึ่งน้องเมย์ก็เลยได้ปลดปล่อยความอัดอั้นและความเครียดในทันที ด้วยการตอบเรื่องนี้แก่นักข่าวว่า

“เรื่องการเข้ารับราชการตำรวจนั้น หลังจากที่ได้ปรึกษากับแม่ปุก (นางกมลา ทองกร) หนูได้ตอบปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้ว เพราะต้องการที่จะมุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมโดยมีเป้าหมายสำคัญในการเป็นมือ 1 โลก และเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์อยู่ จึงอยากที่จะขอทุ่มเทตรงจุดนี้ แต่หลังจากนี้หากหนูเรียนจบชั้นปริญญาตรีแล้ว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังยินดีที่จะเปิดโอกาสให้เข้ารับก็ค่อยว่ากันอีกทีรัชนก กล่าว


เรามาลองพิจารณาในประโยคสุดท้ายของน้องเมย์กันอีกรอบ

"แต่หลังจากนี้หากหนูเรียนจบชั้นปริญญาตรีแล้ว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังยินดีที่จะเปิดโอกาสให้เข้ารับก็ค่อยว่ากันอีกที "


สะใจเหลือเกิน ขนาดเรียนจบแล้ว น้องเมย์ก็ยังไม่กล้ารับปากว่าจะมาเป็นตำรวจ แต่กลับบอกว่า แล้วค่อยว่ากันอีกที !!

แสดงว่า น้องเมย์ไม่ได้อยากจะเป็นเลย ไอ้ตำรวยตำรวจอะไรนี่

แต่น้องเมย์ก็ต้องรักษาน้ำใจ ตอบไปแบบรักษามารยาท แต่ถ้าฟังดี ๆ ก็จะรู้ว่า น้องเมย์นี่ไม่เบาเลยนะ เพราะกว่าน้องเมย์จะเรียนจบ ผบ.สตช.คนนี้ก็คงเกษียณไปแล้ว 5555

งานนี้คนที่หน้าแหกที่สุดก็คือ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั่นแหละ 55555555



มุขเด็ด สส.รังสิมา ในอภิปรายงบประมาณปี 57






การอภิปรายงบประมาณปี 57 วาระ 2 ในวันแรก

สส.รังสิมา จากสมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายว่า

"ดิฉันหาที่จอดรถในรัฐสภาไม่ได้ วนหาที่จอดตั้งนานก็หาไม่ได้ พวก สส. เห็นแก่ตัวบางคน เขาให้ รถ สส. จอดคันเดียว แต่ดันไปทำบัตรปลอมให้ลูกน้องเข้ามาจอด

พอดิฉันหาที่จอดไม่ได้ ก็เลยไปจอดที่จอดของนายกรัฐมนตรีซะเลย น้องรปภ. ก็ใจดีให้จอด ดิฉันบอกว่า น้องนายกมายัง ถ้ายังเอาป้ายนายกออกเลย เดี๋ยวพี่มีคิวอภิปราย ถ้านายกมาก็ให้มาเรียกพี่ พี่อยู่ห้องกาแฟ

ท่านประธานคะ ถ้าต่อไปถ้าท่านนายกไม่มา จำไว้เลยนะคะ ดิฉันขอจองที่จอดรถของท่านนายก เดี๋ยวดิฉันทำป้ายชื่อของดิฉันมาเอง"

55555/@akecity


----------------

ที่จริงเมื่อวานนี้ ยังมี สส. ที่อภิปรายได้ดีอีกคนนึงคือ สส. สุกิจ พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดตรัง

ผมนอนฟัง นายแพทย์สุกิจ อภิปราย เพลินเลยครับ เพราะอภิปรายได้น่าฟัง มีสาระ แถมลูกเสียดสีนิดหน่อยพอเอาฮา

ถ้าได้ฟัง สส.สุกิจ จนจบ ท่านจะได้สาระความรู้ไม่น้อย



แต่ที่ผมชอบช่วงฮาช่วงหนึ่งที่ สส.สุกิจ อภิปรายคือ (เท่าที่ผมจำได้นะ)

"ผมขอยืมคำพูดของท่านชัย (ชิดชอบ)  ที่ท่านเคยกล่าวว่า ถ้าใครพบ สส. หนีไปอยู่ที่ไหน ในช่วงประชุมสภาช่วยจับมาส่งด้วย ผมเลยอยากบอกหน่วยงานราชการต่าง ๆ ว่า ถ้าใครหรือหน่วยงานใดพบท่านนายกที่ไหน ช่วยจับท่านนายกมาส่งด้วย เพราะผมมีคำถามจะถามเรื่องงบประมาณปรองดองที่กองทัพได้ไปกับท่านนายกในฐานะ รมว.กลาโหม เห็นว่าวันนี้ท่านนายกไปกองบัญชาการกองทัพไทย วันอื่นมีท่านก็ไม่ไป ท่านก็ต้องมาไปในวันนี้"


คลิกที่รูปเพื่อขยาย !!

เมื่อวานนายกปูไปเดินให้ทหารสวน เอ้ย ไปเดินสวนสนาม ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (โดดสภา) โดยมีผู้นำกองทัพไปรอเชลียทุกนายโดยพร้อมหน้ากัน



วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปลอดประสพ สร้างภาพแบบโง่ ๆ ที่อ่าวพร้าว







ไอ้รัฐบาลชั่วมันพยายามหาทางปกป้องช่วยเหลือ ปตท. ทุกทาง ถ้าเราได้ตามข่าวกันมาตลอด

ทั้งพยายามแก้ต่างว่า น้ำมันดิบเป็นสารจากธรรมชาติ จึงไม่อันตราย (ไม่อันตรายพ่อมึงดิ)

หรือพยายามบอกว่า ปะการังในอ่าวพร้าว ปลาในอ่าวพร้าวยังเป็นปกติดี

รวมทั้งพยายามไม่ให้ประชาชนฟ้องร้อง ปตท.

และเมื่อไม่กี่วันก่อน นายปลอดประสพ สุรัสวดี ก็ยังไปว่ายน้ำเล่นในอ่าวพร้าวอีก ตามรูป



ภาพจาก astv


ล่าสุด 13 สิงหาคม 56 ผลตรวจสอบน้ำทะเลในอ่าวพร้าวออกมาแล้วว่า อ่าวพร้าวมีค่าสารปรอทสูงกว่าค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลมากถึง 29 เท่า คือมีสารปรอทมากถึง 0.29 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่งค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลกำหนดว่าจะต้องไม่เกิน 0.1 ไมโครกรัมต่อลิตร

ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา.ที่อ่าวพร้าวเกาะเสม็ด จ.ระยอง นายปลอดประสพ สรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาติดตามการกู้คราบน้ำมันดิบของ บ.พีทีทีซีจี รั่วไหลกลางทะเล หลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

นายปลอดประสพ ได้ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดว่ายน้ำ และได้ลงเล่นน้ำบริเวณอ่าวพร้าว พร้อมนายบวร วงศ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.พีทีทีซีจี และยังได้ขุดทรายโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย

โดยนายปลอดประสพยืนยันว่า น้ำทะเลที่อ่าวพร้าวแห่งนี้ใสสะอาดปลอดภัย และหาดทรายขาวสะอาดแล้ว ซึ่งได้รับการฟื้นฟูจนกลับคืนสู่สภาพปกติเกือบจะ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว

--------------------------

สร้างภาพหลอกควาย งานถนัดของพวกรัฐบาลอีโง่

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนในรัฐบาลนี้พยายามสร้างภาพเพื่อหลอกควายทั้งแผ่นดิน ถ้าคนไม่ใช่ควายย่อมรู้ดีว่า รัฐบาลนี้ได้สร้างภาพเรื่องอะไรผ่านมาบ้าง

อย่างนายปลอดประสพ ก็คือตัวอย่างที่ชัดเจนมากว่า คนในรัฐบาลนี้ใช้วิธีคิดแบบตื้น ๆ ในการสร้างภาพ แต่ก็นั่นแหละ วิธีตื้น ๆ มันก็ยังใช้ได้ผลเสมอกับพวกควายแดงเสมอ

การลงไปว่ายน้ำดำผุดดำว่าย แล้วบอกว่า อ่าวพร้าวสะอาดแล้ว ปลอดภัยแล้ว จึงเป็นความคิดที่ดูถูกคนในประเทศนี้ว่า ส่วนใหญ่มันมักจะเชื่อการสร้างภาพมากกว่าเชื่อด้วยเหตุผลและหลักการความถูกต้อง

ส่วนนายปลอดประสพ ไม่รู้แดกน้ำทะเลไปมากแค่ไหน แต่สารปรอทมันก็สามารถซึมเข้าเนื้อเยื่อทางผิวหนังได้

หวังว่าอีกไม่นานคงได้ยินข่าวดีจากนายปลอดประสพ ที่จะได้เป็นนายปรอทประศพ เร็ว ๆ นี้ 555

----------------

ฮีโร่อ่าวพร้าวตัวจริงคือ ทหารเรือ !!

ฮีโร่ตัวจริงอย่าง เหล่าพลทหารเรือที่ลงไปช่วยเก็บกู้และทำความสะอาดอ่าวพร้าว ได้เคยลงไปว่ายน้ำเล่นในอ่าวพร้าวมาก่อนแล้วอย่างสนุกสนาน

พลทหารเรือนี่เป็นทั้งฮีโร่ตัวจริง และเป็นหนูทดลองที่ถูกสั่งให้ลงไปว่ายน้ำเล่น เพื่อว่า ก่อนที่รองนายกฯ จะมาสร้างภาพ จะได้เกิดความมั่นใจในระดับหนึ่งว่า อ่าวพร้าวปลอดภัย

สงสารพลทหารเรือ เพราะตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่อง พลทหารเรือก็เข้าปฏิบัติการณ์เก็บกู้คราบน้ำมัน ไม่รู้ได้รับสารพิษสะสมไปมากแค่ไหนแล้ว ซึ่งจนถึงวันนี้ทหารเรือยังอยู่เก็บกวาดและทำความสะอาดอ่าวพร้าวมาโดยตลอด

ไม่ใช่การสร้างภาพเหมือนที่ รัฐบาล และ ปตท. พยายามจะทำ



เหล่าพลทหารเรือ ลงเล่นน้ำในอ่าวพร้าว !!




วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การเมืองต้องแก้ในสภา นะคะ !!






ขำขัน

ณ.ที่ห้องประชุมใหญ่นอกรอบห้องหนึ่ง ในอาคารรัฐสภา

"การเมืองต้องแก้ในสภานะคะ ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น ?" เจ๊ปูถามขึ้น

มีคนยกมากมาย โดยเฉพาะสส.ในพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนยกมือถ้วนหน้า

เด็ดเพ่ "ขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ที่เห็นด้วยกับท่านปูของพวกเรา นี่คงเป็นสิ่งเดียวล่ะมั้ง ที่พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยและสนับสนุนการสู้ในสภาของพวกท่านประชาธิปัตย์"

รมช. เต้นเผาเมือง "นี่แหละครับ ประชาธิปไตยที่แท้จริง พรรคประชาธิปัตย์คิดถูกแล้ว ที่เลือกไม่เล่นการเมืองบนถนน ต้องมาเล่นในสภานี่แหละดีแล้ว ถึงจะสมกับเป็น สส.ของปวงชนชาวไทย อ้อ ! ท่านทักษิณก็ฝากผมมาขอบคุณสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนเช่นกัน"

หลังจากออกจากที่ประชุมนั้น ปู เด็ดเพ่ และไอ้เต้น ต่างหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็งกันใหญ่

5555555/@akecity




วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

น้องเมย์ รัชนก สวยขึ้นทันตาเห็น







น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ แชมป์แบตมินตันหญิงโลกคนล่าสุด และคนแรกของไทย สามารถล้มมือ 1 ของโลก และแชมป์โอลิมปิคคนล่าสุดจากจีนลงได้อย่างสุดยอด !!

น้องเมย์ เธอ Born to be เพื่อแบตมินตันแท้ ๆ คือเป็นนักแบตพรสวรรค์ มีแววเก่งแบบเหลือเชื่อตั้งแต่เด็ก จนได้แชมป์แบตมินตันเยาวชนโลกที่อายุน้อยที่สุด ตอนอายุแค่ 13 ปีกว่า ๆ และเป็นคนแรกที่ได้แชมป์แบตมินตันเยาวชนโลก 3 สมัยติดต่อกัน

และตอนนี้ก็ยังทำสถิติเป็นแชมป์แบตมินตันหญิงโลกที่อายุน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย ด้วยวัย 18ปี 6เดือน แถมยังเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่แชมป์โลกไม่ใช่ชาวจีนอีกด้วย

และไทยเป้นชาติที่ 3 ของโลกที่ได้แชมป์โลกแบตมินตัน ก่อนหน้านี้มีเดนมาร์ค อินโดนีเซียและจีน

นี่คือ พรสวรรค์ของน้องเมย์แท้ ๆ

วินาทีชนะ วินาทีได้แชมป์ !!





วินาทีชูถ้วยแชมป์





น้องเมย์ "กำลังเดินทางกลับไปเมืองไทยนะคะ คืนนี้เจอกันคะ"





น้องเมย์ "อะไรอยุในกล่องนี้อยากเห็นมารอที่สนามบินนะค้ะ.



น้องเมย์ราศีจับสวยขึ้นผิดหูผิดตา !!

(ทุกรูปจากเฟซบุ้คน้องเมย์)


นักข่าวช่อง 3 ถามว่า พรุ่งนี้วันแม่ น้องเมย์อยากพูดอะไรถึงแม่และกับคนไทยทั่วประเทศบ้าง

น้องเมย์ รัชนก ให้สัมภาษ์เมื่อเดินทางมาถึงไทยว่า "แชมป์นี้เมย์ขอถวายแด่พระราชินี ในหลวง และแม่
ส่วนเมย์ตั้งใจว่า อยากจะซื้อเครื่องซักผ้าให้แม่ซักเครื่อง เพราะแม่ซักผ้าให้เมย์ด้วยมือมาตลอด หนูก็ไม่อยากให้แม่เหนื่อย"

/akecity

-------------

ตอนนี้ผมว่าคนไทยเราทุกคนต้องส่งใจให้กำลังใจเพื่อให้น้องเมย์ไปให้ถึงเหรียญทองโอลิมปิกให้ได้นะครับ

อยากให้น้องเมย์เป็นนักแบตเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทยจังเลย สู้ ๆ


คลิปการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศประวัติศาสตร์ของน้องเมย์ รัชนก คว้าแชมป์โลกที่จีน




ผัวนันทิดา vs ผัวยิ่งลักษณ์ ความเหมือนที่แตกต่าง







ขำขัน

นักข่าว "ทำไมคุณเอ๋ ไม่จดทะเบียนกับคุณตู่ ล่ะคะ"

เอ๋ ชมม์สวัสดิ์ "เอ่อ.. เพราะผมเจ้าชู้มากครับ"



นักข่าว "ทำไมคุณอนุสรณ์ ไม่จดทะเบียนกับท่านนายก ล่ะคะ"

อนุสรณ์ "เอ่อ.. เพราะภรรยาผมเจ้าชู้มากครับ"

555555 /@akecity




---------------------


ปู นัดคุย เทพเทือก กันสองต่อสอง

ขำขัน

นักข่าว "จริงเหรอคะท่าน นายกปูนัดพบท่านสองต่อสอง"

เทพเทือก "จริงครับ ถ้าไม่จริงผมท้าให้ฟ้องได้เลย"

นักข่าว "นัดพบกันที่ไหนคะ"

เทพเทือก "ก็ที่เดิม โฟร์ซีซั่น ชั้น 7 "

นักข่าว "!!!??"

5555 /@akecity


คลิกอ่านข่าว "สุเทพ" ยัวะโดนกล่าวหาอยากเป็นรัฐบาล แฉกลับ "ปู" นัดพบสองต่อสอง หวังชวนร่วมรัฐบาล



คลิกอ่าน ความเหมือนที่แตกต่าง ลูกสาวเสธ.แดง vs ภรรยาพันเอกร่มเกล้า

วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ความเหมือนที่แตกต่าง ลูกสาวเสธ.แดง กับ ภรรยาพันเอกร่มเกล้า







ความแตกต่างของผู้สูญเสียเหมือนกัน

เดียร์ ขัตติยา ต้องการ กม. นิรโทษกรรม !!

ซึ่งจะทำให้ ฆาตกรยิงเสธ. แดง พ่อของเดียร์รอด เพราะมันไม่ใช่แกนนำ และผู้มีอำนาจสั่งการ

นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาพันเอกร่มเกล้า ไม่ต้องการ กม. นิรโทษกรรม เพราะต้องการหามาตกรยิงสามีของเธอมาลงโทษ !!

/@akecity

---------------------

อนิจจัง !!

บางครั้งคนเราพอจะโชคดีพ้นผิด พ้นโทษ ก็เสือกดันมาชิงตายปัจจุบันทันด่วนกะทันหัน ก่อนจะได้กลับบ้าน

ผมว่า จะต้องมีใครบางคนได้เจอเรื่องแบบนั้น แน่ ๆ 5555 /@akecity


---------------

คำทื่อ ก่อนนอน ครับ ^^

นิรโทษกรรม พวกมึงอาจทำได้

แต่กฎแห่งกรรม พวกมึงหนีไม่พ้นแน่นอน จากกู พญายมราช

ฝากมาให้น่ะ 5555555 /@akecity


----------

ทั้งหมดนำมาจากเพจกลุ่มปัญญาชนคนใต้ฟ้าข้าแผ่นดินไม่เอาพรรคเพื่อไทย



วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

จ่าประสิทธิ์ สส.หน้ารองเท้า !!






จากกรณีจ่าประสิทธิ์ สส.สุรินทร์ ยกรองเท้าขึ้นมาตรงหน้าตัวเอง ในสภาช่วงอภิปราย กม.นิรโทษกรรม นั้น

เป็นเหตุให้จ่าประสิทธิ์ ได้ฉายาใหม่จากมหาชนว่า

สส.หน้าส้นตีน สส.หน้าเกือก จ่าประสิทธิ์หน้ารองเท้า อีกมากมายนับไม่ถ้วนครับ 55




ทีเด็ดไอ้จ่าหน้ารองเท้า

สส.หน้ารองเท้า "ถึงผมจะหน้ารองเท้า แต่นายกปูก็เรียกผมไปแก้ขัดเป็นประจำนะคร้าบ ไม่อยากจะคุย ฮ่าๆ"


หมายเหตุ ถ้าถอดเอารองเท้าออกจากคอ เราจะเห็นจ่าประสิทธิ์หน้าส้นตีนครับ 555


คลิกอ่าน ถ้าจ่าประสิทธิ์ฝันว่านอนกับยิ่งลักษณ์ ผิดไหม ?

คลิกอ่าน พบคำตอบทำไมจ่าประสิทธิ์ถึงได้สถุล ?

สาเหตุที่คาดไม่ถึง ทำให้ฟุตบอลไทยไม่มีทางได้ไปบอลโลก






สาเหตุที่ไม่มีใครเคยคาดถึงว่า สาเหตุที่ฟุตบอลไทยไม่พัฒนา สาเหตุที่ฟุตบอลไทยไม่มีทางได้ไปฟุตบอลโลกได้แน่นอน

สาเหตุนั่นก็คือ สนามฟุตบอลไทยทุกสนามไม่มีหลังคาให้รอบด้าน !!

เชื่อผม !!! ถ้าตราบใด สนามฟุตบอลบ้านเรายังไม่มีหลังคาให้รอบด้าน ฟุตบอลไทยไม่มีทางได้ไปฟุตบอลโลกชั่วนิรันดร์ !!

ทำไมฟุตซอลไทย ได้ไปฟุตซอลโลกถึง 4 ครั้งติดต่อกันแล้ว ??

คำตอบคือ เพราะสนามฟุตซอลมีหลังคาปิดทั้งสนาม แถมบางทีสนามยังติดแอร์อีกด้วย

เมืองไทยมันเมืองร้อน แถมยังมีฝนมากอีกด้วย แต่สนามฟุตบอลทั้งประเทศไทย แม้กระทั่งสนามราชมังคลาฯ ก็ไม่มีหลังคาให้รอบด้าน

ด้วยสาเหตุนี้แหละ ที่ทำให้แฟนบอลไทยไม่ค่อยอยากจะมาดูบอลเป็นประจำ ๆ เพราะมันทั้งร้อน ทั้งฝน สู้ไปเดินห้างดีกว่า

เชื่อผม อยากให้ฟุตบอลไทยได้ไปฟุตบอลโลก ถ้าไม่เริ่มต้นแก้ที่เรื่องการมีหลังคาให้รอบสนามฟุตบอลทั่วประเทศก่อน

ทีมชาติไทยไม่มีทางได้ไปฟุตบอลโลกแน่นอน แค่แชมป์เอเซียก็ยังหวังไม่ได้เลย !!

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รวมความเห็นโดนๆ กรณี เจนี่ ชนม์สวัสดิ์ นันทิดา






คือข่าว เจนี่ จดทะเบียนกับ ชนม์สวัสดิ์ นั้น มันมองได้หลายแง่มุมจริง ๆ มีทั้งเห็นด้วย ทั้งไม่เห็นด้วย ล้วนแต่มีเหตุผลดี ๆ กันทั้งสองฝ่ายที่เชียร์ และต่อต้าน

แต่ผมว่า เราควรมองแบบผู้ดู ผู้ชมละคร ก็แล้วกันครับ กรณีนันทิดาท้องก่อนแต่งกับชนม์สวัสดิ์ แถมตอนนั้นพ่อผัวก็เริ่มมีประวัติว่าเป็นพวกเจ้าพ่อ กลิ่นคอรัปชั่นโชยตุ ๆ ตอนนั้นก็ทำเอาผู้คนอึ้งกันไปทั้งประเทศแล้ว และตอนนี้มันกำลังเริ่มตอนจบโลกคือละครของคุณนันทิดาแล้ว

ส่วนตอนนี้กำลังเป็นละครตอนแรกของเจนี่ แทน



รูปจากละครกรุงเทพราตรี ตู่ เจนี่ เล่นเป็นแม่ลูกกัน ซึ่งในละครฉัตรชัยเคยเป็นผัวตู่ แต่จะมาเอาเจนีที่เป็นลูกมาเป็นเมียเพราะความไม่รู้


ทีนี้เรามาดูความเห็นดี ๆ จากผู้อ่านเว็บผู้จัดการกันดีกว่าครับ มีทั้งสองแง่มุม


คห. 1

ขอเป็นกำลังใจให้้พี่่ตู่ตลอดไป
ตลอดมาได้รับรู้ว่าพี่ตู่เป็นภรรยาและคุณแม่ที่ประเสริฐของลูก
แม้มีข่าวตลอดมาแต่สิ่งที่สังคมเห็นคือ การวางตัวของพี่ตู่
ถ้าข่าวที่พี่ไม่เคยจดทะเบียนเป็นความจริง จะยิ่งขอยกย่อง
เพราะพี่ได้พิสูจน์แล้วว่า พี่แต่งงานด้วยใจ ไม่เคยคิดผูกมัดไม่ว่าด้านใด

แม้ว่าว้นนี้จะเป็นความสุขบนความทุกข์ของใคร
แต่ขอให้พี่ทราบว่า "นับจากนี้พี่จะยืนอยู่ในสังคมอย่างสง่างาม"

---------------

คห. 2

มองหลายมุม กรณีเจนี่

มุมหนึ่ง มุมสำคัญ
เราคิดว่า ดีใจกับนันทิดานะคะ ที่หลุดออกจากวงโคจรของคุณเอ๋ แบบมีคนเห็นใจเพียบเลย
ถ้าเขาไม่เคยจดทะเบียนกันมาก่อน หรือจดแล้วแต่หย่า
แต่ความจริงก็คือว่าเขาแยกกันอยู่มาหลายปีแล้ว แต่ยังดูแลกัน
มันก็เหมือนห่วงที่ผูกนันทิดาไว้กับความเป็นอัศวเหม ไปไหนไม่ได้เหมือนกันนะ

มุมที่สอง คุณเอ๋
เราว่า ในฐานะผู้ชาย ถ้าหย่าและแยกกันอยู่ หรือไม่เคยจดทะเบียนและแยกกันอยู่จริง
แต่ยังดูแลคุณตู่และลูก
ก็ถือว่า เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งนะคะ
คุณจะเอาอะไรกับเพศผู้ จะให้เขาถือพรหมจรรย์เพราะเหตุที่แยกกันอยู่กับภรรยาหรือคะ
หรือจะให้เขาออกมาป่าวประกาศว่า ที่มาดามตู่บอกว่า ยังเป็นภรรยานั้น ไม่จริง
ขีนทำแบบนั้น ก็โดนหาว่า ไม่แมนอีก
ตอนคุณโย เราว่าคุณโยก็คบแบบทราบว่า คุณเอ๋ไม่มีพันธะแล้วเพราะเธอก็เคยพูดทำนองนี้
เพียงแต่คุณเอ๋อาจจะไม่รักเธอมากพอ หรือสถานการณ์ไม่ได้บีบให้คุณเอ๋ต้องเปิดเผยก็ได้
คุณโยจึงเป็นแค่ คนเคยคบกัน แต่ไม่ไปสุดทางจนแต่งงานกัน

มุมที่สาม คุณเจนี่
เจนี่ที่ผิดมาก คือ ออกมาไม่ยอมรับว่า คบกัน
แต่ถ้าลองคิดถึงใจเขาใจเรา เราคิดว่า เข้าใจได้ อภัยได้
เพราะเราไม่คิดว่า เจนี่จะนึกว่าจะได้มาถึงปลายทางที่การแต่งงานเร็วอย่างนี้
คงลองคบกัน ซึ่งอาจจะไม่ work ก็ได้ บอก ออกตัวเร็วไป ก็มีสิทธิเงิบ

มุมสุดท้าย คือ น้องเพลง
น่าสงสารที่สุด
แต่เราเห็นใน Ig น้องเพลง น้องก็โตพอสมควรแล้ว
น่าจะพอทำความเข้าใจ ความสัมพันธ์ชายหญิงได้
ถ้าคุณพ่อน้องเขา ก็ยังดูแลลูกดีเหมือนเดิม

หญิงชาย แต่งงานกัน อยู่กันไม่ได้ แยกกันไปก็เป็นคนอื่น
แต่สายสัมพันธ์พ่อลูกยังไงก็ตัดกันไม่ขาดแน่ค่ะ

ส่วนคนนอกอย่างเรา ยินดีและอยากให้ทุกฝ่ายก้าวไปข้างหน้า
ยอมรับและมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเลือกและเป็น

ปล. เราว่า คนที่ตั้งแง่ด่า เจนี่ ด้วยเหตุผลที่ว่า ไปแย่งสามีที่จดทะเบียนของคนอื่น น่าจะเงิบ และขอโทษนะคะ
แต่ไม่ขอโทษก็ไม่ว่ากัน เพราะคุณอาจจะคิดหลายมุมเรื่องอื่นด้วย ด่าพ่วงเรื่องอื่นด้วย
แต่ถ้าเล่นประเด็นนี้ พอเขาเฉลยแล้ว ก็วกไปประเด็นอื่นต่อ อันนี้ไม่ค่อยแฟร์ แต่ก็นะ ใจใครใจมัน


------------

คห.3

ด้านหนึ่งก็เห็นใจคุณนันทิดา แต่อีกด้านหนึ่งก็สมน้ำหน้า เพราะสมัยแรกที่มีข่าวแต่งงานกับไอ้เห้นี่ ประชาชนแฟนเพลง ก็ผิดหวังและทักท้วงมาแล้ว
เพราะตระกูลไอ้เห้อัศวเหม ก็ไม่แพ้ไอ้หน้าเหลี่ยมเลยสักนืด โกงชาติ โกงแผ่นดิน ค้าของเถื่อน เป็นเจ้าของบ่อนรายใหญ่ สังคมไทยมันป่วย ก็ต้องปล่อยให้
กฎแห่งกรรมตัดสิน ขอเตือนเจนนี่สักหน่อย ใครๆในวงการก็รู้ว่าเธอกว้างขวางขนาดไหน เจนจัดมาแล้ว
ตอนนี้สมหวังแล้วก็รีบกอบโกยไว้ให้มากๆ เพราะเธอก็ไม่ใช่จะจีรังยั่งยืนตลอดไป เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์นะ

-----------

คห. 4

เอ๋เพิ่งหย่าพี่ตู่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก่อนพี่ตู่ไปเมกากับลูก
แถลงข่าววันนี้... โกหกสารพัดทั้งเจนี่และเอ๋

จ้างเมียใหญ่หย่า เพื่อจะมาจดกับเมียเด็ก
เจนี่.. เธอชั่วได้ใจจริงๆ

----------------

คห. 5

เงิบกันไปเป็นแถว ๆ จะไปด่าเจนี่ทำไมล่ะ ตกลงเขาเลิกกับพี่ตู่ไปเป็นชาติแล้ว แล้วที่แล้ว ๆ มาพี่ตู่มั่วว่าครอบครัวยังสุขสบายดี ไม่มีปัญหา ปล่อยให้ใครต่อใครเข้าใจยังเป็นผัวเมียกันอยู่เพื่ออะไร ทำไมไม่ยอมรับแล้วปล่อยให้ผู้ชายไปมีชีวิตของตัวเอง กั๊กแบบนี้ ตอนนี้หน้าแหกไหมล่ะ ผู้ชายออกมาประกาศโป้ง ๆ แบบนี้ซะเลย แถมจดทะเบียนโชว์ซะด้วย งามหน้าไหมล่ะ

-------------

คห. 6

คนที่ไม่ได้ตามข่าว..กรุณาเช็คข่าวด้วย!!!ก่อนจะกล่าวหาด่าใคร
.
คุณเอ๋..กับ..คุณตู่.ไม่เคยจดทะเบียนสมรส..มาก่อน!!
และทางคุณเอ๋...ได้แยกทาง..ห่างจากคุณตู่..หลายปีแล้ว
แต่มีลูกด้วยกัน...ทางคุณเอ๋..ก็รับผิดชอบเลี้ยงดูลูกสาวมาตลอด!!
.
แต่ทางด้านสถานะแล้ว..ถือว่าโสดนะคับ!!
คนส่วนใหญ่..ที่ว่าคุณเจนนี่..เพราะคิดว่าไปแย่งสามีคนอื่น!!
ซึ่ง..ไม่ใช่เลยคับ!!...เพราะคุณเอ๋ก็ได้บอกกับคุณเจนนี่..ตั้งแต่แรกแล้วเรื่องนี้
ซึ่ง..ตามหลักทางกฏหมายแล้ว..คุณตู่ไม่ได้เป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฏหมาย..เพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน..!!
.
ดังนั้น..จะไปกล่าวหาคุณเจนนี่..ไม่ได้เลยว่าไปแย่งสามีใคร..เพราะเค้า2คน..คุณเอ๋..คุณตู่..แยกกันไม่ได้อยู่ด้วยกันหลายปีแล้ว!!

.
พวกคุณหัดมองโลก2ด้านด้วย!!..ระหว่าง..ความรัก..และหน้าที่!!มันคนละส่วนกัน
มันไม่ถูกนัก..ที่คนโสดลูกติด..พอมีแฟนใหม่ก็โดนกล่าวหา!!..ว่าเจ้าชู้!!มันคนละเรื่องเลยนะ
ถ้าคุณตู่ดีจริง..ทำไมคุณเอ๋..ถึงไม่ยอมจดทะเบียนด้วยละ..คิดดิ
เรื่อง..ความเจ้าระเบียบ!!คนในวงการรู้ดีว่า..มาดามตู่..คือ..เจ้าแม่ตัวจริง..เสียงจริง
ลองไปหากูเทปย้อนหลัง..รายการวู้ดดี้ได้เลย..พาไปเยี่ยมบ้านคุณตู่
ผมดูรายการ..ผมก็คิดว่า..ผู้หญิงเจ้าระเบียบแบบนี้..ส่วนตัว..ผมไม่เอาทำภรรยา..แน่ๆ

.
ส่วนเรื่อง..คุณเอ๋..คุณตู่..เลิกลากันไป..ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องส่วนตัวของเค้า2คน
สังเกตุไหม..เวลา..คนบันเทิงเลิกกันมีลูกติด..ผู้ชายจะดูผิดตลอด
คนภายนอก..อย่าไปตัดสิน..ใคร..จะดีกว่า..เพราะมันเรื่องส่วนตัวเค้าที่เลิกกัน
นิสัย..ผู้หญิง!!..หลายเรื่องที่ผู้ชายหลายคนรับไม่ได้
แต่ผู้หญิง..ส่วนใหญ่..ไม่ค่อยมองย้อนดูตัวเอง..แต่จะโยนความผิดให้ผู้ชายตลอด..สังเกตุไหม!!ทุกอย่างบนโลกใบนี้..ล้วนมีที่มาหมด!!!
.
.
ดังนั้น..จะกล่าวหาคุณ..เจนนี่..ไม่ได้นะคับ..ก่อนจะด่าใคร..ควรศึกษาอ่านประวัติคนอื่นด้วย!! เจนนี่..กับ..คุณเอ๋..คบหากันหลายปีแล้ว..และฝ่ายชายก็บริสุทธิ์ใจเล่าประวัติตัวเองในอดีตหมด!!!...การที่เจนนี่จดทะเบียนสมรส..ตามหลักกฏหมาย..คือ..เมียหลวง..เมียที่ถูกต้องตามกฏหมาย!!และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้จดทะเบียน..กับ..คุณเอ๋..คับ..จบข่าว!!

----------------

คห. 7

โถ....สังคม ด่าแต่เจนนี่ ด่าตู่บ้างเถอะ
สมัยแต่งงานใหม่ ๆ ตู่ก็ทิ้งคนเก่าเหมือนกัน
ที่มาแต่งกับคนนี้ก็เพราะเขารวย มีฐานะไฮโซ
แล้วแต่งงานก็ไม่จดทะเบียน จนมีน้องเพลงขึ้นมา
ฝ่ายชายเขาส่งเสียเลี้ยงดูลูกอย่างดี คนแม่ก็เหมือนกัน
แต่เรื่องภายในครอบครัว ไม่มีใครรู้หรอก
แต่คนรอบข้างเขารู้ว่าแยกกันอยู่มาเกิน 10 ปีแล้ว
ฝ่ายชายจะมีคนอื่น ยัยตู่จะไปห้ามอะไรได้
มีแต่ประชาชนทั่วไปที่ไม่รู้ ก็ไปด่าเขา

ถามตัวยัยตู่เองก่อนเถอะ แต่งงานแล้วทำไมไม่จดทะเบียน
แล้วทุกวันนี้อยู่ได้เพราะเงินใคร? ศักดิ์ศรีมีบ้างรึเปล่า?

--------------

คห. 8

นายก อบจ. ไปเจอนักโทษหนีคุก
ซ้ำยังพาเมียไปพบนักโทษหนีคุก
แบบนี้ตำรวจไม่จับข้อหาสมรู้ร่วมคิด ให้ที่หลบซ่อนนักโทษล่ะ

-------------

คห. 9

สาธุ ขอให้ตระกูลอัศวเหมโดนยึดทรัพย์ เพราะว่าโกงและฟอกเงิน อยากรู้จังว่า นังเจนนี่มันจะจัดการกับชีวิตมันอย่างไร

คุณตู่เจอทางสว่างแล้ว หมดเวรหมดกรรมแล้ว ให้นังเจนนี่มันรับกรรมต่อ กรรมมันอาจจะหนักกว่าที่เจอ เช่นโดนเพื่อนแย่งผัวตัวเอง

-----------

คห. 10

ไม่ผิดได้ไงฟ่ะ

ผู้ชายมันพึ่งบอกว่าเคลียร์กับเมีย เคลียร์กับลูก แต่เคลียร์ได้ไม่ได้อันนี้ไม่รู้ รู้แต่ว่า ผู้ชายเลว ผู้หญิงก็เลว ผู้ชายมีมากมายไม่เอา แต่ดันมาเอาผู้ชายใกล้ตัว แบบนี้เรียกว่าคนเหรอ

ผู้ชายนะ ตอนที่มันหลงมันรัก มันตอแหลได้ทั้งนั้น เพราะตอนที่พูดสายตาผู้ชาบบงบอกถึงคำโกหก

ตอนนี้อยู่ที่คุณนันทิดากับน้องเพลงว่าจะกล้าสวนกระแสมาโต้ สามีทางพฤตินัยมัย เพราะสองแม่ลูกถึงไม่มีอำนาจบารมีทั้งเงินทองและอกนาจทางการเมือง

ผู้หญิงจำไว้เวลาแต่งงานกับใคร ต้องรีบจดทะเบียนทันที เพราะหากไม่จด วันหนึ่งคุณจะกลายเป็นเมียน้อยแบบไม่รู้ตัว เช่นในกรณีนี้

เตือนกบสุวนันท์ ด้วย รีบจดทะเบียนสิ เดียววันหนึ่งแก่มาหรือผู้ชายเบือ และเจอคนใหม่ เขาอาจจะถึบหัวทิ้ง และบอกว่าต้องทนอยู่ เพราะลูก ใช้ลูกมาอ้างในการขอเลิก

และที่สำคัญผู้หญิงสมัยนี้ชอบการแย่งชิงผู้ชายแบบสำเร็จรูป พวกนี้ศึลธรรมต่ำ

คนที่ไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอก

ส่วนธัญญ่ากอดทะเบียนสมรสเอาไว้แน่ๆ อย่าปล่อย หากจะปล่อยก็ปล่อยในราคาสูงๆ เอาแบบว่าให้ผู้ชายหมดตัว ผู้ชายเห็นแก่ตัวมันต้องเจอแบบนี้

และเชื่อว่าเจนนนี่มีเล่ห๋เหลี่ยมแพรวพราว มากพอที่จะให้ผู้ชาย ยอมแต่งงานกับหล่อน ไม่เด็ดคือมีลูก จบ...


-----------

คห. 11

A เขาไม่เคยจดทะเบียนกับใครทั้งนั้นแหละ แต่มีพี่ตู่ที่เขาจัดงานแต่ง นักการเมือง ดารา ทั่วฟ้าเมืองไทยมายินดี คนเขาก็รู้ว่าเป็นสามีภรรยา มีลูกสาวน่ารัก สังคมรับทราบมาตลอด

นักร้อง นางแบบที่ผ่านมา A เขาไม่ได้จริงใจอะไร J ก็คงจะเหมือนกัน แต่ she อ่ะเซียนจับผู้ชายรวยแต่หน้าเหรียก ไม่รอดเธอซักราย ดูจากประวัติเน่าเหม็นฉีที่ผ่านมาสิ

ประเด็นคือ J ทำไมตอแหลมาตลอด แต่วันนี้ปั๊ปกลับตัวน้ำหมุน มีใบจดทะเบียนพร้อม ถุย อี ทอ แล


--------

คห. 12

อยากเขียนถึงมุมมองผมต่อเรื่องนี้เหมือนกัน ไว้เป็นเครื่องเตือนใจน้องๆผู้หญิง

กรณีคุณเอ๋มาประกาศเอาตอนนี้ว่า...ไม่เคยจดทะเบียนกับคุณตู่
ทำให้ผมนึกถึงคุณโย

เคสคุณโยเป็นตัวอย่างชัดมากว่าคุณถูกผู้ชายคนนี้หลอกฟันแล้วทิ้งมาตลอด
เขาอาจจะอ้างกับคุณก็ได้ว่าเขายังแต่งงานกับเมียหลวงอยู่ ยังทิ้งเมียมาหาคุณไม่ได้
ประโยคหลอกผู้หญิงโง่แบบอมตะคือ...."อดทนรออีกหน่อย เข้าใจผมหน่อย ผมพยายามหาทางหย่าอยู่ แต่เมียมันไม่ยอมหย่า เมียผมไม่เข้าใจผมเท่าคุณ บลาบลาบลา"
ผู้ชายอ้างแบบนี้เลยทำให้ผู้หญิงเข้าใจมาตลอดว่า ตัวปัญหา ขัดขวางความรักของคุณคือเมียหลวง
คุณก็เลยทำทุกอย่างเพื่อฉีกหน้าเมียหลวง บีบคั้นจิตใจให้เมียหลวงปล่อยผัวของเค้ามาหาคุณ

แต่ที่จริง ผู้ชายมันไม่ได้มีอะไรผูกมัดกับเมียเดิมมาตั้งแต่แรก มันแค่หาข้ออ้างฟันคุณฟรีๆแบบไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น เนื่องจาก "คุณไม่ดังพอ ไม่รวยพอ ไม่สวยพอ"
เขาแค่เอาคุณเป็นทางผ่านระหว่างที่เขารอเจอผู้หญิงที่สาวกว่า สวยกว่า ดังกว่าคุณ ก็แค่นั้น!

เคสคุณเจนี่
น้องๆผู้หญิงคนไหนเจอแบบคุณเจนี่ คุณอาจรู้สึกว่าคุณเป็นนางเอกผู้ชนะในท้ายสุด คือชนะทั้งเมียหลวง ชนะทั้งเมียน้อย ได้ผู้ชายคนนี้มาครอง
แต่ช้าก่อน.... อย่าย่ามใจ
กรุณาเช็คประวัติก่อนว่าตอนผู้ชายคนนี้เจอเมียเดิม เธอก็สวยที่สุด ดังที่สุดในตอนนั้นเหมือนกัน เหมือนวันนี้ที่คุณกำลังเป็นอยู่
มีอะไรที่จะการันตีคุณได้ไหมว่า...วันหนึ่งที่คุณไม่สาว คุณไม่สวย คุณไม่ดังแบบวันนี้ แล้วเขาจะไม่ทิ้งคุณไปหาคนอื่น?

เคสคุณตู่ นันทิดา
หลายคนอาจมองว่าคุณตู่โง่มากที่รั้งสามีไว้ ทั้งที่เขาไม่รักไม่แคร์แล้ว
ก็โปรดอย่าเพิ่งรีบสรุป เพราะเคสจริงๆที่ผมเจอมาเยอะมากๆรอบตัว คือ...
เป็นไปได้อย่างมาก ที่ผู้ชายเห็นแก่ตัวมันจะหลอกนางบำเรอว่า "คุณต้องเข้าใจผมหน่อย เมียผมไม่ยอมปล่อยผม ขอเวลาผมสักพัก" แต่ขณะเดียวกันมันก็มาบอกกับเมียมันว่า
"คุณคือเบอร์หนึ่งของผม ไม่ว่าผมจะไปหาเศษหาเลยกับผู้หญิงกี่ร้อยคน ผมก็จะไม่ให้ใครมาแตะคุณ เด็ดขาด ขอให้คุณอยู่เฉยๆ นิ่งๆเข้าไว้ ผมจัดการเอง"
แต่ในความเป็นจริงคือ จงอย่าเสียดายอนาคตที่จะไม่มีสามี ไม่มีพ่อของลูก
การมีสามีที่ไม่มีคุณธรรม ไม่มีความรักแท้ให้กับคุณ มันคือการกำก้อนขี้ไว้ในมือตลอดเวลา
วันนี้เขาอาจจะยังไม่ทิ้งคุณ และปากเขาอาจบอกซ้ำๆซากๆว่า "คุณคือเบอร์หนึ่งของผม" แต่ท้ายสุดวันหนึ่งเขาก็ต้องไปจากคุณ ทันทีที่เขาเจอที่หมายใหม่ที่ดีกว่า

ผู้หญิงเอย "อย่าเสียดายก้อนขี้เพียงเพราะคุณคิดว่ามันเป็นเพชร"
แล้วก็อย่ามัวเที่ยววิ่งไล่แย่งก้อนขี้ เพราะก้อนขี้ไม่มีวันเป็นเพชร

เงิน ไม่ใช่สิ่งเดียวในชีวิตที่ทำให้คุณมีความสุขได้ ผู้ชายที่เขารักคุณ ให้เกียรติคุณ ซื่อสัตย์สุจริตทั้งต่อหน้าคุณและลับหลังคุณต่างหาก ที่เป็นเพชร
ไม่อย่างนั้น ก็จะเจอแบบที่ผู้เฒ่าผู้แก่โบราณสอนไว้ว่า "แล้วน้ำตาก็จะเช็ดหัวเข่า"

----------

คห. 13

นี่ถ้าตู่ไม่เคยจดทะเบียนมาก่อนจริง ๆ

ลูกตู่ก็เป็นแค่ลูกเมียน้อย

ลูกเจนี่ เป็นลูกเมียหลวง !!

--------------


คห. 14

ชื่นชอบพี่เจนนี่มานาน พี่เจนี่เป็น role model ของหนูเลยค่ะ พี่เจนนี่ทำให้หนูรู้ว่าเรียนไปทำไมไม่มีประโยชน์เรียนจบปริญญามาได้เงินเดือนแค่ปลายเล็บ สู้จับผู้ชายรวยๆไม่ได้ ไม่ว่าผู้ชายจะมีเมียอยู่แล้วก็ไม่สน .. ความฝันของหนูเมื่อโตขึ้น หนูอยากได้ผัวพี่เจนนี่ค่ะ รวยดี ตอนนั้นพี่เจนนี่คงแก่และหนังยานแล้ว คงไม่ว่าอะไรนะค่ะแบ่งๆกันใช้ .ปอลิง..หนูไม่อายหรอกนะค่ะที่แย่งผัวพี่ เพราะหนูใช้ เมเบอรีนนิวหยวก อย่างพี่เจนนี่งัยคร้า ทั้งหนาทั้งทน ^^

---------------

คห. 15

มันจะแต่งกับใคร จะผัวใคร จะเป็นเมียน้อย ใคร แล้วไงว่ะ
มันไม่ได้ทำให้สังคมดีขึ้น น้ำมันถูกลงไหม ค่าไฟถูกลงไหม ก๋วยเตี๋ยวถูกลงไหม รถไฟฟ้าราคา 20 บาทตลอดสายไหม เรื่องส่วนตัวของมัน มันไม่ได้มีผลดีอะไรกับสังคมไทยเลย ปล่อยหางมันไปเถอะ


---------------

เอาแค่พอหอมปากหอมคอ นะครับ

สุดท้ายผมทิ้งเรื่องขำขันไว้แล้วกัน

นักข่าวถาม "ทำไมสุดท้ายมาตกลงปลงใจที่คุณเอ๋ล่ะคะน้องเจนี่"

เจนี่ "คือพี่ก็น่าจะรู้ หนูทดลองมาหลายดุ้นแล้ว ดุ้นทองคำทั้งนั้น แต่ที่มาลงตัวที่พี่เอ๋ เพราะดุ้นของพี่เอ๋ ทั้งมันส์ ทั้งเร้าใจ ลีลาเด็ดทุกท่วงท่าเลยค่ะพี่"

นักข่าวคิดในใจ "นั่นไงกูว่าแล้ว"




คลิกอ่าน เมื่อยามรักร้าว เจนี่ เอ๋ และนันทิดาไม่ใช่ผู้สูญเสีย





counter statistics