ยิ่งลักษณ์ตีหน้าโง่ เล่าความเท็จ
วันที่ 5 พ.ย. 56 นายกฯ ยิ่งลักษณ์ออกมาแถลงการณ์ตีหน้าโง่เล่าความเท็จ อ้างว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน เพราะถ้าเป็นเรื่องเงิน ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีจะต้องเซ็นด้วย แถมยังโทษว่า พวกที่ต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คือพวกที่ทำลายประชาธิปไตย
ถ้าเป็นพวกฟายแดงที่สมองมีไว้แค่คั่นหู ก็คงหลงเชื่อคำพูดของยิ่งลักษณ์โดยง่าย
แต่ความจริงคือ เมื่อนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด โดยคมช. และโดยองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยคมช. (ซึ่งก็คือ คตส.) ได้พ้นผิดทุกคดี
ซึ่งผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดนั้นก็หมายถึง ทักษิณ นั่นเอง
เมื่อทักษิณพ้นผิดทุกข้อกล่าวหาและทุกคดีที่ คตส.ไต่สวน (ซึ่งยังมีอีกหลายคดีที่ยังค้างอยู่ในศาล) รวมทั้งคดีที่ศาลได้ตัดสินไปแล้ว เช่นคดีประมูลที่ดินรัชดา
เมื่อทักษิณพ้นผิดทุกคดี เสมือนไม่มีความผิดยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ดังนั้นเงินทึ่ถูกยึดทรัพย์ไป ก็แปลว่า ต้องคืนทักษิณโดยปริยาย นั่นเอง
แล้วการที่ยิ่งลักษณ์อ้างฝ่ายต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า เป็นการทำลายประชาธิปไตย อันนี้ยิ่งมั่วมาก
เพราะประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่การมีเสียงส่วนใหญ่ในสภาลากไปเท่านั้น แต่ประชาธิปไตยต้องดำรงไว้ซึ่งคุณธรรมด้วย
เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พยายามดัน กม.นิรโทษกรรมที่ ปล่อยคนชั่วลอยนวล ปล่อยคนสั่งฆ่าประชาชนลอยนวล ปล่อยคนทุจริตให้ลอยนวล เช่นคดีของนายประชา มาลีนนท์
แบบนี้จะมาอ้างประชาธิปไตยไม่ได้ เพราะถ้าประชาธิปไตยไม่ดำรงไว้ซึ่งคุณธรรม ประชาธิปไตยนั้นไม่ถือว่าเป็นประชาธิปไตย
การที่มีผู้ชุมนุมต่อต้านกฎหมายใด ๆ ในประเทศได้ นี่แหละคือ ประเทศที่มีประชาธิปไตย
--------------------------
ทักษิณตอแหล ไม่คิดเอาเงินคืน
แม้พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะไม่เกี่ยวกับพ.ร.บ.ทางการเงินโดยตรง แต่เมื่อคดีทุกคดีของทักษิณถูกลบล้าง
กระทรวงการคลังที่มีขี้ข้ากิตติรัตน์ คุมกระทรวงอยู่ ก็จะรีบทำเรื่องคืนเงินให้ทักษิณทันทีอย่างแน่นอน โดยที่ทักษิณไม่ต้องร้องขอด้วยซ้ำ
การที่ทักษิณบอกว่า ไม่คิดจะเอาเงินคืน แต่ถ้ามีขี้ข้านำเงินมาประเคนให้ถึงที่ มีรึมันจะไม่เอา
-----------------------
กลยุทธ ซื้อเวลาหวังตัดกำลังผู้ชุมนุม
การที่ยิ่งลักษณ์ออกมาแถลงการณ์ทำนองชี้โพรงให้เหล่า สว.ขี้ข้าที่นำโดยนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ออกมารับลูกนั้น
คือถ้าหาก สภาสูงยับยั้ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวาระ 1 ไว้ได้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็จะถูกส่งกลับไปที่ สภาสส. และค้างเรื่องไว้ 180 วัน
หลังจากนั้นหากมี สส.แค่ 20 คนก็พอ ยกมือให้ พ.ร.บ.นี้ผ่านต่อไป นายกรัฐมนตรีก็สามารถนำพ.ร.บ.ฉบับนี้ ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ประกาศใช้ต่อไป
ทั้งหมดก็แค่กลยุทธซื้อเวลา โดยให้สภาสูงยับยั้ง กม.นิรโทษกรรมไว้ชั่วคราว 180 วัน
เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์หวังว่า เมื่อสภาสว. ยับยั้ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านอาจเย็นลง จำนวนผู้ชุมนุมอาจลดลง
ซึ่งเมื่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กลับมาอีกครั้ง พวกรัฐบาลมันคาดว่า ถ้าม็อบจะกลับมาใหม่ ก็อาจจุดไม่ติดได้เหมือนเดิมอีก
แต่ที่น่ากลัวคือ ทำไมคราวนี้ยิ่งลักษณ์ต้องออกมาแถลงทำนองเปิดช่องให้ สว. ยับยั้ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ??
ทั้ง ๆ ที่ ที่ผ่านมา ยิ่งลักษณ์พยายามบอกเสมอว่า เรื่องของกฎหมายเป็นเรื่องของสภา ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ??
คำตอบคือ ที่ผ่านมายิ่งลักษณ์ตอแหลทั้งหมด และการที่ออกมาแถลงการณ์เมื่อวานนี้ ก็คือ การแสดงอำนาจของยิ่งลักษณ์ในการควบคุม สว.ขี้ข้าได้นั่นเอง
นี่ต่างหากล่ะ อันตรายที่แท้จริงในระบอบประชาธิปไตย
----------------------
ทักษิณอาจแค่เป้าหลอก นิรโทษกรรมจริง ๆ หวังช่วยเจ๊ดอ ต่างหาก
ดูชัด ๆ อีกที มาตรา 3 อัปยศ ใน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย
มาตรา 3 การกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง หรือมีความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด โดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 รวมถึงองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว สืบเนื่องต่อมาที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2547 ถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ไม่ว่าผู้กระทำจะได้กระทำในฐานะตัวกลาง ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ หากการกระทำนั้นผิดกฎหมาย ก็ให้ผู้กระทำนั้นพ้นจากความผิดโดยสิ้นเชิง
โดยร่างของกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ ไม่รวมถึงการกระทำผิดในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
และตามที่ ป.ป.ช. ออกมาแถลงการณ์ว่า กม.นิรโทษกรรม ถ้าประกาศใช้ได้เมื่อไหร่ จะกระทบคดีทุจริตที่ป.ป.ช. กำลังตรวจสอบมากกว่า2หมื่นคดี โดยเฉพาะมีทั้งคดีของนักการเมืองอีก 400 เรื่อง
เพราะการลบล้างความผิดตามมาตรา 3 ทั้งหมดจะทำให้ผลของคดีทุจริตคอร์รัปชันทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ทั้งที่มีการตัดสินคดีแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี อาจจะได้รับการนิรโทษกรรมทั้งหมด
ซึ่งเป็นการล่วงละเมิดระบบกระบวนการยุติธรรมของประเทศ และไม่เป็นธรรมต่อคดีทุจริตอื่นๆ ที่มิได้อยู่ในกรอบ พ.ร.บ.ฉบับนี้
------------------
สรุปง่าย ๆ ก็คือ การที่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ย้อนหลังไปถึงปี 2547 ก็เพราะปี 2547 มีคดีกรือเซะ คดีตากใบ คดีอุ้มทนายสมชาย นีลไพจิตร
และส่วนที่นิรโทษกรรมมาถึง เดือนสิงหาคม 2556 นั้น กำลังเป็นข้อถกเถียงกันมากว่า รวมถึงคดีทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวด้วยหรือไม่ ?
เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง การนิรโทษกรรมทักษิณแค่เป้าหลอกดึงความสนใจ
แต่เป้าหมายแท้จริงที่แฝงอยู่นับแสนล้านบาทคือ ช่วยพวกคอรัปชั่นโครงการรับจำนำข้าวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั่นเองครับ
--------------
ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่ได้ ก็ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมแทนได้
หากสุดท้าย พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ถูกศาล รธน. ตัดสินให้ตกไป เพราะขัดหลักการในวาระที่ 1
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ยังสามารถออกเป็นพระราชกำหนดนิรโทษกรรมแทนได้ด้วยอำนาจคณะรัฐมนตรี
ส่วนการที่ทักษิณแกล้งฝืนใจคนเสื้อแดงบางส่วน พยายามดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยออกมา
เจตนาแรกคือ โยนหินถามทาง
2 . คือทดลองกำลังฝ่ายตรงข้ามไปด้วยในตัวว่ามีแค่ไหน เพื่อประเมินสถานการณ์ความได้เปรียบทางการเมือง
อีกทั้งได้ดูว่าในหมู่ขี้ข้าเสื้อแดงมีพวกไหน รายไหนที่อาจต้องกำจัดทิ้งไป หากยังกระด้างกระเดื่องกับทักษิณ
แต่จะมีขี้ข้าสักกี่ตัวที่กล้าตีจากทักษิณจริง ๆ ? ไม่มีล่ะมั้ง 555
ผมว่า ฝ่ายต่อต้านทักษิณได้แต่เดินตามหมากที่ทักษิณวางไว้ทั้งสิ้น
สังเกตไหมว่า พอมีเรื่องนิรโทษกรรมสุดซอย เรื่องทุจริตจำนำข้าวก็เริ่มเงียบไป
ที่สำคัญ กม.นิรโทษกรรมสุดซอยนั้น ตอนนี้คนไทยจำนวนมากให้ความสำคัญยิ่งกว่า ไทยอาจเสียดินแดนให้เขมรในอีกไม่กี่วันนี้ด้วยซ้ำ
------------------------
ผมจะบอกให้ว่า ถ้า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่สำเร็จ พวกมันก็จะไปออกพระราชกำหนดแทน แต่ถ้าเกิดมีประชาชนออกมาต้านมาก ๆ จนมันไม่กล้าออก พ.ร.ก.
มันจะใช้ 2 หนทางสุดท้ายคือ ทำประชามติเรื่องนี้ ว่าจะเอานิรโทษกรรมหรือไม่ ?
หรือไม่ก็ ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ เพราะมันคิดว่าถ้าพวกมันชนะเลือกตั้งอีก มันจะมีความชอบธรรมมากขึ้น โดยอ้างเสียงประชาชนที่เลือกมันมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
คลิกอ่าน ระวังอันตราย! หากปล่อยสว.ยับยั้ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น