วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หลักการดื่มน้ำที่ถูกต้องเพื่อร่างกายแข็งแรง






การเรียนการสอนของไทยมักสอนแค่ คนเราควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว หรือประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน เท่านั้น

การสอนเพียงเท่านี้ไม่อาจช่วยให้ร่างกายเราดื่มน้ำได้อย่างถูกวิธีและถูกต้องได้ครับ

เพราะมีหลายคิดว่าแค่ดื่มวันละ 1.5 ลิตร ก็ถือว่าเป็นอันใช้ได้แล้ว ซึ่งนั่นเป็นความเชื่อที่ผิดมาก

ผมเจอผู้คนหลายคนทำงานในห้องแอร์ มักไม่ค่อยดื่มน้ำเลยในช่วงเวลาทำงาน อ้างว่า หนาวเลยไม่ค่อยหิว อ้างว่า ลืมบ้าง อ้างว่า ดื่มน้ำมากขี้เกียจเข้าห้องน้ำบ่อย เพราะงานยุ่งบ้าง

แล้วผู้คนเหล่านี้ก็ไปแก้ปัญหาการดื่มน้ำน้อยในช่วงทำงาน ด้วยการไปอัดดื่มน้ำทีละมาก ๆ หลังเลิกงานแทน เพราะเขาเชื่อว่า ก็แค่ดื่มให้ได้วันละ 1.5 ลิตรก็ถือว่าคงพอแล้ว

ซึ่งความเชื่อของพวกเขาเหล่านี้ ถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกายทุกวัน

--------------------

การดื่มน้ำสะอาดที่ถูกวิธีคือ


การดื่มน้ำที่ถูกต้องที่สุด คือ ต้องจิบน้ำบ่อย ๆ หรือดื่มทีละน้อย ไม่ควรปล่อยให้คอแห้งกระหาย

เพราะเมื่อไหร่ที่เรากระหายน้ำ แสดงว่า ร่างกายต้องการน้ำมาช่วยระบบของร่างกายแล้ว เมื่อร่างกายต้องการน้ำ เราก็ควรรีบดื่มน้ำทันที อย่าปล่อยให้ร่างกายรอน้ำนานเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายก่อเกิดโรคได้ครับ

การดื่มน้ำที่ดีไม่ควรดื่มครั้งละมาก ๆ เพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก เช่น ถ้าเราปล่อยให้หิวกระหายน้ำมาก ๆ เพราะติดอยู่ระหว่างการเดินทาง เราก็อดทนจนกระทั่งเมื่อได้มีโอกาสดื่มน้ำ บางครั้งหลายคนดื่มน้ำครั้งเดียวมากเป็นลิตร ๆ เลยก็มี

ซึ่งการกระทำแบบนั้นกลับเป็นการทำร้ายร่างกายครับ

เพราะเมื่อเราหิวน้ำ แสดงว่า ณ เวลานั้นร่างกายต้องการน้ำมาช่วยในระบบการทำงานของร่างกายแล้ว

แต่เมื่อเราหิวน้ำ แต่เรากลับไม่ดื่มน้ำในตอนนั้นทันที ทำให้ร่างกายของเราก็ต้องทนทำงานหนักไป เสมือนกับรถยนต์ที่ระบบหล่อลื่นและระบบหล่อเย็นทำงานไม่สมบูรณ์

จนเมื่อร่างกายเราทำงานแบบขาดน้ำสะอาดหล่อเลี้ยงไปจนเกือบเสร็จสิ้นแล้ว แล้วเราเพิ่งจะมาดื่มน้ำเอาทีหลัง แถมดื่มทีละมาก ๆ ซึ่งเวลานั้นร่างกายอาจไม่ได้ต้องการน้ำมากขนาดนั้นแล้ว แต่เราอยากน้ำเพราะเรากระหายน้ำมากเกินไปเอง

แล้วพอเราดื่มน้ำทีละเยอะ ๆ ก็เลยเป็นเราได้ทำร้ายร่างกายไป ทำให้ระบบย่อยรับน้ำมากเกินไป ก็เลยทำให้ไตทำงานหนักแบบไม่ถูกเวลาครับ

หมายถึง ตอนที่ร่างกายกำลังต้องการน้ำ แต่เรากลับไม่ดื่มน้ำ แต่เรามาหักโหมดื่มทดแทนภายหลัง จึงไม่ค่อยดีต่อไตและร่างกายแบบองค์รวม

เพราะแม้นักวิ่งมาราธอน ก็ยังต้องดื่มน้ำทีละน้อยบ่อย ๆ เป็นระยะ ๆ ในระหว่างแข่งขัน

หรือเช่น นักเทนนิสระดับโลก ถ้าเราสังเกตตอนพักในแต่ละเกม นักเทนนิสจะหยิบขวดน้ำเปล่า หรือน้ำเกลือแร่ มาจิบพักทุกครั้ง เขาจะไม่ดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไปในแต่ละครั้งที่พัก

เพราะช่วงที่ร่างกายทำงานหนักเพราะขาดน้ำมาช่วยการทำงาน ก่อเกิดโรคได้มากมายนับไม่ถ้วน เช่นความดันสูง หัวใจ ไต โรคเครียด และอีกมากมายตามมา

มีนักกีฬาอาชีพดัง ๆ ระดับโลกหลายคน สุดท้ายต้องเป็นไตวาย เพราะมักดำเนินชีวิตที่ผิดพลาด คือ ชอบซ้อมหนักแต่มักจะไม่ดื่มน้ำระหว่างซ้อมเป็นระยะ ๆ เพราะคิดว่า ตัวเองขี้เกียจไปห้องน้ำบ่อย ๆ

---------------

ฉะนั้นหลักสำคัญของการดื่มน้ำที่ถูกวิธีที่สุด คือ ดื่มน้ำทีละน้อย แต่จิบบ่อย ๆ และให้โดยรวมต่อวันแล้วประมาณ 1.5 ลิตรต่อวันเป็นอย่างน้อย  แต่ที่จริงปริมาณน้ำดื่มต่อวันไม่มีอะไรตายตัว บางคนอาจดื่มถึง 2 ลิตรหรือ 3 ลิตร หรือมากกว่านั้นก็เป็นไปได้ แต่อย่าให้น้อยกว่าวันละ 1.5 ลิตร

เพราะบางคนออกกำลังกายมาก ก็ต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ หรือบางคนทำงานในที่อากาศร้อนจัด ก็ต้องดื่มน้ำมากขึ้นกว่าปกติ เป็นต้น

แต่หลักการที่สำคัญที่สุดคือ ต้องไม่ควรอ้ันปัสสาวะนานๆ เด็ดขาด

สุดท้าย อยากให้ทุกคนหัดพกกระติกน้ำ หรือขวดน้ำดื่มติดตัวอยู่ตลอดเวลา เมื่อเราต้องเดินทางไปไหนต่อไหนครับ เพราะเราจะได้ดื่มน้ำได้ทันที เมื่อร่างกายต้องการ 

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!




ลิกอ่าน อุทาหรณ์ กินโจ๊กกึ่งสำเร็จรูปทุกวัน กินมาม่าทุกเย็น ระวัง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น




counter statistics