ตอนที่ท่านพุทธทาส ไปวัดสวนโมกข์ครั้งแรก ซึ่งตอนนั้นยังเป็นวัดร้างมา 100 กว่าปี
ท่านพุทธทาสปวารณาว่า จะอยู่จำพรรษาที่วัดนี้ตลอดพรรษานี้
แต่วัดก็ร้าง ต้นโมกข์ก็สูงใหญ่ทะมึนมากมาย บรรยากาศก็วังเวง แถมท่านพุทธทาสก็กลัวผีสุด ๆ
แต่เมื่อตั้งใจไว้แล้วว่า ปีนี้ต้องจำพรรษาที่นี่ ก็ต้องต่อสู้กับความกลัวของตัวเองอย่างสุด ๆ เพราะถ้าอยู่ไม่ครบพรรษา ก็อายชาวบ้านที่เขารู้ข่าว
แล้วท่านก็เอาชนะความกลัวผีได้หมดสิ้น ด้วยใช้หลักคิดที่ว่า
ในที่แห่งนี้ก็มีหมา มีไก่ มาอยู่อาศัยมากพอควร
แล้วทำไมหมามันอยู่ได้ ไม่เห็นหมามันกลัวผี ไก่มันก็อยู่ได้ ทำไมไก่มันไม่กลัวผี
เท่านั้นแหละ ท่านพุทธทาสก็เลิกกลัวผีเลย
และหลังจากนั้น ท่านก็บูรณะวัดร้างนี้ขึ้นมา และตั้งชื่อว่า สวนโมกขพลาราม เพราะมีต้นโมกข์เยอะ หรือชื่อวัดอย่างเป็นทางการคือ วัดธารน้ำไหล

--------------------
สำหรับตัวผม ใหม่เมืองเอก เอง ก็ไม่กลัวผีมานานหลายสิบปีแล้ว
แต่ตอนเด็ก ๆ ผมกลัวผีมาก ๆ เหมือนเด็ก ๆ ทั่วไปที่กลัวผีนั่นแหละ
แต่ตั้งแต่ที่ก๋งของผมตาย ผมก็เลิกกลัวผีเลย เพราะก่อนที่ก๋งผมจะตายหลายปี ผมเคยพูดเล่น ๆ กับก๋ง ไว้ว่า
"ก๋ง ถ้าก๋งตายเมื่อไหร่ อย่าลืมมาหา แล้วบอกหวยเด็ด ๆ ด้วยนะ อย่าลืมนะ"
ก๋ง รับปากผมอย่างดี และผมก็คอยเตือนก๋งเรื่องนี้อยู่หลายหน
สุดท้ายพอก๋งผมตายไปจริง ๆ ก๋งก็ไม่ได้กลับมาบอกหวยอย่างที่รับปาก
ในคืนที่ก๋งถูกฝังในฮวงซุ้ยไปแล้วคืนแรก ผมกลับมาที่บ้านก๋ง ญาติพี่น้องของผมหลายคนต่างกลัวผี กลัวก๋งจะมาหา
ผมบอกว่า ผมไม่เห็นจะกลัวเลย ก็มีญาติหลายคนท้าผมให้ไปนอนในห้องนอนของก๋ง
ผมรับคำท้าเข้าไปนอนในห้องก๋งคนเดียว แถมรอด้วยว่าก๋งจะมาบอกหวยผมไหม
สุดท้ายผมก็เผลอหลับไปจนเช้า โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ต่อมาผมก็คิดต่อไปอีกว่า โลกนี้มนุษย์ครองโลก แสดงว่ามนุษย์ต้องเก่งและน่ากลัวกว่าผี แล้วกูจะโง่กลัวผีไปทำไม
หลังจากคิดได้ตามนี้ ผมเลิกกลัวผีตั้งแต่อายุ 11 ขวบมาจนวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น