การคำราชาศัพท์ใช้กับ สมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จพระสันตะปาปา
เพราะวัฒนธรรมไทยมีการใช้คำราชาศัพท์ กับกษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง
และเมื่อประมุขของชาติ คือ พระมหากษัตริย์
ส่วนประมุขฝ่ายสงฆ์ คือ สมเด็จพระสังฆราช
วัฒนธรรมไทยก็เลยกำหนดให้ใช้คำราชาศัพท์แก่ประมุขของสงฆ์ด้วย
อีกทั้ง ประเทศไทยหรือชนชาติไทย มีพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงนับถือเลื่อมใสในพุทธศาสนามาโดยตลอด
พระพุทธศาสนาจึงเป็นศาสนาที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย เพราะคนไทยส่วนใหญ่ตามทะเบียนบ้านอ้างว่า ตนนับถือศาสนาพุทธ
ฉะนั้นการที่คนไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
ที่สำคัญที่สุด สมเด็จพระสังฆราชของไทย พระองค์ทรงได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำศาสนาพุทธของโลกอีกด้วย (รวมทุกนิกาย)
แต่ในความเป็นจริง เวลาชาวบ้านพบสมเด็จพระสังฆราชพระองค์จริง ก็ไม่ได้พูดราชาศัพท์กับพระองค์แต่อย่างใด
เพราะชาวบ้านทั่ว ๆ ไปก็เข้าใจว่า ท่านก็แค่พระรูปหนึ่งที่มีสมณศักดิ์สูงเท่านั้น
"เพียงแค่อย่ายึดถือ ใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ได้ ไม่เป็นไร ขอแค่จริงใจก็พอ"
---------------------
สมเด็จพระสันตะปาปาแห่งคริสตศาสนา นิกายโรมันคาทอลิก
ในเมื่อคนไทยนิยมใช้คำราชาศัพท์กับประมุขของศาสนาพุทธ อย่างสมเด็จพระสังฆราช คนไทยเราเลยใช้คำราชาศัพท์กับสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งคาทอลิกเช่นกัน
อย่างคำว่าสมเด็จ ในภาษาอังกฤษมีซะที่ไหน ไทยเรายังอุตส่าห์เติมคำว่า สมเด็จ ให้กับพระสันตะปาปา เป็นสมเด็จพระสันตปาปา เลยจริงไหมครับ
ถามว่า พวกฝรั่งเขามีคำราชาศัพท์ไหม ?
เท่าที่ทราบฝรั่งเขาไม่มีคำราชาศัพท์ จะมีแต่ใช้คำสุภาพให้มากขึ้น แต่เมื่อคนไทยพูดถึงกษัตริย์ของต่างประเทศ คนไทยเราก็ใช้คำราชาศัพท์แก่กษัตริย์ต่างประเทศทุก ๆ ประเทศเช่นกัน
โดยที่เราคนไทยก็ใช้คำราชาศัพท์แก่กษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ของทุก ๆ ประเทศอย่างเท่าเทียมกัน
เราคนไทยไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่า จะต้องใช้คำราชาศัพท์เฉพาะกษัตริย์ไทยเท่านั้น
เพราะนี่คือเรื่องของวัฒนธรรมทางภาษาของไทยที่สวยงาม
---------------------
การที่มีคนไทยบางคน ออกมาแสดงความเห็นว่าไม่ชอบคำราชาศัพท์
เมื่อใครไม่ชอบก็ไม่ต้องใช้ก็ได้นี่ครับ ส่วนถ้าใครเขาอยากจะใช้ ก็เรื่องของเขา เพราะมันเป็นสิทธิส่วนบุคคลของเขา
ไอ้คนไม่ชอบคำราชาศัพท์ แต่ดันไปเสือกยุ่งกับคนที่เขาอยากจะใช้ ผมว่าพวกนี้ออกจะเผด็จการไปด้วยซ้ำ เพราะวัฒนธรรมทางภาษาเป็นอะไรที่มีหลากหลายมากมายย่อมดีกว่าไม่มีให้เลือกใช้
พวกที่ดูถูกรากเหง้าและวัฒนธรรมอันดีของตัวเอง ที่แม้แต่ชาวต่างชาติยังยกย่องวัฒนธรรมไทย ความสวยงามของภาษาไทย
ผมว่าไอ้คนพวกนี้มันต้องมีปมด้อยหรือเก็บกดอะไรสักอย่างแน่ ๆ
--------------------
หรือถ้าใครอยากจะใช้คำราชาศัพท์ แบบที่คณะลิเกเขาเล่นกัน ก็ทำได้
บางคนอาจต่อต้านคำราชาศัพท์แต่เปลือก แต่ในความจริง ใจมันอยากจะใช้ มันเกิดความริษยาที่ชีวิตมันเกิดมาต่ำต้อย ไม่มีวาสนาได้ใช้ เช่น อยากจะเกิดเป็นเจ้าชาย เจ้าหญิงในรั้วในวัง
แต่ในโลกความเป็นจริง ดันเกิดเป็นกระเทยชั่วมารยาทต่ำ เป็นต้น
มันเลยไม่อยากให้มีเจ้า ไม่อยากให้มีราชาศัพท์ เพราะมันอิจฉาริษยาตาร้อน
แต่ถ้าใครอยากจะใช้คำราชาศัพท์ในชีวิตประจำวันจริง ๆ ก็แค่กลับไปบ้านแล้วไปบอกพ่อแม่และคนในบ้านว่า ต่อไปนี้บ้านเรามาใช้คำราชาศัพท์เรียกกันเองในบ้านกันดีกว่า
เช่น องค์หญิงอีอั้ม เสด็จพ่ออีอั้ม เสด็จแม่อีอั้ม เป็นต้น
ก็ไม่ได้มีใครห้ามปรามแต่อย่างใด 555
---------------------
มีเพื่อน ๆ ถามผมถึง สมณศักดิ์ของพระ ว่ามีไปทำไม เพราะพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ทรงกำหนดไว้
ขอตอบว่า สมณศักดิ์พัดยศของพระ เป็นเรื่องของทางโลก ที่พระเจ้าแผ่นดินในสมัยโบราณ ทรงยกย่องเชิดชูพระสงฆ์ และเพื่อเป็นการลำดับการปกครองคณะสงฆ์ให้สอดคล้องกับกฎหมายบ้านเมือง
ฉะนั้น เรื่องสมณศักดิ์พัดยศ จึงเป็นเรื่องของคฤหัสถ์ (กษัตริย์) ยกย่องเชิดชูพระสงฆ์ ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญแก่การศึกษาธรรม หรือช่วยการหลุดพ้นจากกองกิเลสแต่อย่างใดครับ
แต่ในสมัยปัจจุบัน การเชิดชูยกย่องพระสงฆ์ด้วยการมอบสมณศักดิ์พัดยศแก่พระ หรือการแต่งตั้งพระเป็นระดับสมเด็จ เป็นเรื่องที่พระเจ้าแผ่นดินทรงมีส่วนร่วมน้อยมาก
เพราะกว่าเรื่องแต่งตั้งสมณศักดิ์พระจะส่งเรื่องมาถึงในหลวง ก็มีการดำเนินเรื่องในหลายขั้นตอนตามกฎหมายบ้านเมือง จากหน่วยงานหลายส่วนทั้งสำนักพระพุทธศาสนา ทั้งเถระสมาคม ทั้งรัฐบาล ทั้งสำนักพระราชวัง เป็นต้น
ที่มีปัญหาก็คือ มีพระจำนวนมากกลับหลงยึดติดในยศที่ทางโลกอุปโลกให้ ถึงขนาดซื้อขายสมณะศักดิ์ยศพระกันเลยทีเดียว
หลายคนเสนอว่า ยกเลิกไปเลยดีไหมไอ้สมณะศักดิ์พัดยศอะไรเนี่ย ?
แต่ถ้าเราชาวพุทธหัดฉลาดที่จะดู ฉลาดที่จะสังเกต การที่มีพัดยศสมณศักดิ์ให้พระนี่ก็ดีเหมือนกัน คือ จะทำให้เราสังเกตได้ง่ายกว่า ใครคือ ใจพระแท้ ใครคือใจพระเทียม
หมายถึงจิตใจพระแท้ ๆ กับพระที่มียังจิตหลงยึดติดลาภยศสรรเสริญเยินยอ
ดูง่าย ๆ คือ พระที่ไม่มีใจพระแท้ มักชอบพูดให้คนมาทำบุญเยอะ ๆ เดี๋ยวชวนทำบุญนั่น ทำบุญนี่ ชีวิตความเป็นอยู่พระพวกนี้มีแต่อาการยึดติดความหรูหราฟุ่มเฟือย อยู่อย่างสุขสบายเกินคำว่าพระ และชอบพูดเรื่องการทำบุญเสมอ ๆ ว่าทำบุญแล้วดีอย่างนั้นดีอย่างนี้
น่าจะเพลาๆ เรื่องยศ ถา บรรดาศักดิ์ ของพระลงบ้าง เพราะแทนที่พระจะได้ปลง
ตอบลบกลับต้องศึกษาเพื่อให้เก่ง ตรงข้ามกับเจตนารมณ์ ที่จะหลุดพ้นจากกิเลส ตัญหา
ก็อย่างที่เขียนในบทความ การถวายสมณศักดิ์ให้พระ เกิดจากพระเจ้าแผ่นดินในสมัยก่อน อยากเชิดชูพระที่ดี ให้ราษฎรได้รับรู้ และอยากให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่พระรูปอื่น ๆ ให้ปฏิบัติตาม
ลบแต่แล้วพอหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง เจตนารมณ์เดิม ๆ ก็ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นหลงยศ หลงวาสนากันไป
ก็พระก็ยังมีกิเลสนี่ พระที่ไมีมีกิเลสมีแต่พระอรหันต์เท่านั้น
พระแท้ ย่อมไม่ติดในลาภยศครับ