วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การสำเร็จโสดาบันฉับพลันขององคุลีมาล






@ แค่พุทธดำรัสประโยคเดียว ก็ทำให้องคุลีมาลสำเร็จโสดาบัน !!

องคุลีมาลถูกอาจารย์หลอกว่า ต้องฆ่าคนให้ครบ 1,000 คน ถึงจะสำเร็จศาสตร์สูงสุดที่อาจารย์ได้สอนให้

เมื่อองคุลีมาลได้ฆ่าคนแล้ว ก็จะตัดนิ้วของแต่ละคนนำมาแขวนห้อยคอเอาไว้ เพื่อป้องกันการลืมว่า ฆ่ามากี่คนแล้ว

จนกระทั่งได้นิ้วมาแล้ว 999 นิ้ว ขาดอีกเพียงนิ้วเดียวก็จะครบพันนิ้ว เขาก็จะสำเร็จวิชาขั้นสุดยอดตามที่อาจารย์บอก

พระพุทธเจ้าทรงเล็งด้วยพุทธญาณ ทรงทราบว่า แม่ขององคุลีมาลกำลังเดินตามหาลูกชาย เพื่อหวังช่วยให้ลูกชายกลับใจ ไม่เช่นนั้นจะถูกกองทัพแห่งสาวัตถีตามสังหาร

พระพุทธเจ้าทรงทราบด้วยพุทธฌาณว่า หากองคุลีมาลพบแม่ ด้วยจิตแห่งมารเข้าครอบงำ หน้าตาจากที่เคยหล่อเหลา ก็กลับดุร้ายราวยักษ์มาร องคุลีมาลจะจำแม่บังเกิดเกล้าของตนไม่ได้ ก็จะฆ่าแม่ตัวเองเพื่อหวังนิ้วที่ 1 พัน

หากองคุลีมาลฆ่าแม่ตนเอง ก็จะเป็นอนันตริยกรรม ซึ่งกรรมหนักนี้จะขัดขวางไม่ให้องคุลีมาลสำเร็จโสดาปัตติผลได้

พระพุทธเจ้าจึงเสด็จเพื่อไปขัดขวางกรรมหนักนั้นขององคุลีมาล



---------------

"เราหยุดแล้ว ท่านต่างหากที่ยังไม่หยุด"

เพียงคำพูดสั้นเท่านี้ ก็ทำให้องคุลีมาลถึงกับหยุดชะงักในการไล่ฆ่าพระพุทธเจ้า หน้าตาที่เคยดุร้ายเหมือนยักษ์มารกลับค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นอหิงสกะคนเดิม

"หยุดอะไร ก็ข้าวิ่งตามท่านอยู่ตลอด จะบอกว่าหยุดได้อย่างไร"

"เราหยุดแล้วซึ่งการฆ่าและเบียดเบียนสรรพชีวิตทั้งหลาย"

เพียงพระพุทธดำรัสสั้น ๆ แค่นี้ ก็ทำให้องคุลีมาลสำเร็จเป็นพระโสดาบันทันที

ถามว่าทำไมแค่ประโยคสั้น ๆ ง่าย ๆ แค่นี้ จึงทำให้องคุลีมาลสำเร็จโสดาบันได้โดยง่าย ?

คำตอบคือ เพราะคำพูดนี้ คำสอนนี้ องคุลีมาลได้ผ่านการศึกษาเล่าเรียนสั่งสมบุญบารมีมาหลายภพหลายชาติแล้วนั่นเอง

บุญบารมีที่ค่อย ๆ สั่งสมมาขององคุลีมาล จึงทำให้แค่พระพุทธดำรัสสั้น ๆ ก็ทำให้องคุลีมาลตาสว่าง เสมือนตะเกียงเก่าที่ถูกจุดไฟขึ้นอีกครั้ง

ฉะนั้น เราค่อย ๆ ศึกษาสั่งสมความรู้ทางธรรมะไปเรื่อย ๆ บ่มเพาะไปเรื่อย ๆ สักวันก็จักสำเร็จได้ง่ายเหมือนดั่งองคุลีมาลพบนั่นเองครับ

แต่ก็นั่นแหละ หากวันนั้นไม่มีพระพุทธเจ้าไปขัดขวางกรรมหนักที่องคุลีมาลกำลังจะก่อขึ้น องคุลีมาลจะต้องตกนรกอเวจีไปอีกนานแสนนาน ห่างไกลการเป็นพระอริยะไปอีกนานแสนนาน

--------------

อยากรู้ไหม ทำไมองคุลมีมาลถึงได้ฆ่าคนมากถึง 999 คน ??

คำตอบคือ เพราะกรรมลิขิต เนื่องจากผู้คนทั้ง 999 คนนี้ ในอดีตชาตินานมาแล้ว พวกเขาเคยร่วมกันจับพญาเต่าทะเล ซึ่งก็คือองคุลีมาล

พญาเต่าทะเลตัวใหญ่มาก พญาเต่าได้ไปช่วยชาวประมงที่เกิดเรืออัปปาง ให้รอดชีวิตพาขึ้นฝั่งได้ทุกคน

แต่ชาวประมงทั้ง 999 คนนั้นกลับอกตัญญูพญาเต่า จึงได้ร่วมกันฆ่าพญาเต่าทะเลแล้วเผาพญาเต่าทั้งเป็นเพื่อนำมาเป็นอาหาร เพราะพวกนี้มีความเชื่อว่า ถ้าใครได้กินเนื้อพญาเต่าจะมีอายุวัฒนะ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน

ดังนั้นผู้คนที่เคยฆ่าพญาเต่าเหล่านั้น จึงต้องมาใช้ชดใช้บาปกรรมนั้น ด้วยการถูกองคุลีมาลฆ่า

อย่างที่เรียกว่า กรรมจัดสรร มาให้เกิดพอดีกันในชาติสุดท้ายของพระองคุลีมาล

--------------

เพราะมีคนสงสัย ผมจำไม่ได้ว่าใครสงสัย เขาจึงได้ถามพระพุทธเจ้าว่า เหตุใดองคุลีมาลฆ่าคนมามากมาย แต่ยังเป็นพระอรหันต์ได้ ?

พระพุทธเจ้าจึงทรงเล่าอดีตชาติขององคุลีมาล ว่าเคยเป็นพญาเต่าทะเล (บางตำราบอกว่า อดีตชาติขององคุลีมาลเคยเป็นควายที่ถูกประชาชนรุมฆ่า)

การฆ่าขององคุลีมาลก็เป็นบาป แต่ก็เป็นบาปที่ไม่มากเกินไป เพราะมันคือกรรมลิขิตที่ให้คนทั้ง 999 คน ต้องมาชดใช้ให้องคุลีมาล

ซึ่งบาปที่องคุลีมาลฆ่าคนตาย ก็ทำให้องคุลีมาลต้องชดใช้กรรมด้วยการโดนประชาชนขว้างปาก้อนหินใส่จนเจ็บปางตายเช่นกัน

แต่ใครอย่าไปฆ่าใคร แล้วจะมาอ้างว่า เพราะอดีตชาติเขาเคยฆ่าเรามาก่อนล่ะ เราเลยมาฆ่าคืน เพราะนั่นคือการแถ เพราะไม่มีใครรู้กรรมลิขิต ไม่มีใครรู้อดีตชาติตนเองได้

หากเราไปฆ่าใครตาย อาจเป็นกรรมปัจจุบันที่เราเพิ่งกระทำก็ได้ ซึ่งบาปกรรมนั้นจะตามเราไปอีกไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ

----------------------

เมื่อพระองคุลีมาลสำเร็จญาณระลึกชาติได้ ก็รำลึกอดีตชาติของตนว่า เคยทำบาปกรรมอะไรมาบ้าง

แล้วพระองคุลีมาลก็อุทิศส่วนกุศลที่ตนเป็นอริยะสงฆ์แล้ว แก่เจ้ากรรมนายเวรในทุกภพทุกชาติที่ผ่านมา

ส่วนใครที่เคยทำร้ายเบียดเบียนพระองคุลีมาลในทุกภพทุกชาติที่ผ่านทา พระองคุลีมาล ก็อโหสิกรรมให้แก่พวกเขาเหล่านั้นทั้งหมด

แล้วไม่นานพระองคุลีมาลก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้ในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น




counter statistics