วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556
ข้อคิดเรื่องการเกิด และการมีลูก
ตอนที่เมียกำลังตั้งครรภ์ ไม่มีผัวเมียคู่ไหนที่จะคิดว่า เมื่อลูกเกิดมา ลูกจะเป็นเด็กพิการ
ผัวเมียทุกคู่ล้วนแต่หวังในทางที่ดีว่า ลูกของพวกเขาจะคลอดออกมาเป็นเด็กที่ร่างกายสมบูรณ์ และน่ารักเสมอ
ส่วนผัวเมียที่มีลูกสมบูรณ์ดี มีร่างกายครบ 32 พวกเขาก็มักฝันหวานต่อไปว่า การมีลูกนี่คือความสุข นั่นเพราะพวกเขาจะมองแต่ด้านดีเพียงด้านเดียว แล้วมองข้ามด้านทุกข์ไปเลย
ฝันว่า ลูกฉันต้องดี ลูกฉันต้องเรียนเก่ง ต้องเป็นลูกกตัญญูแน่นอน
ไม่มีใครคิดในทางตรงข้ามว่า ลูกฉันจะเลว ลูกฉันจะเรียนอ่อน ลูกฉันจะเกเร ลูกฉันจะไม่เอาไหนไม่สนใจพ่อแม่
พ่อแม่หลายคนที่เลี้ยงลูกมาอย่างยากลำบาก แค่ลูกกลับไม่ตรงเวลา ก็ทุกข์ก็เครียด เพราะความห่วงแล้ว เหมือนที่เจ้าชายสิทธัตถะเคยตรัสเมื่อครั้งราหุล พระโอรสของพระองค์ ตอนเพิ่งประสูติว่า "บ่วงเกิดแล้ว"
หลายคนโชคดีที่ได้ลูกดี แต่บางทีอุบัติเหตุก็มาพรากลูกไปจากพ่อแม่ได้แค่เพียงพริบตา
ยิ่งถ้าพ่อแม่คนไหนต้องมาพบกับลูกที่ต้องป่วยหนัก ก็ยิ่งทุกข์สุด ๆ ก็แค่ลูกเป็นไข้หวัด พ่อแม่ก็ทุกข์จะตายแล้ว
ยุคปัจจุบันนี้ โลกเราไม่ได้สวยงามเหมือนในอดีต มลภาวะเป็นพิษสูง สิ่งยั่วยุให้ลูกหลงระเริงไปกับแสงสีความฟุ้งเฟ้อก็มีมาก เมื่อสังคมเสื่อมทรามลง คนเลวย่อมมีมากขึ้น เหตุอันตรายที่จะมีต่อลูกเราก็ย่อมมีมากขึ้นตามไปด้วย
บางทีแค่ลูกไปเรียน แต่กลับถูกเด็กอันธพาลต่างสถาบันยิงตายก็มีมากมายมาแล้ว
ลูกบางคนเรียนดี เป็นที่ภาคภูมิใจและเป็นความหวังของพ่อแม่ แต่อยู่ ๆ กลับโดนยิงตายจากลูกกระสุนหลงของใครก็ไม่รู้ ก็มีมาหลายรายเช่นกัน
แต่ก็นั่นแหละ ปุถุชนย่อมไม่เข้าใจว่าการเกิดคือบ่อเกิดแห่งทุกข์ทั้งมวล
จะมีพ่อแม่สักกี่คนที่สุขสมหวังเพราะลูก จนกระทั่งตัวเองได้ตายจากไป จริงไหม
การมีลูกจึงเป็นความเสี่ยงสูงอย่างหนึ่ง แต่เพราะคนเรานั้นเหมือนแมลงเม่าที่ชอบเล่นกับไฟ จึงยังชอบที่จะมีลูกกัน เพราะนั่นคือ กิเลสที่ธรรมชาติสร้างให้ทุกสรรพชีวิตเพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์
ดังนั้นไม่มีทุกข์ใดของพ่อแม่ มากเท่ากับทุกข์ที่เกิดจากลูก !!
เอาแค่วิธีคิดแบบง่าย ๆ โลกเราสภาวะแวดล้อมเสื่อมลงทุกวัน จิตใจคนก็เสื่อมลงทุกวัน ปัญหาอาชญากรรมมีมากขึ้น สิ่งยั่วยุชักนำลูกให้หลงทางผิดก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ สังคมเห็นแก่ตัวแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น แย่งที่ทำกินมากขึ้นเรื่อย ๆ
เพียงแค่คิดว่า โลกเราอากาศแย่ สิ่งแวดล้อมแย่ ถ้าเป็นผมนะ ผมก็ไม่อยากให้ลูกของผมต้องเกิด ต้องมาทนทุกข์บนโลกใบนี้เพิ่มขึ้นอีกแล้ว
---------------------
พ่อแม่หลายคนมักจะบอกว่า ถึงจะทุกข์จากลูก แต่ก็พร้อมที่จะยอมทุกข์ เพราะในความทุกข์นั้นก็มีความสุขอย่างมากรวมอยู่ด้วย
ผมก็เข้าใจว่า พ่อแม่ย่อมรักลูก ย่อมมีความคิดและความรู้สึกเช่นนั้นเป็นธรรมดา
แต่ผมอยากฝากว่า ความสุข คือตัวหลอกให้คนเราหลงยึดติด
เมื่อติดสุขแล้ว ก็จะไม่มีทางพ้นทุกข์ ไม่มีทางพ้นการเวียนว่ายตายเกิดครับ ฉะนั้น พระท่านว่า สุขนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าทุกข์
แนะนำอ่าน หลวงพ่อชา "สุขและทุกข์คือสิ่งเดียวกัน"
ถามว่า เลิกคิดจะมีลูกได้ไหม ?
ตอบคือ ยาก
แต่ขอเพียงให้เราเริ่มรับรู้ในชาตินี้ในชั้นต้นไว้ก่อนว่า การเกิดคือบ่อเกิดแห่งทุกข์ทั้งปวง เป็นขั้นต้น แล้วชาติต่อ ๆ ไป เราก็จะเข้าใจในเรื่องนี้มากขึ้นเอง
ที่ผมเขียนเรื่องการมีลูก ก็เพื่อจะให้เราได้รับทราบในเหตุแห่งทุกข์ขั้นพื้นฐานไว้ก่อน เพราะเรายังต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอีกนาน
ความรู้เรื่องการเกิดในวันนี้จึงเป็นเพียง การให้รับรู้เพื่อกระตุ้นสัญญาของเรา(ความจำได้) ทางจิตวิญญาณของเราไว้ก่อน เป็นการสั่งสมความรู้ทางธรรมไว้ก่อน
เพราะการรับรู้ซ้ำ ๆ จะฝังลงในสัญญาทางจิตวิญญาณได้ ซึ่งจะความรู้นี้จะติดตามเราเป็นภูมิธรรมสู่ภพภูมิอื่น ๆ ต่อไป
ดังนั้น เรื่องการเกิดจึงแบ่งเป็น 2 ระดับ
คือในระดับโลกียะ คนเราย่อมยินดีในการเกิด เป็นความสุขในโลกแห่งกิเลส เช่น ผมเองก็ยังยินดีที่ได้เห็นเด็กที่เกิดมามีอาการครบ 32 เป็นต้น
ส่วนในระดับโลกุตระ เราต้องไม่ยินดีในการเกิด โดยเริ่มต้นที่ เราจะไม่ยินดีในการเกิดของตัวเราในภพหน้าอีก ซึ่งความคิดแบบนี้คือจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เรามุ่งมั่นเพื่อหาหนทางดับทุกข์ที่แท้จริงต่อไป
-------------------
ทิ้งท้าย
จงหยุดหลงใหลกับการเกิด แล้วหันมาระลึกพิจารณาความตายแทนนั่นคือ "มรณานุสติ"
อานิสงส์ของมรณานุสติคือ ช่วยขจัดความโลภออกจากใจ , ลดราคะอันเป็นสิ่งเย้ายวนกระตุ้นต่อกิเลส , เกิดปัญญาเพื่อความไม่ประมาทในชีวิต
ส่วนการหลงใหลและดีใจกับการเกิด นั้นคือความโง่อย่างหนึ่ง
เพราะการเกิด คือ ต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง
หากหยุดเกิดได้ ก็คือ หยุดทุกข์ ได้
หากดับการเกิดได้ ก็คือ นิพพาน
วันนี้คุณเลิกปลื้มและลุ่มหลงในการเกิดของสรรพสัตว์แล้วรึยัง ?
คลิกอ่าน ข้อคิดเมื่อคนอื่นมาทำให้เราทุกข์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น