วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557

ปิดกรุงเทพก็ล้มยิ่งลักษณ์ไม่ได้ และข้อควรระวัง







อันนี้ผมขอเตือนด้วยความหวังดีว่า การปิดกรุงเทพ ฯ จะทำให้มีคนที่เดือดร้อนอย่างมาก ย้ำว่า เฉพาะคนที่เดือดร้อนอย่างมาก ที่อาจเคยสนับสนุน กปปส. มาตั้งแต่ต่อต้านกม.นิรโทษกรรม อาจถอยห่างจาก กปปส. และอาจกลายเป็นเลิกสนับสนุน กปปส. ไปเลยก็เป็นได้

พวกที่ทำงานออฟฟิศ หากลางานได้ ลาพักร้อนได้ ก็อาจไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ แต่ถ้าคนที่เขารายได้น้อย หรือหาเช้ากินค่ำ ครอบครัวเขาต้องกินต้องใช้ทุกวัน วันไหนไม่ได้ทำงานก็ไม่มีเงิน หรือวันไหนค้าขายไม่ได้เพราะการขนส่งวัตถุดิบเกิดปัญหา เขาก็ย่อมเดือดร้อนไปทั้งครอบครัว

แต่เอาเป็นว่า กรณีคนทำมาหากิน หรือคนทำมาค้าขาย หรือคนทำงานมีเงินเดือน ผมยังไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่

แต่ที่ผมห่วงที่สุด คือ ผู้ป่วยที่ต้องมาโรงพยาบาลทุกคน คนกลุ่มนี้แหล่ะ ที่จะเดือดร้อนที่สุด

ลองคิดดู แค่เฉพาะโรงพยาบาลของรัฐ เช่น ศิริราช รามาธิบดี จุฬา และโรงพยาบาลรัฐทุกแห่งในกรุงเทพฯ วันๆ นึงมีผู้ป่วยที่ต้องมาเข้ารับการรักษาวันละนับแสนคน แล้วไหนจะโรงพยาบาลเอกชนอีกล่ะ

ผู้ป่วยที่หมอนัดรักษา ผู้ป่วยที่หมอนัดตรวจ ผู้ป่วยที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยที่ต้องมารับยาประจำเดือน ผู้ป่วยที่หมอนัดผ่าตัด พวกเขาเหล่านี้จำเป็นต้องเดินทางมาโรงพยาบาลทั้งสิ้น หากมีการปิดกรุงเทพ ฯ แล้วพวกเขาจะเดินทางมาโรงพยาบาลได้อย่างไร

และผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มาโรงพยาบาลด้วยรถพยาบาล พวกเขาส่วนใหญ่ต่างมาด้วยรถส่วนบุคคล รถแท๊กซี่ หรือถ้าพอมีเรี่ยวแรงก็มาด้วยรถโดยสารสาธารณะ

หากการจราจรติดขัดหนัก หรือรถส่วนตัว และรถแท๊กซี่วิ่งไม่ได้ ผู้ป่วยไปโรงพยาบาลไม่ได้ หรือไปไม่ทันการ หรือไปได้ก็ยากลำบากมาก

ใครจะรับผิดชอบชีวิตและความเดิอดร้อนของพวกเขาเหล่านี้

ผู้ป่วยที่ต้องไปทำคีโมรักษามะเร็ง ผู้ป่วยบางโรคที่ต้องไปรักษาตามกำหนดตามขั้นตอนตามระยะ เช่นผู้ป่วยธารัสซีเมียที่ต้องไปรับเลือด

หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยโรคไตวาย ที่ต้องไปเข้ารับการรักษาฟอกเลือด ที่มีอยู่ในทุกโรงพยาบาลในกรุงเทพ

หากผู้ป่วยเหล่านั้นไม่ได้เข้ารับการรักษาไม่ได้ตามกำหนด ใครล่ะที่จะรับผิดชอบชีวิตและความเจ็บป่วยเหล่านี้ให้พวกเขา ?

อย่างโรคไตวาย หากไม่ได้ไปฟอกเลือดตามกำหนด อาจตายได้ทุกเมื่อ

หรือแม้แต่ผู้ป่วยที่นอนในโรงพยาบาล ที่จะต้องมีการขนส่งยาจากบริษัทยามาส่งที่โรงพยาบาล หากการจราจรติดขัด เกิดภาวะยาขาดแคลนในโรงพยาบาล ใครล่ะจะรับผิดชอบความเดือดร้อนในเรื่องนี้ ?

กปปส. กำลังสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์มากขึ้น ด้วยการปิดกรุงเทพฯ

และการที่จะปิดกรุงเทพฯ แบบที่ไม่มีกำหนดเวลาตายตัวแน่นอน ผู้ป่วยก็ไม่รู้จะต้องเดือดร้อนนานแค่ไหน

นี่คือการทำบาปหนักต่อผู้ป่วย และญาติผู้ป่วยแน่นอน

บาปกรรมนั้นจะตกกับผู้ร่วมในการกระทำของ กปปส.ทุกคน และจะทำให้ กปปส. จะเริ่มหมดความชอบธรรมมากขึ้นทั้งในสายตาคนไทย และชาวโลก

ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ต่อให้ปิดกรุงเทพฯ ก็ไม่มีทางล้มยิ่งลักษณ์ได้ แต่กลับจะสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายยิ่งลักษณ์มากขึ้นในการยกมาอ้างโจมตี กปปส.

แต่หากความเดือดร้อนเกิดขึ้นจนถึงขีดสุด ความเดือดร้อนนั้นจะกลายเป็นดาบนั้นคืนสนอง กปปส. เอง

และถ้ายิ่งลักษณ์เกิดเลือกเสียสละยอมลาออก เพราะเห็นแก่ความเดือดร้อนของประชาชนมาหลายวันจริง ๆ

ยิ่งลักษณ์ก็จะกลายเป็นฮีโร่ แต่ กปปส. จะกลายเป็นคือผู้แพ้นั่นเอง เพราะถ้าได้ชัยชนะบนความเดือดร้อนของประชาชน ไม่เรียกว่า ชัยชนะหรอกครับ

จำได้ไหม พวกเราเคยประณามเสื้อแดงที่ปิดแยกอนุสาวรีย์จนทำให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลราชวิถี รพ.พระมงกุฏฯ รพ.รามาธิบดี รพ.เด็ก รพ.สงฆ์ เดือดร้อนอย่างหนักในปี 2552 มาแล้ว 

แล้ว กปปส. จะดำเนินตามแบบเสื้อแดงมันทำเหรอ ?

ถ้าผมเป็นยิ่งลักษณ์ ผมจะไม่ยอมลาออกเพราะ กปปส. ปิดกรุงเทพฯ แน่นอน เพราะยิ่งนานวัน คนยิ่งเดือดร้อนมาก และ กปปส. จะกลายเป็นโจรในสายตาคนที่เดิอดร้อนแน่นอน

การอยากได้ชัยชนะบนความเดิอดร้อนของประชาชน ก็คือการเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นตัวประกัน

ถือเป็นการทำบาปมหันต์ที่สุด ซึ่งกฎแห่งกรรมย่อมลงโทษผู้ที่ร่วมการกระทำนั้นแน่นอน

นี่ผมแค่ยากตัวอย่างกรณีผู้ป่วยเท่านั้นนะ แต่ผู้ที่จะเดือดร้อนยังมีอีกหลายกลุ่มมากมายนับไม่ถ้วน

ความเดือดร้อนของผู้คน ไม่ใช่จะเอามาล้อเล่นกันง่าย ๆ

หากล้มยิ่งลักษณ์ไม่ได้โดยเร็วจากการปิดกรุงเทพ ความพ่ายแพ้จะเกิดขึ้นกับ กปปส. เอง และแนวร่วมจะน้อยลง ๆ แม้พวกเขายังจะต่อต้านระบอบทักษิณก็ตาม แต่พวกเขาคงจะไม่เลือกเดินตามแนวทาง กปปส. อีกต่อไป

ฉะนั้น กปปส. ควรคิดให้ดีว่าจะเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาใช้หรือไม่

อย่ามาอ้างว่า ทุกคนต้องยอมเสียสละ เพราะความเสียสละของคนเราทุกคนย่อมไม่เท่ากัน

เพราะหากเลยจุดความพอดีไป กปปส. ก็จะไม่ต่างอะไรกับพวกฟายแดงเผาบ้านเผาเมือง


(ยังไงผมขอเอาช่วยให้ กปปส. ได้ชัยชนะโดยเร็ว เพราะหากปิดกรุงเทพแล้วยังไม่สามารถชนะโดยเร็วได้ กปปส. จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เอง)


-------------

อัพเดท เช้าวันเสาร์ที่ 4 ม.ค. 56

พอดีผมเพิ่งนึกได้ว่า มีอีกกรณีนึงคือ ผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ เมื่อทางคณะแพทย์ได้อวัยวะเช่น ไต ตับ หัวใจ มาจากผู้เสียชีวิตจากสมองตาย ก็จะต้องรีบนำอวัยวะเหล่านี้มาปลูกถ่ายให้กับผู้ผ่วยที่รอการปลูกถ่ายทันที

ซึ่งปกติทั่วไป ผู้ป่วยก็ต้องรีบมาให้ถึงโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อให้รีบทำการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะนั้น ๆอย่างเร็วที่สุด

ซึ่งกรณีนี้ไม่เรียกว่า กรณีฉุกเฉิน เพราะกรณีฉุกเฉินจะหมายถึง สภาวะผู้ป่วยใกล้ตาย หากไม่รีบส่งถึงมือแพทย์

แต่กรณีผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ไม่เคยถูกนำไปอยู่ในกรณีฉุกเฉิน แต่ผู้ป่วยกับแพทย์รู้ดีว่า ยิ่งผ่าตัดได้เร็วที่สุดเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะอวัยวะจะไม่เสื่อมไปเพราะเงื่อนไขของเวลา



คลิกอ่าน เบาใจขึ้น กำนันสุเทพไม่ลืมผู้ป่วย


คลิกอ่าน การประท้วงกดดัน กับหลักใจเขาใจเรา


5 ความคิดเห็น:

  1. ใช่ครับ ผมก็ไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่กำนันสุเทพประกาศจะยึดกรุงเทพฯ เพราะจะมีคนเดือดร้อนมากมาย ทั้งทางตรงและทางอ้อมครับ ประชาชนที่เดือดร้อนมากๆ พาลจะไม่สนับสนุนกปปส. ต่อไปอีกก็เป็นได้ยังไงยิ่งลักษณ์ก็ไม่มีทางลาออกจากรักษาการณ์หรอก เพราะจะทำให้สถานการณ์ของกลุ่มควายแดงเสียเปรียบทันที

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ2 มกราคม 2557 เวลา 19:56

    คัดค้าน ไม่เห็นด้วย ตั้งข้อสงสัย เฉยชาต่อไป นั่นเป็นเพราะคุณเป็นห่วงและรัก "บ้าน"คุณ มากกว่า "ประเทศ"ของคุณ
    ขณะที่ก็รู้ดีว่าระบอบทักษิณมันกัดกร่อนประเทศอย่างไร หมิ่นและจาบจ้วงสถาบันอย่างไร คุณกลัวประเทศเสียหายผู้คนเดือดร้อน แต่เราคิดว่าเสียหายยังไงก็คงไม่เท่ากับจำนำข้าวที่เจ๊งสี่แสนล้านหรอกนี่แค่ปิดกรุง 1 วันตามประกาศคือ 20 สี่แยกเท่านั้นไม่ได้ปิดน้ำปิดไฟอย่างที่เสื้อแดงกำลังกระพือข่าว
    หรือคนเรา"ทุกคนมีสิทธิเห็นแก่ตัว" ต้องรอให้ประเทศเจ๊ง เราตกงาน ขายบ้านขายรถ ลูกไม่มีเงินไปโรงเรียน
    เมื่อนั้นพวกเราถึงจะออกมาเรียกร้องหรือยังไง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สิ่งที่คุณตอบมาทำไมผมไม่เข้าใจ ผมกล้าและพร้อมให้ตัวเองเดือดร้อน แต่ผมไม่ต้องการให้ผู้คนที่อ่อนแอกว่า ฐานะด้อยกว่าต้องเดือดร้อนครับ

      เชิญคุณไปอ่านบทความเรื่อง "ประท้วงกดดัน กับหลักใจเขาใจเรา" ก่อนนะครับ เผื่อคุณจะมีคุณธรรมมากขึ้น และอาจฉลาดกว่าเดิม

      คลิกอ่านที่นี่

      ลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ4 มกราคม 2557 เวลา 15:17

    ปิดกรุงเทพ แต่เปิดเส้นทางให้รถสาธารณะเดินตามปกติค่ะ ใครเจ็บป่วยก็ไปโรงพยาบาลได้สะดวก เพราะเปิดเส้นทางจราจรไว้ให้ ไม่ขวางทางค่ะ ไม่ต้องห่วง ห้างร้านเปิดบริการตามปกติได้ ร้านอาหารริมทางมีแต่จะขายดิบขายดีค่ะ
    แต่มีอะไรไม่ดีก็ช่วยกันบอก ช่วยกันเตือนได้ค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณครับ ผมได้เขียนบทความช่วยแก้ต่างให้แล้วเช่นกัน ในบทความเรื่อง "เบาใจที่กำนันสุเทพไม่ลืมผู้ป่วย"

      คลิกอ่านที่นี่

      ลบ




counter statistics