อันนี้ผมขอเตือนด้วยความหวังดีว่า การปิดกรุงเทพ ฯ จะทำให้มีคนที่เดือดร้อนอย่างมาก ย้ำว่า เฉพาะคนที่เดือดร้อนอย่างมาก ที่อาจเคยสนับสนุน กปปส. มาตั้งแต่ต่อต้านกม.นิรโทษกรรม อาจถอยห่างจาก กปปส. และอาจกลายเป็นเลิกสนับสนุน กปปส. ไปเลยก็เป็นได้
พวกที่ทำงานออฟฟิศ หากลางานได้ ลาพักร้อนได้ ก็อาจไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ แต่ถ้าคนที่เขารายได้น้อย หรือหาเช้ากินค่ำ ครอบครัวเขาต้องกินต้องใช้ทุกวัน วันไหนไม่ได้ทำงานก็ไม่มีเงิน หรือวันไหนค้าขายไม่ได้เพราะการขนส่งวัตถุดิบเกิดปัญหา เขาก็ย่อมเดือดร้อนไปทั้งครอบครัว
แต่เอาเป็นว่า กรณีคนทำมาหากิน หรือคนทำมาค้าขาย หรือคนทำงานมีเงินเดือน ผมยังไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่
แต่ที่ผมห่วงที่สุด คือ ผู้ป่วยที่ต้องมาโรงพยาบาลทุกคน คนกลุ่มนี้แหล่ะ ที่จะเดือดร้อนที่สุด
ลองคิดดู แค่เฉพาะโรงพยาบาลของรัฐ เช่น ศิริราช รามาธิบดี จุฬา และโรงพยาบาลรัฐทุกแห่งในกรุงเทพฯ วันๆ นึงมีผู้ป่วยที่ต้องมาเข้ารับการรักษาวันละนับแสนคน แล้วไหนจะโรงพยาบาลเอกชนอีกล่ะ
ผู้ป่วยที่หมอนัดรักษา ผู้ป่วยที่หมอนัดตรวจ ผู้ป่วยที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยที่ต้องมารับยาประจำเดือน ผู้ป่วยที่หมอนัดผ่าตัด พวกเขาเหล่านี้จำเป็นต้องเดินทางมาโรงพยาบาลทั้งสิ้น หากมีการปิดกรุงเทพ ฯ แล้วพวกเขาจะเดินทางมาโรงพยาบาลได้อย่างไร
และผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มาโรงพยาบาลด้วยรถพยาบาล พวกเขาส่วนใหญ่ต่างมาด้วยรถส่วนบุคคล รถแท๊กซี่ หรือถ้าพอมีเรี่ยวแรงก็มาด้วยรถโดยสารสาธารณะ
หากการจราจรติดขัดหนัก หรือรถส่วนตัว และรถแท๊กซี่วิ่งไม่ได้ ผู้ป่วยไปโรงพยาบาลไม่ได้ หรือไปไม่ทันการ หรือไปได้ก็ยากลำบากมาก
ใครจะรับผิดชอบชีวิตและความเดิอดร้อนของพวกเขาเหล่านี้
ผู้ป่วยที่ต้องไปทำคีโมรักษามะเร็ง ผู้ป่วยบางโรคที่ต้องไปรักษาตามกำหนดตามขั้นตอนตามระยะ เช่นผู้ป่วยธารัสซีเมียที่ต้องไปรับเลือด
หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยโรคไตวาย ที่ต้องไปเข้ารับการรักษาฟอกเลือด ที่มีอยู่ในทุกโรงพยาบาลในกรุงเทพ
หากผู้ป่วยเหล่านั้นไม่ได้เข้ารับการรักษาไม่ได้ตามกำหนด ใครล่ะที่จะรับผิดชอบชีวิตและความเจ็บป่วยเหล่านี้ให้พวกเขา ?
อย่างโรคไตวาย หากไม่ได้ไปฟอกเลือดตามกำหนด อาจตายได้ทุกเมื่อ
หรือแม้แต่ผู้ป่วยที่นอนในโรงพยาบาล ที่จะต้องมีการขนส่งยาจากบริษัทยามาส่งที่โรงพยาบาล หากการจราจรติดขัด เกิดภาวะยาขาดแคลนในโรงพยาบาล ใครล่ะจะรับผิดชอบความเดือดร้อนในเรื่องนี้ ?
กปปส. กำลังสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์มากขึ้น ด้วยการปิดกรุงเทพฯ
และการที่จะปิดกรุงเทพฯ แบบที่ไม่มีกำหนดเวลาตายตัวแน่นอน ผู้ป่วยก็ไม่รู้จะต้องเดือดร้อนนานแค่ไหน
นี่คือการทำบาปหนักต่อผู้ป่วย และญาติผู้ป่วยแน่นอน
บาปกรรมนั้นจะตกกับผู้ร่วมในการกระทำของ กปปส.ทุกคน และจะทำให้ กปปส. จะเริ่มหมดความชอบธรรมมากขึ้นทั้งในสายตาคนไทย และชาวโลก
ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ต่อให้ปิดกรุงเทพฯ ก็ไม่มีทางล้มยิ่งลักษณ์ได้ แต่กลับจะสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายยิ่งลักษณ์มากขึ้นในการยกมาอ้างโจมตี กปปส.
แต่หากความเดือดร้อนเกิดขึ้นจนถึงขีดสุด ความเดือดร้อนนั้นจะกลายเป็นดาบนั้นคืนสนอง กปปส. เอง
และถ้ายิ่งลักษณ์เกิดเลือกเสียสละยอมลาออก เพราะเห็นแก่ความเดือดร้อนของประชาชนมาหลายวันจริง ๆ
ยิ่งลักษณ์ก็จะกลายเป็นฮีโร่ แต่ กปปส. จะกลายเป็นคือผู้แพ้นั่นเอง เพราะถ้าได้ชัยชนะบนความเดือดร้อนของประชาชน ไม่เรียกว่า ชัยชนะหรอกครับ
จำได้ไหม พวกเราเคยประณามเสื้อแดงที่ปิดแยกอนุสาวรีย์จนทำให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลราชวิถี รพ.พระมงกุฏฯ รพ.รามาธิบดี รพ.เด็ก รพ.สงฆ์ เดือดร้อนอย่างหนักในปี 2552 มาแล้ว
แล้ว กปปส. จะดำเนินตามแบบเสื้อแดงมันทำเหรอ ?
ถ้าผมเป็นยิ่งลักษณ์ ผมจะไม่ยอมลาออกเพราะ กปปส. ปิดกรุงเทพฯ แน่นอน เพราะยิ่งนานวัน คนยิ่งเดือดร้อนมาก และ กปปส. จะกลายเป็นโจรในสายตาคนที่เดิอดร้อนแน่นอน
การอยากได้ชัยชนะบนความเดิอดร้อนของประชาชน ก็คือการเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นตัวประกัน
ถือเป็นการทำบาปมหันต์ที่สุด ซึ่งกฎแห่งกรรมย่อมลงโทษผู้ที่ร่วมการกระทำนั้นแน่นอน
นี่ผมแค่ยากตัวอย่างกรณีผู้ป่วยเท่านั้นนะ แต่ผู้ที่จะเดือดร้อนยังมีอีกหลายกลุ่มมากมายนับไม่ถ้วน
ความเดือดร้อนของผู้คน ไม่ใช่จะเอามาล้อเล่นกันง่าย ๆ
หากล้มยิ่งลักษณ์ไม่ได้โดยเร็วจากการปิดกรุงเทพ ความพ่ายแพ้จะเกิดขึ้นกับ กปปส. เอง และแนวร่วมจะน้อยลง ๆ แม้พวกเขายังจะต่อต้านระบอบทักษิณก็ตาม แต่พวกเขาคงจะไม่เลือกเดินตามแนวทาง กปปส. อีกต่อไป
ฉะนั้น กปปส. ควรคิดให้ดีว่าจะเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาใช้หรือไม่
อย่ามาอ้างว่า ทุกคนต้องยอมเสียสละ เพราะความเสียสละของคนเราทุกคนย่อมไม่เท่ากัน
เพราะหากเลยจุดความพอดีไป กปปส. ก็จะไม่ต่างอะไรกับพวกฟายแดงเผาบ้านเผาเมือง
(ยังไงผมขอเอาช่วยให้ กปปส. ได้ชัยชนะโดยเร็ว เพราะหากปิดกรุงเทพแล้วยังไม่สามารถชนะโดยเร็วได้ กปปส. จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เอง)
-------------
อัพเดท เช้าวันเสาร์ที่ 4 ม.ค. 56
พอดีผมเพิ่งนึกได้ว่า มีอีกกรณีนึงคือ ผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ เมื่อทางคณะแพทย์ได้อวัยวะเช่น ไต ตับ หัวใจ มาจากผู้เสียชีวิตจากสมองตาย ก็จะต้องรีบนำอวัยวะเหล่านี้มาปลูกถ่ายให้กับผู้ผ่วยที่รอการปลูกถ่ายทันที
ซึ่งปกติทั่วไป ผู้ป่วยก็ต้องรีบมาให้ถึงโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อให้รีบทำการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะนั้น ๆอย่างเร็วที่สุด
ซึ่งกรณีนี้ไม่เรียกว่า กรณีฉุกเฉิน เพราะกรณีฉุกเฉินจะหมายถึง สภาวะผู้ป่วยใกล้ตาย หากไม่รีบส่งถึงมือแพทย์
แต่กรณีผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ไม่เคยถูกนำไปอยู่ในกรณีฉุกเฉิน แต่ผู้ป่วยกับแพทย์รู้ดีว่า ยิ่งผ่าตัดได้เร็วที่สุดเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะอวัยวะจะไม่เสื่อมไปเพราะเงื่อนไขของเวลา
คลิกอ่าน เบาใจขึ้น กำนันสุเทพไม่ลืมผู้ป่วย
คลิกอ่าน การประท้วงกดดัน กับหลักใจเขาใจเรา
ใช่ครับ ผมก็ไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่กำนันสุเทพประกาศจะยึดกรุงเทพฯ เพราะจะมีคนเดือดร้อนมากมาย ทั้งทางตรงและทางอ้อมครับ ประชาชนที่เดือดร้อนมากๆ พาลจะไม่สนับสนุนกปปส. ต่อไปอีกก็เป็นได้ยังไงยิ่งลักษณ์ก็ไม่มีทางลาออกจากรักษาการณ์หรอก เพราะจะทำให้สถานการณ์ของกลุ่มควายแดงเสียเปรียบทันที
ตอบลบคัดค้าน ไม่เห็นด้วย ตั้งข้อสงสัย เฉยชาต่อไป นั่นเป็นเพราะคุณเป็นห่วงและรัก "บ้าน"คุณ มากกว่า "ประเทศ"ของคุณ
ตอบลบขณะที่ก็รู้ดีว่าระบอบทักษิณมันกัดกร่อนประเทศอย่างไร หมิ่นและจาบจ้วงสถาบันอย่างไร คุณกลัวประเทศเสียหายผู้คนเดือดร้อน แต่เราคิดว่าเสียหายยังไงก็คงไม่เท่ากับจำนำข้าวที่เจ๊งสี่แสนล้านหรอกนี่แค่ปิดกรุง 1 วันตามประกาศคือ 20 สี่แยกเท่านั้นไม่ได้ปิดน้ำปิดไฟอย่างที่เสื้อแดงกำลังกระพือข่าว
หรือคนเรา"ทุกคนมีสิทธิเห็นแก่ตัว" ต้องรอให้ประเทศเจ๊ง เราตกงาน ขายบ้านขายรถ ลูกไม่มีเงินไปโรงเรียน
เมื่อนั้นพวกเราถึงจะออกมาเรียกร้องหรือยังไง
สิ่งที่คุณตอบมาทำไมผมไม่เข้าใจ ผมกล้าและพร้อมให้ตัวเองเดือดร้อน แต่ผมไม่ต้องการให้ผู้คนที่อ่อนแอกว่า ฐานะด้อยกว่าต้องเดือดร้อนครับ
ลบเชิญคุณไปอ่านบทความเรื่อง "ประท้วงกดดัน กับหลักใจเขาใจเรา" ก่อนนะครับ เผื่อคุณจะมีคุณธรรมมากขึ้น และอาจฉลาดกว่าเดิม
คลิกอ่านที่นี่
ปิดกรุงเทพ แต่เปิดเส้นทางให้รถสาธารณะเดินตามปกติค่ะ ใครเจ็บป่วยก็ไปโรงพยาบาลได้สะดวก เพราะเปิดเส้นทางจราจรไว้ให้ ไม่ขวางทางค่ะ ไม่ต้องห่วง ห้างร้านเปิดบริการตามปกติได้ ร้านอาหารริมทางมีแต่จะขายดิบขายดีค่ะ
ตอบลบแต่มีอะไรไม่ดีก็ช่วยกันบอก ช่วยกันเตือนได้ค่ะ
ขอบคุณครับ ผมได้เขียนบทความช่วยแก้ต่างให้แล้วเช่นกัน ในบทความเรื่อง "เบาใจที่กำนันสุเทพไม่ลืมผู้ป่วย"
ลบคลิกอ่านที่นี่