วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เป้าหมายสูงสุดของมวลมหาประชาชน 9 ธันวาคม 56






แม้พรรคประชาธิปไตย์ จะเพิ่งคิดได้ว่าต้องลาออกจาก สส. แต่ก็ถือว่าดีกว่าสายเกินไป

ว่าแต่ชูวิทย์เคยประกาศจะลาออกตาม อย่าตระบัดสัตย์ล่ะ เพราะถ้าชูวิทย์ตอแหลไม่ทำตามที่พูด รับรองไม่มีที่ยืนในวงการเมืองอีกต่อไปแน่นอน

ส่วนเป้าหมายสูงสุดในพรุ่งนี้คือ ยิ่งลักษณ์ต้องยุบสภา แล้วต้องลาออกด้วยเท่านั้น ถึงจะเกิดสูญญากาศทางการเมือง ตามมาตรา 7 ได้

หากเป็นไปได้ตามนั้น (ซึ่งคงยากเพราะยิ่งลักษณ์มันหน้าด้าน)

ก็ให้ใช้มาตรา 7 ประธานวุฒิสภา ส่งรายชื่อ นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งในวุฒิสภา ขึ้นทูลเกล้าขอพระเมตตาพระกรุณาแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีชั่วคราวต่อไป

---------------------

เสนอ สว.รสนา เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว

หากเกิดภาวะสูญญากาศทางการเมืองจริง ๆ ตามที่ผมยกมาด้านบน

มันก็เกิดความจำเป็นที่จะต้องทูลเกล้ารายชื่อนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพื่อไม่ให้ประเทศชาติเกิดภาวะไร้รัฐบาลบริหารประเทศ

สิ่งที่ดีที่สุด คือ ต้องสรรหานายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ถ้าสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบไปแล้ว

ผู้ที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด ก็ควรมาจากวุฒิสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น

เพราะเมื่อไร้สภาผู้แทนราษฎร สภาวุฒิก็จะต้องทำหน้าที่แทน มันเป็นหลักการในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว

ซึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุด ก็คือ สว.รสนา โตสิตระกูล สว.ที่มาจากการเลือกตั้งที่มีคะแนนสูงที่สุดในประเทศ

จึงขอเสนอให้ประธานวุฒิสภา ส่งรายชื่อ สว.รสนา โตสิตระกูล ให้ในหลวงพระราชทานแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราวครับ

---------------------------

เมื่อสว.รสนา ยกอมตะวจีของลินคอล์นโพสลงเฟสบุ้ค


" This country, which its institutions, belongs to the people who inhabit it. Whenever they shall grow weary of existing government they can exercise their constitutional right of amending it, or their revolutionary right to dismember or overthrow it." Lincoln
(Inaugural Address 1861)

คำแปล

"ประเทศนี้, กับทั้งสถาบันทั้งปวงของประเทศ, เป็นของราษฎร ผู้ซึ่งครอบครองอยู่ เมื่อใดราษฎรรู้สึกไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่บริหารอยู่ เมื่อนั้นราษฎรย่อมใช้สิทธิของตนตามรัฐธรรมนูญทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือใช้สิทธิแห่งการปฏิวัติ เพื่อปลดหรือขับไล่รัฐบาลนั้นเสียได้" ลินคอล์น

(จากคำปราศรัยในวันเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ปีพ.ศ 2404)

-----------------


มวลมหาประชาชนทั้งประเทศ ต้องทำการขอพระราชทานอภัยโทษ

เมื่อปี 2549 คมช. รัฐประหาร ก็ไปทูลเกล้าขอนายกรัฐมนตรีพระราชทานจากในหลวง คือพลเอกสุรยทธ จุลานนท์ องคมนตรีมาเป็นนายกรัฐมนตรีพระราชทาน โดยอำนาจของคณะรัฐประหาร

แต่มวลมหาประชาชน เราต้องใช้มาตรา 7 ทูลขอให้ในหลวงทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่มาจากวุฒิสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งถือว่า มีความชอบธรรมกว่า นายกรัฐมนตรีขิงแก่ของ คมช.แน่นอน

แต่นั่นแหละ ก็ยังถือว่า ได้กระทำให้ในหลวงทรงระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทเช่นกัน เพราะนั่นคือการใช้มาตรา 7 ที่ในหลวงทรงไม่อยากจะใช้ตามที่เคยพระราชดำรัสไว้เมื่อปี 2547

(คลิกอ่านพระราชดำรัสนั้นในบทความนี้)

ดังนั้น มวลมหาประชาชน กปปส. ต้องกระทำพิธีขอพระราชทานอภัยโทษกันทั้งประเทศเท่านั้น จึงจะสมควร

เพราะยังไงก็ยังดีกว่า ปล่อยให้ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขที่มา สว. ของยิ่งลักษณ์ที่ขัดรัฐธรรมนูญ ปล่อยค้างไว้เพื่อกดดันในหลวงไปจนครบ 90 วันครับ

แต่ประเด็นก็คือ ยิ่งลักษณ์อาจเลือกทางแค่ยุบสภาเท่านั้น แล้วมันก็จะรักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไป

ฉะนั้น อย่าเพิ่งเลิกม็อบกดดันง่าย ๆ ครับ เพราะชัยชนะมันอยู่ไม่ไกลแล้ว

ส่วนเรื่องต้องเลือกตั้งหลังยุบสภาภายใน 60 วันนั้น สามารถใช้มาตรา 7 ออกบทเฉพาะกาลเลื่อนการเลือกตั้งออกไปได้ครับ


----------------------

คมช. มีคณะทหารแค่ไม่กี่นาย กระทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ 40 ทิ้งได้

แล้วทำไมรัฐประหารของประชาชน จะหยุดใช้รัฐธรรมนูญ 50 บางมาตราสักระยะ ทำไมจะทำไม่ได้วะ ?

มวลมหาประชาชนมีคนเป็นล้านนะโว้ย

มวลมหาประชาชนเราไม่ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง แต่เราจะใช้มาตรา 7 ใช้หยุดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราชั่วคราวสักระยะว่ะ

/@akecity

------------------------

(ล่าสุดเมื่อกี้นี่เอง 8 ธ.ค.56 ยิ่งลักษณ์ไปขอพระราชทานร่างแก้ไขรธน.ที่มาสว. คืนจากในหลวง และขอพระราชทานอภัยโทษ)

จึงเท่ากับว่า ยิ่งลักษณ์ยอมรับผิดแล้วว่า ร่างรธน.แก้ไขที่มา สว. เป็นสิ่งที่มีการกระทำผิดจริง จึงไปขอพระราชทานคืนจากในหลวง

ก็เท่ากับยอมรับว่า พวกสส. และ สว. ขี้ข้า ได้กระทำการออกกฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญจริง

ฉะนั้น รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และ 312 สส.และ สว. หมดความชอบธรรมที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปแล้วครับ /@akecity


คลิกอ่าน ยิ่งลักษณ์กดดันเบื้องสูง กองทัพไทยยังทนเฉยอยู่ได้

1 ความคิดเห็น:




counter statistics