หลังจากบริษัทโซนี่ พิคเจอร์ ถูกแฮคข้อมูล ทำให้มีหนังที่ยังไม่ได้ฉายถูกเผยแพร่ออนไลน์ออกไป สร้างความเสียหายให้แก่บริษัทโซนี่ ฯ มหาศาล
ทางการสหรัฐอเมริกา กล่าวหาว่า เกาหลีเหนือคือผู้ก่อการแฮคข้อมูลบริษัทโซนี่ พิคเจอร์ คาดว่าเพื่อตอบโต้การที่บริษัทโซนี่ พิคเจอร์สร้างหนังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือ
ด้วยเหตุนี้เลยทำให้หนังเรื่องThe Interview หนังที่ล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือ มีคนอเมริกันแห่ไปชมเพื่อแสดงพลังต่อต้านการก่อการร้ายทางเทคโนโลยีหรือแฮคเกอร์นั่นเอง
หลังจากเกิดกระแสต่อต้านแฮคเกอร์ในสังคมอเมริกัน สังเกตได้ว่า ปัญหาความแตกแยกจากเรื่องสีผิวของสังคมอเมริกันที่ร้อนระอุก็ผ่อนคลายลงไป
อีกทั้ง ประธานาธิบดีโอบามาก็ได้ประกาศศักดาต่อต้านการแฮคเกอร์ไปด้วยในตัว ทำให้คะแนนนิยมต่อประธานาธิบดีโอบามาพุ่งสูงขึ้น!!?
----------------------
เมื่อเกิดเหตุคนร้ายบุกยิงคนในนิตยสารชาลี เอปโด ของฝรั่งเศส จนมีผู้เสียชีวิต 12 คน
ก็เกิดกระแส เราคือชาลี ในสังคมฝรั่งเศส มีการเดินขบวนต่อต้านการก่อการร้าย และการแสดงออกเพื่อปกป้องเสรีภาพในการแสดงความเห็นของสื่อ โดยมีผู้นำทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ มาร่วมเดินขบวนเรียกร้องเสรีภาพในการแสดงความเห็นครั้งนี้ด้วย
กระแสความนิยมในตัวประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ก็พุ่งพรวดขึ้นทันที หลังจากกระแสนิยมในตัวประธานาธิบดีฝรั่งเศสตกต่ำมาหลายเดือน
สาเหตุเพราะเขาแสดงจุดยืนต่อต้านการก่อการร้ายอย่างเข้มแข็ง และการแสดงจุดยืนในการปกป้องสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนของเขานั่นเอง
นิตยสารชาลีเอปโด ฉบับต่อมาหลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายก็ขายดีเทน้ำเทท่า พร้อมทั้งยังตีพิมพ์การ์ตูนล้อพระศาสาดโมฮัมหมัดต่อไป
คนฝรั่งเศสและชาวยุโรปหลายประเทศ แห่กันซื่อนิตยสารชาลีเอปโด เพื่อต้องการแสดงออกในการต่อต้านการก่อการร้ายและแสดงออกเพื่อปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
----------------
ประเด็นที่ผมจะนำเสนอคือ เป็นไปได้ไหมที่รัฐบาลสหรัฐอาจแฮคเกอร์บริษัทโซนี่ พิคเจอร์เสียเอง ??
เพราะจนทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า เกาหลีเหนือแฮคบริษัทโซนี่ พิคเจอร์จริง ๆ และจู่ ๆ ข่าวนี้ก็เริ่มเงียบไปแล้ว
และเป็นไปได้ไหมที่รัฐบาลฝรั่งเศสจะรู้ข่าวล่วงหน้าก่อนแล้วว่า จะเกิดการก่อการร้ายต่อนิตยสารชาลี เอปโดขึ้น แต่แกล้งปล่อยให้เกิดเหตุก่อการร้ายขึ้นเพื่อหวังผลบางอย่าง ??
เพราะ 1 ในคนร้ายที่ก่อเหตุก็อยู่ในบัญชีของผู้ถูกจับตามองเป็นพิเศษของฝ่ายความมั่นคงฝรั่งเศสอยู่แล้ว และนิตยสารชาลีเอปโด ก็ตกอยู่ในสถานะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอยู่แล้วเช่นกัน
ไม่มีอะไรใช่ หรืออะไรแน่นอนหรอกครับ และไม่ต้องเชื่อผม เพราะผมแค่สมมุติเพื่อให้ลองคิดเล่น ๆ
ส่วนโลกมุสลิมหลายประเทศ ก็เกิดกระแสต่อต้านฝรั่งเศส ด้วยสโลแกน เราไม่ใช่ชาลี
ส่วนประธานาธิบดีโอบามา ที่เพิ่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไป ก็ได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากประกาศจุดยืนต่อต้านการก่อการร้าย !!
แล้วก็เกิดความปั่นป่วนและความขัดแย้งของโลกมุสลิม ในช่วงที่น้ำมันราคาตกหนัก ??
---------------
แต่แล้วจู่ ๆ กลุ่มไอเอสก็เกิดจับชาวญี่ปุ่นเป็นตัวประกัน เพื่อเรียกค่าไถ่จำนวน 200 ล้านดอลล่าห์ หากไม่ได้เงินค่าไถ่ตามต้องการภายใน 72 ชม. (หรือเวลา 12.50 ของวันศุกร์ที่ 23) ให้เท่ากับที่ญี่ปุ่นได้มอบเงินบริจาคให้กับกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง
ขณะที่นายชินโซะ อาเบะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจได้ว่าตัวประกันทั้งสองจะปลอดภัย และเขาจะไม่ยอมแพ้ให้กับการก่อการร้าย
ทั้งนี้ ไอเอสได้สังหารตัวประกันชาวตะวันตกไปแล้ว 5 รายนับแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นักรบไอเอสขู่จะฆ่าตัวประกันชาวญี่ปุ่น
--------------------
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นบอกจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวประกันญี่ปุ่นปลอดภัย ??
แต่ก็บอกอีกว่า จะไม่ยอมแพ้แก่การก่อการร้าย ??
ดูกำกวมจริง ๆ คำพูดของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เพราะถ้าทำทุกวิถีทางก็อาจแปลว่า อาจยอมจ่ายเงิน ?? แต่ถ้ายอมจ่ายเงินก็จะเท่ากับยอมแพ้แก่ผู้ก่อการร้าย ??
ช่วงนี้ญี่ปุ่นกำลังจะเพิ่มศักยภาพกองกำลังป้องกันตัวเอง และต้องการจะยกระดับเป็นกองทัพญี่ปุ่นอีกด้วย เพื่อสร้างความพร้อมในการรับมือกับเกาหลีเหนือและจีนแดง โดยญี่ปุ่นจะทุ่มเงินอีกมหาศาลเพื่อปรับปรุงกองกำลังป้องกันตัวเองคราวนี้
แต่จู่ ๆ ดันมีศัตรูที่ไม่ได้คาดหมายเพิ่มขึ้นคือ กลุ่มไอเอส
เป็นไปได้ไหม ที่สหรัฐอเมริกากำลังอยากได้เงินจากญี่ปุ่นเพื่อมาสนับสนุนการต่อต้านการก่อการร้ายและการกำจัดกลุ่มไอเอส (กลุ่มไอเอสที่สหรัฐอเมริกาปั้นขึ้นมากับมือเองเพื่อต่อต้านรัฐบาลซีเรีย)
เพราะบางทีเริ่มแรกเป็นมิตรกัน ต่อมาเป็นศัตรูกัน แต่แม้จะเป็นศัตรูกัน บางครั้งศัตรูก็ร่วมมือกับศัตรูได้เพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่างร่วมกัน
บอกตรง การเมืองโลกนี่มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนจริง ๆ โชคดีที่ไทยเราไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับเขาด้วย
-----------------------
แต่ก่อนที่นักข่าวอิสระสองคนนี้ของญี่ปุ่นจะเดินทางไปทำข่าวในดินแดนแถบนี้
1 ใน 2 คนเคยทำคลิปบอกไว้ว่า เขารู้ตัวว่าได้เดินทางไปทำข่าวในที่มีความเสี่ยงและอันตรายมาก เขาขอรับผิดชอบตัวเขาเองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขาไม่ต้องการให้ประเทศญี่ปุ่นต้องมาเดือดร้อนเพราะเขา
ส่วนรูปด้านล่างเป็นรูปที่คนญี่ปุ่นทำล้อเบี้ยนกลุ่มไอเอส เพื่อประกาศว่า ชาวญี่ปุ่นจะไม่ยอมก้มหัวและทำตามคำเรียกร้องของผู้ก่อการร้าย
http://imgur.com/ldhJKV7
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น