วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

อุทาหรณ์รูปถ่ายสุดท้ายก่อนหญิงไทยตกเหวที่ภูฏาน






ลังจากมีข่าวหญิงไทยวัย 54 ปี ไปพลัดตกเหวที่ภูฐานในขณะขึ้นไปวัดทักซัง วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูฏาน เพราะตั้งอยู่ริมหน้าผาสูงชัน

สื่อไทยก็รายงานว่า หญิงไทยคนนี้ถ่ายรูปตัวเอง ที่เรียกว่า เซลฟี่ แล้วหวังให้ได้มุมสวย ๆ ให้ฉากหลังติดรูปวัดทัsกซังด้วย จนพล้ดตกเหวจนเสียชีวิตนั้น

ต่อมาทางลูกสาวและสามีของผู้หญิงคนนี้ ออกมาแก้ข่าวว่า แม่หรือภรรยาของพวกเขา เธอมักไม่ชอบพกโทรศัพท์มือถือติดตัวเท่าใดนัก และก็ไม่เล่นโซเชีบลเน็ตเวิร์คด้วย จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตกเหวเพราะการชอบถ่ายเซลฟี่ตัวเอง

แต่คาดว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุมากกว่า เพราะทางเดินช่วงนั้นแคบและไม่มีรั้วกันตก แต่จะมีเชือกที่โยงไว้สำหรับผูกธงกั้นไว้แทน

แต่ภายหลังมีการเผยแพร่รูปถ่ายสุดท้ายของเธอ

ทำให้สามีของเธอเลยออกมาแสดงความเห็นอีกครั้งว่า คงเพราะภรรยาคงอยากถ่ายรูปในมุมสวย โดยให้ผู้อื่นถ่ายให้ เลยพลาดตกลงเหวไป

รูปสุดท้ายของเธอถ่ายติดวัดทักซัง ได้อย่างสวยงาม




ส่วนจุดที่เธอตกลงไป จะเห็นว่าเป็นทางเดินที่ค่อนข้างแคบมาก

คลิกที่รูปเพื่อขยาย

รูปจาก @wilasineek

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวชาวไทยอีกราย เจ้าของทวิตเตอร์ @wilasineek ซึ่งเดินทางไปท่องเที่ยวที่ภูฏานในช่วงเวลาเดียวกับที่นางนวรัตน์ประสบอุบัติเหตุ ได้ทวิตภาพจุดเกิดเหตุบริเวณวัดทักซัง โดยในภาพจะเห็นว่าจุดเกิดเหตุเป็นทางเดินแคบ ๆลื่นมาก เพราะมีหมอกลงหนาที่สำคัญบริเวณบริเวณนั้นไม่มีราวกั้นเป็นจุดที่สิ้นสุดราวกั้นพอดี

ตรงบริเวณดังกล่าวจะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวยืนถ่ายรูปเซลฟี่เป็นจำนวนมาก เพราะหากหันหน้าเข้าหน้าผาหันหลังไปทางเหวแล้วถ่ายรูปเซลฟี่จะได้ทิวทัศน์ด้านหลังเป็นวัดทักซังพอดีซึ่งภาพถ่ายจะสวยงามมาก แต่มีอุปสรรคสำคัญและอันตรายมากคือตรงนั้นไม่มีราวกั้น มีเพียงเชือกธงที่ขึงกั้นไว้เท่านั้น

ตำรวจภูฏาน กล่าวว่าเหตุเกิดในเวลาประมาณเที่ยงของวันที่2ม.ค.ซึ่งขณะนั้นกลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังทยอยเดินลงเขาอยู่หลังจากเยี่ยมชมวัดเสร็จแล้วโดยจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณที่ใช้จุดตะเกียงเพื่อทำพิธีทางศาสนาตรงข้ามวัด ซึ่งมีสภาพทางเดินที่แคบมาก อีกทั้งยังมีท่อระบายน้ำและธงระเกะระกะไปหมดด้วย

ตามรายงานระบุว่า ตำรวจประเมินความสูงที่เหยื่อตกลงไปประมาณ 300-400 เมตร ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัด

รายงานหนังสือพิมพ์บางฉบับก็กล่าวว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวอาจจะก้าวพลาดแล้วตกลงไปข้างล่าง เนื่องจากบริเวณนั้นไม่มีราวกั้น ในขณะที่บางฉบับก็ระบุว่า นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวยืนพิงเสาธง เพื่อถ่ายรูปวัด แล้วก็ลื่นหล่นลงไป เนื่องจากว่าเสาธงยึดพื้นไม่มั่นคงพอ

ที่มาเนื้อหาข่าว จากประชาชาติธุรกิจ

-----------------


รูปโดย @Siranphon

ลองสังเกตจากรูปขยาย เราจะเห็นว่า มีเชือกแขวนธงกับเสาที่เธอเกาะพิงเพื่อถ่ายรูป ผมคาดว่า เธอคงพลัดตกหลังจากถ่ายรูปนี้ เพราะจากรายงานข่าวบอกว่า เสาที่เธอพิงนั้นไม่แข็งแรงแล้วเคลื่อนที่จนทำให้เธอพลัดตกลงไป

จากความสูงระยะเหวที่เธอตกลงไปประมาณ 300-400 เมตร ก็พอจะมีเวลาในการตกประมาณสัก 3-4 วินาที ไม่รู้ช่วงเวลานั้นเธอคิดอะไรอยู่

ถ้าช่วงเวลาเสี้ยววินาทีนั้นเธอทันได้คิดถึงพระ คิดถึงกุศลกรรมที่เคยทำ เธอก็น่าจะได้ไปสู่สุคติ

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ให้ข้อคิดว่า การเดินทางในจุดที่อันตรายและมีความเสี่ยงสูง ไม่ควรถ่ายรูป ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่เอง หรือให้คนอื่นถ่ายให้

โดยเฉพาะผู้ที่ค่อนข้างมีอายุมาก เข่าและแข้งขาอาจไม่แข็งแรงมั่นคงพอ ต้องยิ่งระวังให้มาก อีกทั้งบนเทือกเขาในภูฏานอากาศและออกซิเจนค่อนข้างเบาบางมาก เพราะเคยมีนักท่องเที่ยวจีนเกิดหน้ามืดจนตกเหวมาแล้ว

ส่วนกษัตริย์จิกมี่ ทรงให้เกียรติพระราชทานธงคลุมโลงศพของนักท่องเที่ยวไทยรายนี้เพื่อส่งกลับมาไทย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น




counter statistics