วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ต้องยึดทรัพย์ครอบครัวตำรวจในขบวนการส่วยหมื่นล้านด้วย







จากคดีส่วยหมื่นล้านของขบวนการตำรวจเลว ที่มี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ เป็นหัวโจก ที่มีตำรวจ 1 ในขบวนการได้กระโดดตึกหนีความผิดไปแล้ว

เมื่อ 2 วันก่อนผมได้ไปโพสที่คอลัมภ์เปลว สีเงิน ไว้ดังนี้




สมัยเมื่อสัก 15 ปีที่แล้ว ผมขี่จักรยานในซอยบ้าน จะมีบ้าน พล.ต.ต. นายหนึ่ง บ้านใหญ่มาก และมีรถยุโรปหรู ๆ จอดในบ้านประมาณ 5 คัน ส่วนใหญ่เมอร์ซิเดสเบนซ์ ทั้งนั้น

ผมยังนึกว่า ตำรวจนี่รวยดีจัง ?? แต่ผมเชื่อว่า ไม่ได้รวยเพราะเงินเดือนหรอก

แต่ประเทศไทยไม่เคยมีระบบตรวจสอบทุจริตเหมือนที่สิงคโปร์ ที่ว่า ข้าราชการมีเงินเดือนเท่านี้ ทำไมซื้อรถราคาแพง ๆ ได้ ?

สิงคโปร์เขาจะตรวจสอบที่มาของเงินว่า คุณไปรวยจากไหน ถึงได้เงินมาซื้อรถราคาแพงแบบนี้ได้อย่างไร ?

รายได้ที่คุณได้มา มีการเสียภาษีประจำปีถูกต้องหรือไม่ ?

แต่ประเทศไทยไม่มีระบบตรวจสอบในเรื่องนี้ แค่อ้างว่า เมียขายที่ดินมรดกได้ ก็จบแล้ว ไม่มีใครตามตรวจสอบว่า ขายได้จริงหรือมั่วนิ่ม ?

ซึ่งถ้าเมียขายที่ดินได้จริง ก็ต้องตรวจสอบต่อไปให้ลึกกว่านั้นอีกว่า ที่ดินของเมียที่ขายได้นั้นได้มาจากไหน เป็นที่ดินมรดกจริงหรือ ?

หรือว่า เป็นการได้รับมาจากคนจ่ายส่วยอีกทอด ซึ่งพวกนายตำรวจที่กินส่วย มันก็ฉลาดนะ มันให้คนจ่ายส่วยเป็นที่ดิน ให้โอนที่ดินไปที่พ่อตาแม่ยายของนายตำรวจก่อน แล้วอีกสัก 2 ปี ค่อยโอนกลับมาให้เมียตำรวจ หรือไม่ก็ขายที่ในชื่อพ่อตาแม่ยาย ญาติพี่น้องไปเลยก็มี แล้วค่อยเอาทรัพย์ที่ผ่านการฟอกแล้วมาคืนอีกที

วิธีการฟอกเงินในไทยทำง่ายมาก ๆ โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยนี่แหละ คือแหล่งฟอกเงินที่ปลอดภัยที่สุด เพราะไม่มีการตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินที่ซื้อหุ้น และไม่ต้องเสียภาษีจากการซื้อขายหุ้น.ในตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย จึงปลอดภัยสุด ๆ ทำให้พวกนักฟอกเงินในคราบนักการเมือง หรือพวกโจรที่ต้องการฟอกเงิน จึงพยายามคัดค้านการเก็บภาษีจากการขายหุ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบนี่แหละ

------------------

จากคดีส่วยหมื่นล้านคดีนี้ ผมไม่รู้ว่า ทาง คสช . และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปจนถึง ปปง. จะมีการสาวลึกไปจนถึงทรัพย์สมบัติลูกเมีย พ่อแม่ พี่น้องของผู้ต้องหาหรือไม่ ?

ทั้ง ๆ ที่ความจริง ควรยึดทรัพย์ลูกเมียของผู้ต้องหาคดีนี้ให้หมด ไม่งั้น ทรัพย์ที่พวกผู้ต้องหาโอนไปให้ลูกให้เมียก็ยังมีกินมีใช้อย่างสบาย

รวมทั้งการสอบบัญชีทรัพย์สินไปถึงพ่อแม่ พ่อตาแม่ยาย พี่น้องของผู้ต้องหาทุกคนให้หมดด้วย เพราะพวกนี้คงโอนทรัพย์เพื่อการฟอกเงินไปให้ญาติพี่น้องไม่น้อยเช่นกัน

ถ้าคดีนี้ไม่ยึดทรัพย์ครอบครัวแล้วล่ะก็ ลูกเมียคนชั่วก็ยังสบายร่ำรวยเหมือนเดิม

การยึดทรัพย์ครอบครัวจนสิ้นไร้ไม้ตอกนี่แหละ เจ็บและทรมานยิ่งกว่าผู้ต้องหาถูกประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิตเสียอีก

โดยเฉพาะ พล.ต.อ.สมยศ ผบ.ตร.  เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับ พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ผมเกรงเหลือเกินว่า อาจเมตตาเพื่อนร่วมรุ่น จนปล่อยทรัพย์ลูกเมียของผู้ต้องหาให้ลอยนวลน่ะสิ

--------------------------------

คุณผู้อ่าน จำคดีเมื่อเดือนกันยายน ที่ทหารบุกจับบ้านพักตากอากาศของนายตำรวจระดับนายพลหลายนายที่ปากช่องได้รึเปล่า ?

ไม่รู้ว่า ใช่ขบวนการเดียวกันหรือไม่ เพราะจนวันนี้ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อนายตำรวจเจ้าของบ้านพักตากอากาศเลย




ถ้ายังถอดยศ นักโทษชายทักษิณไม่ได้ ไม่ควรรีบโม้นะสมยศ !!


คลิกอ่าน ปฏิรูปตำรวจ คือสิ่งที่ตำรวจชั่วกลัว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น




counter statistics