วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ความโง่อั้มเนโกะ ในความเท่าเทียมเรื่องบวชภิกษุณี







คือทีแรก ผมว่าจะเขียนเรื่อง การประท้วงรัฐประหารแบบโง่ ๆ ของ อีอั้ม เนโกะ แต่เผอิญมาเห็นรูปนี้เสียก่อน เลยต้องขอเขียนบทความเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาก่อนครับ

จากที่อั้ม เนโกะ หรือนายศรัณย์ ฉุยเฉาย แสดงความเห็นว่า พุทธศาสนาดูถูกกดขี่ผู้หญิง แล้วมันก็ถ่ายรูปกอดพระพุทธรูป

นังอั้ม เนโกะ นี่มันคือมารศาสนาจริง ๆ แถมยังแสดงความเห็นด้วยความโง่อวดฉลาดเสียด้วย

เพราะนังอั้ม เนโกะ มันโพสว่า "ผู้หญิงกับศาสนาพุทธคงทราบนะคะว่า ผู้หญิงถูกจัดบทบาทไว้อย่างไร เช่น เป็นมารผจญ ผู้หญิงเป็นสิ่งสกปรกเข้าในที่ๆ มีหินที่มโนกระดูกพระพุทธเจ้าไม่ได้ในบางที่ นอกจากนั้นแล้ว lgbt โดยเฉพาะคนที่เป็นกะเทยจะโดนมองว่า เกิดมาเป็นบาป บวชให้พ่อแม่ไม่ได้ สารพัดที่กดทับเพศหญิงและผู้มีความหลากหลายทางเพศค่ะ เป็นศาสนาที่ patriarchy ดังนั้น ภาพนี้จึงสะท้อนนัยยะของความเป็นสมัยใหม่ผ่านวัฒนธรรม selfie และสะท้อนความแนบแน่นของการที่มีคนที่มีความหลากหลายทางเพศอยู่ผ่านสีและท่าทาง ดังนั้นจะแก้ปัญหาการกดทับในสังคมไทยได้ก็ต้องแก้วิธีคิดทางศาสนาด้วยค่ะ จงแยกศาสนาออกจากรัฐ"
              
Aum Neko ยังโพสต์ต่ออีกว่า  "แล้วแต่ค่ะใครใคร่มีก็มีไป แต่รัฐต้องไม่สนับสนุนศาสนาใดศาสนาหนึ่ง และโดยส่วนตัวไม่มีศาสนาค่ะเพราะไม่เห็นความจำเป็นว่าศาสนาจะช่วยให้มนุษย์มีสันติเท่าเทียมกัน เลยขอยึดหลักมนุษยธรรมตามหลักการของสิทธิมนุษบชนดีกว่าค่ะ"

จากที่อั้ม เนโกะ มันโพส ถ้าคนที่ไม่ศึกษาพุทธศาสนาให้มาก ก็จะหลงเชื่อตรรกะโง่ ๆ ของนังอั้ม เนโกะ ได้โดยง่าย

เพราะความจริงแล้ว ศาสนาพุทธไม่ได้ห้ามผู้หญิงบวช ผู้หญิงสามารถบวชเป็นภิกษุณีได้ ในช่วงพุทธกาลไม่เคยมีศาสนาใด ๆ ด้วยซ้ำที่อนุญาตให้ผู้หญิงเป็นนักบวช แต่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแรกที่อนุญาตให้ผู้หญิงบวชเป็นพระได้

และที่ประเทศไทยไม่มีภิกษุณีมาแต่เก่าก่อน ก็เพราะประเทศไทยรับนิกายเถรวาทจากลังกา(ศรีลังกา) โดยมีพระภิกษุเดินทางเข้าเผยแพร่ในดินแดนสุวรรณภูมิ นิกายเถรวาทในไทยจึงถูกเรียกว่า "ลังกาวงศ์" ไทยเราไม่ได้รับนิกายเถรวาทของฝ่ายภิกษุณีมาตั้งแต่แรก จึงไม่มีใครบวชพระให้ผู้หญิงได้ เพราะภิกษุณีต้องได้รับการบวชจากพระอุปัชฌาย์ที่เป็นภิกษุณีเช่นเดียวกันเท่านั้น

เมื่อเริ่มต้นเถรวาทในไทยมีแต่พระภิกษุเท่านั้น ก็เลยมีผลให้ไม่มีการบวชพระภิกษุณีมาจนปัจจุบัน ส่วนที่เห็นภิกษุณีในไทยในยุคนี้ ก็เพราะภิกษุณีเหล่านั้นได้ไปบวชพระในนิกายมหายานที่ไต้หวัน

อีกทั้ง การครองสมณเพศของผู้หญิงนั้นยากมาก ซึ่งผู้หญิงมีกฎระเบียบหรือศีลที่ต้องถือมากถึง 331 ข้อ ซึ่งมากกว่าภิกษุที่มีศีลแค่ 227 ข้อเท่านั้น

ซึ่งการไม่ได้บวชเป็นพระ ไม่ได้กีดขวางการสำเร็จมรรคผล แต่อย่างใด คนเราไม่ได้เป็นพระก็บรรลุธรรมได้เช่นกัน

ส่วนเรื่องความเท่าเทียมกันนั้น พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า คนเรานั้นเท่าเทียมกัน ศาสนาพุทธไม่มีชนชั้นวรรณะ เพราะความสูงต่ำของมนุษย์ขึ้นอยู่กับผลของการกระทำหรือ ผลของกรรม เป็นตัวกำหนดที่เรียกว่า  กฎแห่งกรรม

ที่คนเราเกิดมาแตกต่างกัน ก็เพราะมีกรรมเป็นสิ่งกำหนด

แต่มนุษย์ไม่ว่าจะชายหรือหญิง จะจนหรือรวย จะพิการหรือสมบูรณ์ ก็มีสิทธิสำเร็จมรรคผลและนิพพานได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับกรรมที่แต่ละคนได้สั่งสมมา

--------------

ห้ามกระเทยบวชพระ  ?

ประเด็นกระเทย ที่อีอั้มยกขึ้นมาอ้างเพื่อบอกว่า ศาสนาพุทธ ห้ามคนเป็นกระเทยบวชพระนั้น

ประเด็นนี้ผมขอตอบแบบใช้ตรรกะแล้วกัน โดยใช้หลักธรรมชาติมาตอบเช่น

กฎธรรมชาติกำหนดว่า กระเทยไม่สามารถตั้งท้องได้ แบบนี้ถามว่า ธรรมชาติกดขี่ทางเพศหรือไม่ ??

อีอั้ม มึงคงอยากเป็นผู้หญิง แต่เสียดายที่มึงเป็นผู้หญิงแท้ ๆ ไม่ได้ ไม่ว่ามึงจะพยายามสักแค่ไหนก็ตาม

การที่คนเราต้องเกิดมาเป็นกระเทย ในทางพุทธ เราถือว่า มีกรรมพิเศษเฉพาะตนอย่างหนึ่ง

การเกิดเป็นกระเทย นั้นน่าสงสาร จึงยิ่งควรทำจิตใจให้ดี เป็นคนดี ผลบุญจะได้นำพาให้ชาติต่อ ๆ ไป จะได้เกิดเป็นมนุษย์ที่มีเพศถูกต้องสมบูรณ์

แต่อีอั้มเกิดมาเป็นกระเทยหน้าตาอุบาทว์ จิตใจยังอุบาทว์อีก สงสัยชาติหน้าคงไม่ได้เกิดเป็นกระเทยหรอก แต่น่าจะเกิดไปเป็นไส้เดือนกิ้งกือมากกว่านะ 555

---------------

ส่วนเรื่องห้ามผู้หญิงเข้าไปในศาสนสถานบางแห่งนั้น

สาเหตุก็เพราะศาสนาสถานเหล่านั้นบรรจุกระดูกหรืออัฐิ หรือพระธาตุของพระอรหันต์เพศชาย หรือบรรจุพระบรมสารีกธาตุของพระพุทธเจ้า จึงไม่เหมาะให้สตรีเข้าไป

เฉกเช่นเดียวกัน หากศาสนสถานแห่งนั้นเป็นที่บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์เพศหญิง ผู้ชายก็ไม่ควรเข้าไปในศานาสถานนั้นเช่นกัน (เฉพาะบางสถานที่เท่านั้น) 

นี่แหละความเท่าเทียมกัน !!

เพราะผู้ชายก็เป็นมารของการครองสมณเพศของภิกษุณี

ส่วนผู้หญิงก็เป็นมารของการครองสมณเพศของภิกษุ เช่นกัน

แต่เพราะประเทศไทยมีแต่ภิกษุ จึงดูเสมือนว่ากีดกันเฉพาะเพศหญิง ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ !!

ฉะนั้น ใครที่บอกว่า ศาสนาพุทธกดขี่เพศหญิง นั่นเพราะมันโง่บัดซบเหมือน อีอั้ม เนโกะ

การใช้ความโง่ลบหลู่พระพุทธศาสนาของ อีอั้ม เนโกะ ผมว่า บาปกรรมนี้อาจทำให้ชาติหน้า อีอั้ม เนโกะ มันอาจได้เกิดเป็นไส้เดือน แหง ๆ 55555

-------------

และหลาย ๆ เรื่องที่ดูเหมือนว่ามีความไม่เท่าเทียมกันของเพศชายและหญิง นั่นเพราะโลกนี้ผู้ชายครองโลกมาตั้งแต่อดีตแล้วต่างหาก จึงไม่เกี่ยวกับศาสนาพุทธที่กดขี่ทางเพศแต่ประการใด

ทุกชีวิต หรือทุกจิตวิญญาณ มีสิทธิเกิดเป็นชายหรือหญิง ก็ได้ แต่ถ้าทำบาปมากในบางเรื่องก็อาจเกิดมาผิดเพศ

แต่ไม่ว่าจะเพศใด ๆ ก็สามารถศึกษาธรรมและเป็นคนดีได้ทั้งสิ้น นี่คือความเท่าเทียมกันในพระพุทธศาสนา

ส่วนอีอั้ม เนโกะ มันเป็นกระเทยจิตเสื่อม ชอบแสดงความโง่ แต่นึกว่าตนเองฉลาด จึงมีแต่พวกโง่และเสื่อมด้วยกันเท่านั้นที่หลงเชื่อมัน

พวกล้มเจ้าจะมีเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ ไม่นับถือพระพุทธศาสนา หรือถึงขั้นไร้ศาสนา เพราะพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งประเสริฐ พวกมารพวกผีในร่างคนจึงไม่ชอบ

อีกทั้งพระพุทธศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย เป็นสิ่งที่เกื้อกูลกัน พวกล้มเจ้าจึงต้องปฏิเสธพระพุทธศาสนาไปด้วยนั่นเอง

นายศรัณย์ ฉุยฉาย ทำซ่าปากดีกับศาสนาพุทธเท่านั้น ลองไปปากดีดูถูกศาสนาอื่น ๆ เกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันทางเพศดูสิ ไม่กล้าใช่ไหมล่ะ

นี่หรือความเท่าเทียมกันของมึง !

คลิกอ่าน เสียดายเนติวิทย์ ไม่หล่อเท่า ณเดชน์


4 ความคิดเห็น:

  1. ถ้า อั้ม เนโกะ ไม่นับถือศาสนาใดเลย ก็น่าจะ selfie กับศาสดาของทุกศาสนา จะได้เกิดความเท่าเทียมกันอย่างที่คุณเรียกร้อง หรือคุณอั้มไม่กล้าทำกับศาสนาอื่นๆ ทำไมจึงเลือกปฏิบัติแต่กับศาสนาพุธหละ การทำอย่างนี้ต่างหากที่เป็นการกดขี่ข่มเหงในสิ่งที่ตนไม่ชอบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่เลยครับ คุณทำให้ผมคิดถึงประเด็นนี้ได ถ้าอั้ม เนโกะไปดูถูกหรือลบหลู่ในบางศาสนารับรองคนในศาสนาบางศาสนานั้น เขาอาจประกาศตามฆ่าแน่นอน

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ1 กรกฎาคม 2557 เวลา 03:41

    ไอ้ศรัณย์ ฉุยฉาย มึงเกิดมามีกรรม บวชพระก็ไม่ได้เป็นภิกษฺณืหรือแม่ชีก็ยิ่งประหลาดสำหรับคนมีกรรมอย่างมึง ถามหน่อยวันนี้มึงล้างควยของมึงแล้วหรือยัง ควยที่มึงรังเกียจตั้งแต่อ้อนแต่ออก ดันห่าหยิบเอาควยออกมามึงถึงได้อุบาทย์สิ้นคิดในทุกๆเรื่อง มึงลบหลู่ศาสนามึงเกรงใจคนที่เค้านับถือศาสนานี้บ้างไม๊ ไอ้หัวควยมีกรรม

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ17 ตุลาคม 2559 เวลา 10:03

    ก็ถามมันหน่อยเถอะที่ยึดมั่นในเรื่องสิทธิของมนุษยชนหนักหนา แต่กลับไม่ยอมรับในสิ่งที่คนอื่นคิดต่าง ไม่ยอมรับในสิ่งที่คนอื่นยึดถือนับถือ มันก็ขัดแย้งในตัวมันเองเห็นๆอยุ่แล้ว ง่ายๆ แค่นี้..ยังแยกไม่ออกเห้อ ไร้สาระ

    ตอบลบ




counter statistics