ก็เพราะ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมนี้ คสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำประมง จะทำการจับเรือประมงที่ผิดกฎหมายทั้งหลาย แถมมีค่าปรับสำหรับเรือที่ผิดกฎหมายมากถึง 1 ล้านบาทต่อลำ
เหตุผลก็คือนับเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 40 ปีมาแล้ว ที่รัฐบาลที่ผ่าน ๆ มา ปล่อยปละละเลยเอาจริงเอาจัง ไม่กวดขันจับเรือประมงที่ผิดกฎหมาย จนทำให้ทางอียู และสหรัฐอเมริกา เขาอาจจะแอนตี้สินค้าประมงของไทย หากรัฐบาลไทยไม่เร่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้
ที่ว่าเรือประมงไทยผิดกฎหมายนั้น หมายถึง
1. ปัญหาการค้ามนุษย์หลอกคนไปทำงานบนเรือประมง ซึ่งตั้งแต่ 1 ก.ค. 58 ลูกเรือประมงทุกคน จะต้องมีใบประกอบอาชีพประมงมายืนยัน เพื่อป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์
2. ใช้อวนลากในการจับปลา ซึ่งผิดกฎหมายการทำประมงสากล ซึ่งเรือประมงไทยที่ไม่ใช่เรือประมงพื้นบ้าน เรือประมงเดินสมุทรของไทย 90 % ล้วนใช้อวนลาก อวนรุน และเครื่องมือประมงแบบล้างผลาญทั้งสิ้น ซึ่งมันทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลอย่างมาก
3. เรือประมงไม่มีใบอาชญาบัตร หรือมีอาชญาบัตรแต่ไม่ถูกต้อง คือ ใบอาชญาบัตรเครื่องมือประมงไม่ตรงกับเครื่องมือที่เรือประมงใช้ทำประมงจริง เพราะเรือประมงส่วนใหญ่ใช้อวนลาก ซึ่งผิดกฎหมาย
4. เรือประมงไม่ขึ้นทะเบียนเรือให้ถูกต้อง เปรียบเสมือนรถยนต์ที่ไม่มีทะเบียนนั่นแหละ
ทีนี้ทางรัฐบาล คสช. ก็ประกาศให้เวลา 2 เดือน คือ เดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน ให้เรือประมงผิดกฎหมายทุกลำไปแก้ไขให้ถูกกฎหมายเสีย เพราะตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 58 เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่จะทำการจับกวาดล้างเรือประมงผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด
แต่ผู้ประกอบการเรือประมงส่วนใหญ่บอกว่า ให้เวลาแก้ไขแค่ 2 เดือนคงเปลี่ยนแปลงเรือทั้งหมดทั่วประเทศคงไม่ทัน จึงเรียกร้องขอให้รัฐบาล คสช.ขยายเวลาแก้ไขเรือเพิ่มอีก 60 วัน ได้ไหม เพราะถ้าไม่ขยายเวลาออกไปอีก เชื่อว่า เรือประมงส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะต้องหยุดเดินเรือ
ซึ่งจะเป็นผลกระทบต่อการขาดแคลนอาหารทะเล และกระทบถึงแรงงานจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมประมงไปทั้งหมด
แต่รัฐบาล คสช. ไม่ยอมรับข้อเสนอขอต่อเวลา 60 วัน เพราะผ่อนผันมานานแล้ว
ที่สำคัญช่วงประกาศให้เรือประมงมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง และทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ไม่มีเรือประมงสนใจมาทำให้ถูกต้องเท่าที่ควร ส่วนใหญ่ต่างลอยชายไม่สนใจเปลี่ยนแปลง
ดังนั้น ตั้งแต่ 1 ก.ค. 58 นี้ เรือประมงจำนวนมากจำเป็นต้องหยุดทำประมง ซึ่งอาจจะกระทบให้อาหารทะเลช่วงนี้ขาดแคลนหรือราคาแพงขึ้นอย่างแน่นอน
ฉะนั้น ผมเลยมาบอกคุณผู้อ่านไว้ก่อนว่า ถ้าช่วงนี้อาหารทะเลแพง หรือ ขาดแคลน ก็มาจากปัญหาเรือประมงหยุดทำประมงนี่แหละครับ
ไม่ใช่เรือประมงหยุดเพื่อประท้วงนะครับ แต่เขาจำใจต้องหยุด เพราะถ้าไม่หยุด แล้วเกิดโดนจับ อาจเจอปรับมากถึง 1 ล้านบาทต่อลำ (ที่จริงก็คือประท้วงกดดันแฝงกลาย ๆ)
ที่จริงผมว่า ก็ดีไปอย่างนะ เพราะถือเสียว่า ทะเลไทยจะได้พักผ่อนจากการถูกอุตสาหกรรมประมงย่ำยีมานานหลายสิบปี
ถ้าเป็นไปได้ พวกเราก็หยุดกินอาหารทะเลสักระยะ ก็น่าจะดี เพื่อท้องทะเลไทยของเราดีขึ้น
---------------------------
30 มิถุนายน 58 นายกฯ ประยุทธ์ ยืนยันไม่ผ่อนผัน เอาผิดเรือประมงผิดกฎหมายตามกำหนด
นายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งคนนี้ ขอยึดหลักความถูกต้องของกฎหมายมากกว่าถูกใจ หรือเอาใจชาวประมง
เพราะเข้ามาทำเพื่อชาติ ไม่ได้ทำเพื่อหวังคะแนนเสียง
แม้พวกผู้ประกอบการประมง อ้าง การหยุดเดินเรือจะกระทบแรงงานนับหมื่นคนจะตกงาน (ส่วนใหญ่คือแรงงานต่างด้าว) อ้างกระทบราคาอาหารทะเลจะแพงขึ้น
นี่คือการนำคนจนและประชาชนมาเป็นตัวประกันของผู้ประกอบการเรือประมง เพื่อหวังให้รัฐบาล คสช. ผ่อนผันให้ทำผิดกฎหมายต่อไปได้อีก ทั้ง ๆ ที่ผิดกฎหมายกันมาไม่ต่ำกว่า 40 ปีมาแล้ว
หมดเวลาผ่อนผัน ยึดหลักกฎหมายไม่เลือกปฏิบัติ นี่คือ เจตนาของนายกฯ ประยุทธ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น