วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เมื่อเยาวชนไทยถามโอบามา ได้ไม่ฉลาดเลย







จากที่มี “คลิปข่าว” เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2558 ที่สร้างความฮือฮาบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก

หลังมีการเผยแพร่คลิปภาพบรรยากาศที่นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เปิดโอกาสให้ตัวแทนเยาวชนจากประเทศต่างๆ เข้าพบพร้อมพูดคุยซักถามอย่างเป็นกันเอง

เมื่อตัวแทนเยาวชนประเทศไทย น.ส.เพ็ญศิริ บางศิริ ได้โอกาสลุกขึ้นถามโอบามาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ ว่า

“สวัสดีค่ะ ท่านประธานาธิบดี ดิฉันนางสาวเพ็ญศิริ บางศิริ จากประเทศไทย ฉันทำงานด้านการค้ามนษย์ในประเทศไทย ฉันจึงอยากจะถามว่า ถ้าคุณเป็นโรฮิงญา คุณอยากไปอยู่ประเทศไหน แล้วเพราะอะไร ?”

ประธานาธิบดี โอบามา หยุดคิดอยู่สักพัก แล้วตอบว่า  “ผมจะตอบคำถามอย่างกว้าง ๆ แล้วกัน สิ่งที่เราต้องพูดถึงคือ มีอะไรบ้างที่เมียนมาร์ต้องทำให้สำเร็จ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องการกีดกันทางเชื้อชาติ และชาวโรฮิงญาก็ถูกกีดกันอย่างชัดเจน  
ถ้าผมเป็นชาวโรฮิงญา ผมก็อยากจะอาศัยอยู่บนแผ่นดินที่ผมเกิด ผมอยากจะอยู่ในที่ ๆ พ่อแม่ของผมอยู่ และผมก็อยากมั่นใจว่า รัฐบาลจะให้ความคุ้มครองผม และคนอื่นจะปฏิบัติต่อผมอย่างเป็นธรรม มันจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องใช้ประชาธิปไตยเข้ามาแก้ปัญหาโรฮิงญาอย่างจริงจัง 

คุณจะไม่มีทางเข้าใจการถูกแบ่งแยกหรือกีดกัน จนกว่าคุณจะได้เจอกับตัวเองว่า คุณเป็นคนส่วนน้อยในสังคม ผมเคยเจอกับตัวเองมาแล้วเมื่อผมยังเป็นเด็ก ตอนที่ผมอยู่อินโดนีเซีย มีการต่อต้านคนจีนอย่างรุนแรง เราควรศึกษาว่า ทำไมสิงคโปร์ถึงทำสำเร็จ ในการรวมคนที่แตกต่างกันให้อยู่ร่วมกันได้ โดยทุกคนรู้สึกเหมือนกันว่า ตัวเองเป็นพลเมืองของสิงคโปร์ 

แต่ผมมั่นใจอยู่อย่างหนึ่งว่า ประเทศที่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา จะไม่มีวันทำสำเร็จ ประเทศที่กีดกันผู้หญิงจะไม่มีวันทำสำเร็จ เพราะผู้หญิงต้องสอนเด็ก ๆ แล้วเด็ก ๆ จะมีการศึกษาที่ดีได้อย่างไร ถ้าคุณไม่สอนแม่ของพวกเขา”




----------------

จริง ๆ จะว่าไป น.ส.เพ็ญศิริ ก็ไม่ใช่เด็กแล้ว ซึ่งน่าจะถามอะไรที่คม ๆ และเฉียบขาดกว่านี้ เพราะสิ่งที่เธอถามโอบามา มันคือ การชงให้โอบามาฟาดแท้ ๆ

แถมเป็นการชงโดยคนไทย เพื่อให้โอบามาได้โอกาสตำหนิพม่า !!!

ทำไมไม่เป็นเด็กมาเลเซียถาม เพื่อให้โอบามาตำหนิพม่า ?
ทั้ง ๆ ที่ผู้นำมาเลเซียเคยตำหนิพม่าในเรื่องนี้โดยตรง ?

ส่วนข้อมูลของ น.ส.เพ็ญศิริ บางศิริ” คือเธอเป็น “สมาชิก YSEALI” ชาวไทยทั้ง 7 คนที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ YSEALI Professional Fellows Program ที่สหรัฐอเมริกา ระหว่าง พ.ค.ถึง ก.ค.ศกนี้ (2558) สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี

โครงการ YSEALI เป็นโครงการของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจัดขึ้น

----------------

รั้งแรกที่ผมเห็นข่าวนี้ ผมกลับเฉย ๆ ไม่เห็นดีใจเหมือนที่สื่อไทยพยายามนำเสนอ ต่อมา ผมออกจะไม่ชอบข่าวนี้ด้วยซ้ำ ที่เธอตั้งคำถามเหมือนเข้าทางโอบามาไปหน่อย

เพราะเธอน่าจะถามโอบามาแบบนี้มากกว่า

"ถ้าคุณเป็นโรฮิงญาที่กำลังลอยเรือกลางทะเล คุณอยากไปขึ้นฝั่งที่ประเทศไหนมากที่สุด"

ต้องถามแบบนี้สิ โอบามาจะได้ตอบยากขึ้น

แม้ด้วยความฉลาดของโอบามา เขาก็คงสามารถดึงกลับไปตอบในแบบที่ตัวเองอยากจะตอบได้ก็ตาม แต่มันจะไม่ดูหล่อ ดูเท่เท่าเดิม เพราะจะกลายเป็นการเลี่ยงตอบคำถามตรง ๆ

แล้วการที่เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐอเมริกาเผยแพร่คลิปนี้ในเว็บ จนสื่อไทยเอามาเผยแพร่ต่อ แล้วสื่อไทยก็ร่วมอวยกันยกใหญ่ว่า เด็กไทยเก่ง เด็กไทยฉลาดถาม

ผมว่า เว่อร์ครับ เธอไม่ได้ฉลาดเลยที่ถามแบบนี้ เพราะข่าวรายงานว่า โอบามาได้ถือโอกาสขอบคุณ ประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเซีย (ประเทศที่โอบามาเคยใช้ชีวิตในวัยเด็ก)

โดยที่โอบามา ไม่เอ่ยถึงประเทศไทยเลย นี่เท่ากับแอบฉีกหน้าประเทศไทยผ่านตัวแทนสาวไทยกลาย ๆ

(ก็ประเทศไทยไม่ยอมรับโรฮิงญา 7 พันคนขึ้นฝั่งเองนี่ ช่วยไม่ได้)

ผมจึงว่าสื่อไทยส่วนใหญ่ก็โง่ เพราะคำถามที่เด็กคนนี้ถาม ไม่ได้ช่วยให้ประเทศไทยดีขึ้นเลย แต่ที่สื่อไทยดันเห่อ ซึ่งกลับกลายเป็นการไปช่วยสร้างภาพให้โอบามา และสหรัฐอเมริกาดีขึ้นต่างหาก

ทั้ง ๆ ที่ ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริการับชาวโรฮิงญาไปอยู่ในประเทศตัวเองแค่ 1 พันคนเท่านั้น ในขณะที่ประเทศไทยมีชาวโรฮิงญาอยู่ประมาณ 1 แสนคน (ตามข้อมูลของสำนักข่าวอิศรา)

ส่วนคู่ซี๊สหรัฐ คือ อังกฤษ ประเทศต้นตอของปัญหาโรฮิญาตัวจริงกลับไม่สนใจปัญหานี้เลย แถม ออสเตรเลียประเทศลูกหม้ออังกฤษ ก็เพิ่งจะผลักดันเรือบรรทุกชาวโรฮิงญาออกจากน่านน้ำตัวเอง จนต้องหันเรือกลับไปอินโดนีเซียแทน

ทั้ง ๆ ที่ชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่บอก อยากไปออสเตรเลียมากที่สุด มากกว่าประเทศมุสลิมด้วยซ้ำ

-----------------

แล้วการที่เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เขาเห็นว่า โอบามาตอบได้ดี เขาจึงได้นำมาลงเว็บ

เขาไม่ใช่เอาลงเพราะเด็กไทยถามดี หรอกครับ

ที่ผมเคยได้ยินมา ตามปกติเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ เขาจะสกรีนคำถามของผู้ที่จะตั้งคำถาม ๆ กับประธานาธิบดีก่อน (กรณีไม่ใช่นักข่าว) โดยจะให้คนที่จะถามเขียนหัวข้อคำถามแบบคร่าว ๆ ให้เจ้าหน้าที่ได้สกรีนในชั้นแรกก่อน ว่าคำถามอะไรห้ามถาม หรือคำถามอะไรพอจะถามได้

แต่กรณีที่เด็กไทยถาม ก็คงไม่ต้องถึงกับต้องสกรีนคำถาม เพราะเยาวชนกลุ่มนี้คงได้รับการอบรมมาก่อนพอควร เพียงแต่ว่า หากจะแปลงคำถามสักนิดจะทำให้คำถามของเด็กไทยเฉียบคมมากกว่านี้ โดยไม่น่าเกลียดด้วย

ส่วนโอบามา ก็เหมือนอึ้งไปสักนิด แล้วถือโอกาสตอบแบบสไตล์นักการเมือง คือ พูดดีจนผู้ฟังเคลิ้มไป ประเภทหลักการดีแต่เรื่องของชาวบ้าน ส่วนเรื่องของบ้านตัวเอง บ่มิไก๊ 555

ขำ ๆ ท้ายบทความ





หากคิดในแง่ร้าย บางทีนี่อาจแค่ละครฉากหนึ่งที่มีการเตรียมการไว้แล้วทั้งผู้ถามและผู้ตอบ

ก็เด็กไทยคนนี้เธอไปด้วยทุนของสหรัฐอเมริกานี่

เพราะมายาในวงการเมืองของผู้นำสหรัฐ คุณน่าจะรู้ว่า เขาคือที่ 1 ในโลก

คลิกอ่าน ชีวิตไม่ธรรมดาของยิ่งลักษณ์เห็ดสด


1 ความคิดเห็น:

  1. เห็นด้วยกับคุณ เมืองเอกเป็นอย่างยิ่งเลยครับ โดยเฉพาะในประโยคที่ว่าปัจจุบันสื่อมวลชนไทยส่วนใหญ่มันโง่ คอยนำเสนอแต่เรื่องโง่ๆ จนปัจจุบันนี้ผมแทบจะไม่สามารถดูทีวีอยู่แล้ว เพราะดูได้ไม่กี่นาทีรู้สึกรำคาญ และปวดหัวเป็นอย่างมาก พอๆกับการดูละครไทยเลย

    ตอบลบ




counter statistics