วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ผมนี่โคตรฮิปสเตอร์ หรือไม่ก็โคตรไม่ฮิปสเตอร์กันแน่วะ






บทความนี้เขียนเอาสนุก ๆ นะครับ เรียกว่าเกาะกระแสกะเขาหน่อย

เคยได้ยินมานานแล้วกับคำว่า Hipster แต่ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอก แต่จะลองเขียนดูเล่น ๆ

เขาว่า ฮิปสเตอร์ ต้องชอบขี่จักรยาน แถมต้องจักรยานสไตล์เท่ ๆ ด้วย ซึ่งราคาก็คงแพงด้วยใช่มะ

แต่ผมขี่จักรยานราคาคันละ 1,990 บาททรง BMX แต่มีตะกร้าข้างหน้า เอาไว้ซื้อของกินของใช้แถวบ้าน อย่างคันล่าสุดที่ใช้ก็ใช้มา 5 ปีมาแล้วล่ะ เปลี่ยนยางในและยางนอกแล้วทั้งล้อหน้า ล้อหลัง เพราะขี่มาเป็นร้อยกิโลเมตรแล้ว เพราะบางครั้งผมขี่ไกลร่วม 10 กิโลเมตรต่อวัน

โดยผมไม่เคยรู้สึกเลยว่า ที่ผมขี่จักรยานกระจอก ๆ ราคาถูก ๆ แล้วจะไม่เท่

แต่ผมกลับรู้สึกว่า ผมนี่โคตรเท่เลยที่สามารถขี่จักรยานราคาถูกได้อย่างภาคภูมิใจโดยไม่อายใคร และรู้สึกคุ้มค่ามากที่ขี่จักรยานคันนี้มาหลายปีก็ยังไม่พัง


เขาว่า ฮิปสเตอร์ ต้องดูหนังแนวนอกกระแส แบบหนังแนวอาร์ตทิสต้องตีความแบบเท่ ๆ เช่นหนังที่ฉายในโรง House RCA อะไรทำนองนี้รึเปล่า ?

แต่ผมน่ะเหรอ เลิกดูหนังในโรงภาพยนตร์มานานร่วม 15 ปีแล้ว เพราะผมชอบดูบิ๊กซีนีม่าทางช่อง 7 มากที่สุด เพราะชอบเสียงพากย์ของนางเอกมาก ๆ ชอบดูหนังที่มีโฆษณาคั่นมาก ๆ ด้วย แถมนอนดูก็ได้

สำคัญที่สุดคือ ไม่ต้องไปหาที่จอดรถ ไม่ต้องเสียเงินซื้อตั๋ว

แค่ดูหนังทางบิ๊กซีนีม่าของช่อง 7 ผมก็สุขใจแล้ว ไม่รู้สึกตื่นกระแสว่า หนังใหม่ต้องรีบไปดู สำหรับผม หนังมาฉายช่อง 7 เมื่อไหร่ก็ดูเมื่อนั้นนั่นแหละ


เขาว่า ฮิปสเตอร์ต้องไปนั่งดื่มกาแฟในร้านสวยเท่ ๆ ในร้านสไตล์แตกต่าง แบบมีศิลป์ ใช่มะ

แต่ผมนี่ ไม่เคยไปกินกาแฟในร้านกาแฟเลย ไม่ว่าจะร้านไหน ๆ ก็ตาม เพราะความสุขของผม ก็แค่ชงกาแฟกินเองที่บ้าน ก็มีความสุขโขแล้ว

อีกอย่างคือ ผมกินกาแฟพร่ำเพรื่อในเวลาต่าง ๆ ไม่ค่อยได้ เพราะถ้ากินกาแฟเกิน 1 แก้วต่อวันทีไร นอนหลับยาก หรือนอนไม่ค่อยหลับทุกที

ร้านกาแฟสวย ๆ แพง ๆ ไม่ได้แอ้มเงินผมหรอก เพราะผมไม่เคยนึกอยากไปนั่งกินกาแฟสบาย ๆ ชิว ๆ แบบนั้นเลย



เขาว่า ถ้าอยากให้คนรู้ว่าเราแม่งฮิปสเตอร์ ก็ต้องมีกล้องมือถือไว้แชร์ในโซเชียลเน็ตเวิร์คให้คนอื่น ๆ ร่วมรับรู้ความเป็นฮิปสเตอร์ของเราใช่ไหม ?

แต่ผมยังไม่มีสมาร์ทโฟน ผมยังเป็นคนส่วนน้อยในประเทศนี้ ที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนใช้ ทั้ง ๆ ที่จะซื้อใช้เมื่อไหร่ก็ซื้อได้ เพราะราคามันไม่แพงแล้ว แต่ผมกลับไม่ยอมซื้อมาใช้สักที ซึ่งปัญหาของผมไม่ได้อยู่ที่ราคาโทรศัพท์ แต่อยู่ที่ค่ายมือถือยังไม่แฟร์กับผู้บริโภค

อีกอย่างผมรู้สึกว่า ไม่ชอบการเป็นคนที่เอาแต่นั่งก้มหน้าดูโทรศัพท์ ผมชอบที่จะมองผู้คน สภาพแวดล้อมรอบตัวผม แบบนี้ผมมีความสุขมากกว่า

แล้วพอไม่ได้ซื้อสมาร์ทโฟนใช้ ผมกลับยิ่งภูมิใจในตัวเองว่า ผมนี่เจ๋งว่ะ ที่ฝืนกระแสมาได้จนวันนี้ แต่สักวันผมคงต้องไปตามกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลง คงฝืนเทคโนโลยีไม่ได้ แต่คงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้แน่นอน



เมื่อผมไม่มีสมาร์ทโฟนใช้ ก็เซลฟี่แชร์บนโลกออนไลน์ไม่ได้  ผมนี่โคตรนอกเทรนเขาเลยว่ะ 55555



เขาว่า ฮิปสเตอร์ต้องแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแนวสบาย ๆ มีสไตล์แต่เท่ ใช่ไหม

แต่ผมนี่โคตรชอบใส่เสื้อยืดที่มียี่ห้อสินค้า เช่น เสื้อกระทิงแดง เสื้อมิชลิน เสื้อเสือ 11 ตัว และอื่น ๆ อีกมากมาย หรือเสื้อยืดของห้างร้านหรือหน่วยงานที่เขาผลิตแจกให้ใส่ฟรี ๆ นี่แหละ ผมชอบมาก ถ้าใส่ไปไหน ๆ  แบบชิว ๆ ที่ไม่มีพิธีรีตรอง


เขาว่า ฮิปสเตอร์ ชอบแสดงตัวตน ให้คนรู้จักว่า ฉันเท่ในสไตล์ที่แตกต่างใช่ไหม

แต่สำหรับผม ผมนี่โคตรไม่อยากเป็นจุดเด่นในสังคมเลย ผมอยากเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครมอง เวลาผมเดิน ก็จะเดินแบบคนปกติที่ธรรมดาที่สุดจนไม่มีใครสังเกตเห็นผม



เขาว่า ฮิปสเตอร์ต้องรักสัตว์ ต้องแชร์รูปสัตว์ที่ตนเองรักด้วยใช่ไหม 

แต่การรักสัตว์ของผม คือ การไม่เลี้ยงสัตว์เลย เพราะผมถือว่า การเลี้ยงสัตว์อาจกลายเป็นเราทำบาปโดยไม่รู้ตัวหรือทำบาปแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ได้ เพราะสัตว์พูดภาษาคนไม่ได้

ดังนั้นเราจึงไม่มีทางเข้าใจความต้องการของสัตว์ได้ทุกอย่างหรอก หากเราเลี้ยงสัตว์เพียงเพราะสนองกิเลสของเราเอง บางทีสัตว์มันอาจไม่ชอบก็ได้

ดังนั้นการรักสัตว์ที่ถูกต้องที่สุดสำหรับความเห็นของผมคือ อย่าไปยุ่งกับเขาน่ะดีที่สุด



เขาว่า ฮิปสเตอร์ ต้องรักธรรมชาติ อนุรักษ์ธรรมชาติแบบเท่ ๆ (เป็นไงวะ?)

พวกฮิปสเตอร์เขามักไปท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติที่สวยงาม แล้วถ่ายรูปแบบเท่ ๆ เห็นวิวทิวทัศน์เยอะ ๆ  แต่เห็นด้านหลังของตัวเองนิดนึงเพื่อความเท่

แต่สำหรับผมนะ เดี๋ยวนี้ผมไม่อยากไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามของไทยแล้วล่ะ

เพราะผมรู้สึกว่า การรักธรรมชาติและอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ดีที่สุดคือ เราต้องไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเหล่านั้นเลยจะดีที่สุด ไม่ต้องไปแย่งกันเที่ยว เพราะยิ่งเป็นการทำลานสิ่งแวดล้อม

ปล่อยให้ธรรมชาติถูกมนุษย์รบกวนน้อยที่สุด คือ สิ่งที่ดีที่สุดในการอนุรักษ์ธรรมชาติ

เพราะยิ่งมีคนไปท่องเที่ยวมากเท่าไหร่ ธรรมชาติของไทยกลับยิ่งถูกทำลายมากขึ้นเท่านั้น เพราะพวกหากินกับการท่องเที่ยวไทย มักเห็นแก่เงินมากกว่าจะรักษาธรรมชาติไว้ให้ลูกหลาน

เพียงแค่ผมยังรู้ว่า ยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สวยงามหลงเหลืออยู่ไม่ว่าจะที่ใดในโลก ผมก็มีความสุขแล้ว โดยไม่ต้องพยายามพาตัวเองไปสัมผัสธรรมชาติแต่อย่างใด

แค่ผมได้ดูสารคดีทางธรรมชาติ แล้วเห็นว่า ธรรมชาติยังงดงามอยู่ ไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์ แค่นี้ผมก็สุขใจเพียงพอแล้วล่ะ



----------------

พอเขียนมาถึงตรงนี้ ผมรู้ตัวแล้วล่ะว่า ผมไม่ใช่ฮิปสเตอร์แหง ๆ

แต่ผมแค่เป็นแบบที่ผมอยากเป็นเท่านั้น โดยที่ผมไม่ต้องสนใจว่า ใครเขาจะคิดยังไง ตราบใดที่ผมไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครก็พอ

ซึ่งคนนิสัยแบบผมนั้น พวกนักธุรกิจเขาจะไม่ชอบเลย เพราะเขาจะบอกว่า คนอย่างผมทำให้เศรษฐกิจไม่หมุนเวียน

แปลง่าย ๆ ว่า คนอย่างผมนั้น พวกนายทุนเขาหลอกแดกได้ยากนั่นเองครับ

จบ!!


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น




counter statistics