วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ยุคเสื่อม พระถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1







(ยอดไลค์เดิม 80 กว่าไลค์หายไปเพราะปุ่มไลค์เฟสบุ๊คไม่เสถียร)

ได้เห็นข่าว พระในจังหวัดสุพรรณบุรีรูปหนึ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 10 ล้านบาท แม้จะอ้างว่า จะใช้เงิน 1 ล้านบาทไปทำบุญซ่อมวัด แล้วที่เหลือจะให้พ่อแม่ก็ตาม

แต่เราก็ต้องแยกแยะเรื่องทำบุญกับวินัยสงฆ์ออกจากกันว่า เป็นพระ เป็นผู้ทรงศีล 227 ข้อ เป็นภิกษุ เป็นศิษย์ตถาคตต้องไม่ข้องเกี่ยวกับการพนันใด ๆ และอบายมุขใด ๆ ทั้งสิ้น

เวลาเราเห็นข่าวพระดื่มเหล้า ตำรวจยังจับสึกเลย แล้วถ้าจะไปบวชใหม่ก็ไปว่ากันทีหลัง

แล้วนี่พระซื้อลอตเตอรี่ เท่ากับพระเล่นอบายมุขเอง ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้ามที่ภิกษุต้องไม่ยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด แม้จะอ้างว่า แค่ผิดศีลเล็กน้อยไม่ถึงกับปาราชิก ก็ตาม (พระเล่นการพนันจะผิดศีลหลายข้อพร้อมกัน กรุณาไปหาข้อมูลเองครับ)

ถ้าแบบเคร่ง ๆ พระภิกษุรับเงินก็เป็นอาบัติแล้ว แม้การที่พระภิกษุเอาเงินไปซื้อของโดยตรงกับพ่อค้าแม่ค้า ก็เป็นอาบัติเช่นเดียวกัน (ตามหลักควรใช้ให้คนอื่นไปซื้อของแทน)

แล้วนี่ภิกษุเอาเงินไปซื้อลอตเตอรี่เอง แถมไม่รู้ว่าเอาเงินที่ไหนซื้อ ตามพระธรรมวินัย พระจะต้องไม่มีเงินส่วนตัว

แล้วถ้าเอาเงินวัดมาซื้อด้วยยิ่งผิดหนัก แต่อาจถึงปาราชิกหรือไม่ ? อันนี้ผมไม่แน่ใจ 

ถ้าเอาเงินวัดไปเล่นอบายมุขจะถือว่า ขโมยเงินสงฆ์หรือไม่ ?? อันนี้ต้องถามผู้รู้ตีความ

เพราะถ้าพระได้เงินมาระหว่างเป็นพระ ก็ต้องถือว่าเงินนั้นเป็นเงินวัด เป็นเงินกองกลาง เพราะพระไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินเดือน อยู่ได้จากญาติโยมบริจาคถวายให้วัด ฉะนั้น ถ้าพระได้เงินมาจากญาติโยมแล้วนำไปซื้อลอตเตอรี่ ก็อาจถึงขั้น อาบัติปาราชิก !!!  ก็ได้ เพราะเข้าข่ายยักยอกทรัพย์ (ยักยอก=ขโมย)

นั่นคือ ทำให้วัดเสียทรัพย์เกิน 1 บาท !! เพราะการซื้อลอตเตอรีส่วนใหญ่ก็มีแต่เสียเงิน

เพราะการใช้เงินวัดก็ต้องใช้จ่ายเพื่อความจำเป็นแก่การดำรงสมณะในปัจจุบัน เช่น เพื่อการศึกษา เพื่อการเดินทาง เป็นต้น

แต่นี่ภิกษุเอาเงินไปเล่นอบายมุขเอง แล้วเคยซื้อมากี่งวดแล้วก็ไม่รู้ ท่าทางคงจะซื้อมาแล้วหลายงวด

แล้วถ้าแอบเอาเงินวัดไปซื้อ แล้วพอถูกรางวัล เงินรางวัลเข้าวัดทั้งหมดหรือไม่ หรือเอาเข้าเป็นส่วนตัว ? (กรณีพระซื้อลอตเตอรีไม่ใช่มีแค่รายสองราย แต่มีเยอะมาก)

เพราะถ้าเอาเงินวัดไปซื้อ แต่เงินรางวัลเอาเข้าส่วนตัว จะถือว่า โกงเงินรางวัลของวัดหรือไม่ ?!

ซึ่งการที่ภิกษุทำอาบัติในเรื่องเดิม ๆ เป็นประจำ ถ้าในสมัยรัชกาลที่ 1 สามารถถูกจับสึกได้ แถมมีบทลงโทษทางอาญาอีกด้วย

คือแม้กรณีซื้อลอตเตอรี่ไม่ถึงกับปาราชิก แต่ถ้าคนมีจิตสำนึกและมีความละอายใจบ้าง ก็ลาสิกขากลับไปเป็นฆราวาสเถอะ อย่าอยู่ให้หนักพระศาสนาอีกเลย แถมเป็นตัวอย่างที่เสื่อมต่อชาวบ้านอีดด้วย เว้นแต่หน้าไม่อายเท่านั้น

ต่อไปจะไปสอนชาวบ้านว่าอย่าเล่นการพนันก็คงไม่ได้แล้ว เพราะพระก็เล่นการพนันซะเองแล้วนี่

ดูจากภาพข่าว หน้าตาท่าทางไม่คิดว่าตัวเองกระทำผิดเลย ไม่มีท่าทางละอายใจใด ๆ เลย




ถึงยุคเสื่อมแล้วจริง ๆ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สื่อลงข่าวพระถูกรางวัลที่ 1 เพราะเมื่อปีก่อน ๆ ก็เคยมีข่าวเจ้าอาวาสวัดอื่นถูกรางวัลที่ 1 เหมือนกัน

แล้วเท่าที่ผมดูจากสื่อทีวีทุกสื่อ รวมถึงในหนังสือพิมพ์ ไม่มีสื่อใดเลยจะสนใจพูดถึงเรื่องวินัยสงฆ์และข้อประพฤติปฏิบัติของสงฆ์ว่าถูกต้องเหมาะสมหรือไม่

สื่อทุกสื่อเน้นจะขายข่าวพระถูกรางวัลที่ 1 อย่างเดียว โดยไม่สนใจรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม สนใจแต่เสนอข่าวมอมเมาคนไทยไปวัน ๆ

ผมดีใจอยู่อย่าง เท่าที่อ่านความเห็นของผู้คนในโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่ต่างวิจารณ์ว่า พระไม่ควรซื้อลอตเตอรี ควรสึกไปเป็นฆราวาสเถอะ

"พระถูกลอตเตอรี ก็ไม่ต่างอะไรกับ ตำรวจถูกหวยใต้ดิน"

------------------

ล่าสุด งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2558 ได้มีพระถูกลอตเตอรีรางวัลที่ 1 ตั้ง 4 คู่ เป็นเงิน 24 ล้านบาท เป็นพระในจังหวัดเชียงใหม่

ผมว่า เราได้เข้าสู่ยุคเสื่อมทางสงฆ์และสังคมพุทธแล้ว ถ้าพระซื้อล๊อตเตอรี่ได้จนเป็นเรื่องปกติ ก็เสื่อมล่ะ ครับ

หมายถึง ผู้คนในสังคมไทยโดยรวม รวมถึงคณะสงฆ์ไทย กลับไม่ตำหนิ ตักเตือนพระ ปล่อยพระละเมิดศีล เล่นอบายมุขเสียเอง จนเป็นเรื่องปกติวิสัย

แถมสื่อยังเสนอข่าวดูเป็นเรื่องน่ายินดี ซะอีก ห่วยจริงสื่อไทย !!


คลิกอ่าน เฉลย ที่บ้านลุงล้อมไฟไหม้เองนั้น ทำไปเพื่ออะไร ?


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น




counter statistics