วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ความรักของแม่ที่มีต่อลูกเสมือนจิตพระโพธิสัตว์







เผอิญผมได้ดูซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่อง ดร.สตอร์กส์...อัศจรรย์ของชีวิต เมื่อคืนนี้

ซึ่งเป็นตอนที่ ผู้หญิงคนนึงตั้งครรภ์แล้วเกิดประสบอุบัติเหตุ คือมีรถยนต์คันนึงเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำแล้วรถลอยมาหาเธอ ในขณะที่เธอยืนอยู่บนฟุตบาท

โดยสัญชาตญาณของมนุษย์ทั่วไป คนเราจะพยายามปกป้องศรีษะให้รอดพ้นจากภัยอันตรายต่าง ๆ ก่อน เช่น พยายามนำมือและแขนมาบังศรีษะ เป็นต้น

แต่สัญชาตญาณของความเป็นแม่ ของผู้หญิงคนนี้กลับพยายามหันหลังแล้วงอตัวก้มลง แล้วเอาแขนและมือปกป้องบริเวณท้องที่มีลูกอยู่ในครรภ์ เพื่อไม่ให้ภัยอันตรายที่กำลังพุ่งมาหามากระแทกที่ท้องของตัวเอง

นี่คือ สัญชาตญาณของแม่ที่ต้องปกป้องชีวิตของลูกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ต่อมา ผู้หญิงคนนี้ถูกนำส่งโรงพยาบาล ก็มีการถกเถียงระหว่างหมอศัลยกรรมสมอง กับหมอสูตินารีว่า จะทำคลอดเด็กก่อนเลยดีไหม เพราะเด็กยังแข็งแรงปลอดภัยอยู่

แต่หมอศัลยกรรมสมองค้านว่า ถ้าทำคลอดเด็ก จะทำให้แม่มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเพิ่มขึ้น

จนผ่านไปหลายวัน ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์คนนี้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หมอพยายามยื้อชีวิตเธอเอาไว้ เพื่อให้หมอสูตินารีต้องรีบผ่าคลอดให้เธอเพื่อช่วยชีวิตลูกในท้อง

จนเมื่อผ่าคลอดสำเร็จ เด็กเกิดมาอย่างปลอดภัย แล้วผู้เป็นแม่ก็หัวใจหยุดเต้นทันที หมอพยายามปั๊มหัวใจอีกแต่ก็ไม่ขึ้น

ในซีรีย์เขาพยายามสื่อให้รู้ว่า คนเป็นแม่พยายามต่อสู้เพื่อมีชีวิตให้นานจนกว่าลูกจะคลอดออกมาอย่างปลอดภัย

นี่คือความยิ่งใหญ่ในความรักของแม่ที่มีต่อลูก

---------------

พอผมดูซีรีย์ตอนนี้จบ ทำให้ผมมาคิดต่อเพิ่มเติมว่า คนเป็นแม่ที่ดีทุกคน จะรักและให้อภัยลูกได้เสมอ นี่คือหัวอกของคนเป็นแม่

ดังนั้นผมจึงคิดว่า ความรักที่แม่มีต่อลูกของตน ก็เปรียบเสมือนจิตของพระโพธิสัตว์

เพราะพระโพธิสัตว์มีความเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายประดุจดั่งคือลูกของตน เฉกเช่นที่เราเรียกพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ว่า เจ้าแม่กวนอิม นั่นเอง

ซึ่งคนเราทุกคนสามารถมีจิตเตตาดั่งพระโพธิสัตว์ได้ หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงจิตพระโพธิสัตว์ได้ ถ้าคนเรามีความรัก มีความเมตตากรุณาต่อผู้อื่นเสมือนเมตตาต่อตนเอง หรือเสมือนรักลูกของตัวเอง

ในภาษาไทยเรามักจะใช้คำว่า แม่ เรียกสิ่งต่าง ๆ เช่น แม่น้ำ แม่ทัพ เป็นต้น

อย่างคำว่า แม่ทัพ ผมสันนิษฐานว่า คนโบราณคงต้องการให้ผู้นำกองทัพ หรือที่เรียกว่า แม่ทัพ นั้นต้องมีความเมตตากรุณาต่อลูกทัพทุกคน เฉกเช่นแม่ที่รักและปกป้องลูก เช่นกัน

แม้ในความเป็นจริง แม่ทัพ อาจจะไม่สามารถมีจิตที่เทียบเท่าความเป็นแม่จริง ๆ ได้ก็ตาม (คืออาจทำได้แต่ยาก)

แต่โบราณเขาคงใช้คำว่า แม่ทัพ เพื่อเป็นกุศโลบายเพื่อให้ แม่ทัพ มีจิตเมตตาต่อลูกทัพมากกว่าจะใช้แต่อำนาจหรือใช้แต่พระเดชในการสั่งการควบคุมกองทัพ

เพราะกองทัพที่มีลูกทัพเคารพรักและศรัทธาในตัวแม่ทัพ ย่อมเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งกว่ากองทัพที่มีแต่การใช้อำนาจบาตรใหญ่ในการสั่งการ



---------------------

สรุป คนเราทุกคนล้วนมีจิตเป็นพระโพธิสัตว์ได้เช่นกัน แม้เราจะไม่ปราถนาพุทธภูมิก็ตาม

คือถ้าใครมีจิตเมตตากรุณาต่อผู้อื่นเสมือนมีเมตตาต่อลูกของตน จิตใจคุณประดุจพระโพธิสัตว์แล้วล่ะ

เพราะ พระโพธิสัตว์ ใช้พรหมวิหาร 4 เป็นหลักในการบำเพ็ญบารมี

นั่นคือ เราสามารถสร้างบารมีด้วยการใช้หลักพรหมวิหาร 4 ก็คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ต่อผู้อื่นเสมือนมีเมตตาต่อตนเอง  หรือเสมือนรักลูกของตนเช่นกัน

ผู้ใดทำได้เช่นนี้หรือพยายามมีพรหมวิหาร 4 ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้คุณจะไม่ใช่พระโพธิสัตว์ แต่ก็จะเป็นการสร้างบารมีและมหากุศล ซึ่งมหากุศลนี้ก็จะช่วยนำทางให้จิตนั้นเข้าสู่พระนิพพานได้โดยเร็ว

จบ.

---------------------

แถมคลิปเสริมเพื่อความเข้าใจในบทความยิ่งขึ้น

คลิปคำสอนของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.ปยุตโต เรื่อง พ่อแม่คือพรหมวิหารของลูก



ท่านเจ้าประคุณ ปยุตโต ได้อธิบายเสริมว่า

ในหลักธรรมแห่งพรหมวิหาร 4 นั้น ข้อ อุเบกเขา นั้นสำคัญที่สุด

เพราะหากมีเมตตา กรุณา มุทิตา โดยปราศจากอุเบกขาใช้ควบคุมแล้ว ก็จะทำให้ผู้ใช้หลักเมตตา กรุณา มุทิตา เพียงแค่นี้ อาจทำให้เกิดความลำเอียงในใจจนละเมิดหลักธรรมะได้

ซึ่งหลักอุเบกขานี้ปฏิบัติยากที่สุด เพราะต้องใช้ปัญญาในการควบคุมหลักเมตตา กรุณา มุทิตา อีกที

ถ้าใครยังไม่เข้าใจหลักอุเบกขาที่ถูกต้อง ก็ขอแนะนำให้ดูคลิปนี้โดยละเอียดครับ



คลิกอ่าน ทุกข์ของพระโสดาบันมีมากแค่ไหน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น




counter statistics