เผอิญผมได้ดูซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่อง ดร.สตอร์กส์...อัศจรรย์ของชีวิต เมื่อคืนนี้
ซึ่งเป็นตอนที่ ผู้หญิงคนนึงตั้งครรภ์แล้วเกิดประสบอุบัติเหตุ คือมีรถยนต์คันนึงเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำแล้วรถลอยมาหาเธอ ในขณะที่เธอยืนอยู่บนฟุตบาท
โดยสัญชาตญาณของมนุษย์ทั่วไป คนเราจะพยายามปกป้องศรีษะให้รอดพ้นจากภัยอันตรายต่าง ๆ ก่อน เช่น พยายามนำมือและแขนมาบังศรีษะ เป็นต้น
แต่สัญชาตญาณของความเป็นแม่ ของผู้หญิงคนนี้กลับพยายามหันหลังแล้วงอตัวก้มลง แล้วเอาแขนและมือปกป้องบริเวณท้องที่มีลูกอยู่ในครรภ์ เพื่อไม่ให้ภัยอันตรายที่กำลังพุ่งมาหามากระแทกที่ท้องของตัวเอง
นี่คือ สัญชาตญาณของแม่ที่ต้องปกป้องชีวิตของลูกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ต่อมา ผู้หญิงคนนี้ถูกนำส่งโรงพยาบาล ก็มีการถกเถียงระหว่างหมอศัลยกรรมสมอง กับหมอสูตินารีว่า จะทำคลอดเด็กก่อนเลยดีไหม เพราะเด็กยังแข็งแรงปลอดภัยอยู่
แต่หมอศัลยกรรมสมองค้านว่า ถ้าทำคลอดเด็ก จะทำให้แม่มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเพิ่มขึ้น
จนผ่านไปหลายวัน ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์คนนี้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หมอพยายามยื้อชีวิตเธอเอาไว้ เพื่อให้หมอสูตินารีต้องรีบผ่าคลอดให้เธอเพื่อช่วยชีวิตลูกในท้อง
จนเมื่อผ่าคลอดสำเร็จ เด็กเกิดมาอย่างปลอดภัย แล้วผู้เป็นแม่ก็หัวใจหยุดเต้นทันที หมอพยายามปั๊มหัวใจอีกแต่ก็ไม่ขึ้น
ในซีรีย์เขาพยายามสื่อให้รู้ว่า คนเป็นแม่พยายามต่อสู้เพื่อมีชีวิตให้นานจนกว่าลูกจะคลอดออกมาอย่างปลอดภัย
นี่คือความยิ่งใหญ่ในความรักของแม่ที่มีต่อลูก
---------------
พอผมดูซีรีย์ตอนนี้จบ ทำให้ผมมาคิดต่อเพิ่มเติมว่า คนเป็นแม่ที่ดีทุกคน จะรักและให้อภัยลูกได้เสมอ นี่คือหัวอกของคนเป็นแม่
ดังนั้นผมจึงคิดว่า ความรักที่แม่มีต่อลูกของตน ก็เปรียบเสมือนจิตของพระโพธิสัตว์
เพราะพระโพธิสัตว์มีความเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายประดุจดั่งคือลูกของตน เฉกเช่นที่เราเรียกพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ว่า เจ้าแม่กวนอิม นั่นเอง
ซึ่งคนเราทุกคนสามารถมีจิตเตตาดั่งพระโพธิสัตว์ได้ หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงจิตพระโพธิสัตว์ได้ ถ้าคนเรามีความรัก มีความเมตตากรุณาต่อผู้อื่นเสมือนเมตตาต่อตนเอง หรือเสมือนรักลูกของตัวเอง
ในภาษาไทยเรามักจะใช้คำว่า แม่ เรียกสิ่งต่าง ๆ เช่น แม่น้ำ แม่ทัพ เป็นต้น
อย่างคำว่า แม่ทัพ ผมสันนิษฐานว่า คนโบราณคงต้องการให้ผู้นำกองทัพ หรือที่เรียกว่า แม่ทัพ นั้นต้องมีความเมตตากรุณาต่อลูกทัพทุกคน เฉกเช่นแม่ที่รักและปกป้องลูก เช่นกัน
แม้ในความเป็นจริง แม่ทัพ อาจจะไม่สามารถมีจิตที่เทียบเท่าความเป็นแม่จริง ๆ ได้ก็ตาม (คืออาจทำได้แต่ยาก)
แต่โบราณเขาคงใช้คำว่า แม่ทัพ เพื่อเป็นกุศโลบายเพื่อให้ แม่ทัพ มีจิตเมตตาต่อลูกทัพมากกว่าจะใช้แต่อำนาจหรือใช้แต่พระเดชในการสั่งการควบคุมกองทัพ
เพราะกองทัพที่มีลูกทัพเคารพรักและศรัทธาในตัวแม่ทัพ ย่อมเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งกว่ากองทัพที่มีแต่การใช้อำนาจบาตรใหญ่ในการสั่งการ
---------------------
สรุป คนเราทุกคนล้วนมีจิตเป็นพระโพธิสัตว์ได้เช่นกัน แม้เราจะไม่ปราถนาพุทธภูมิก็ตาม
คือถ้าใครมีจิตเมตตากรุณาต่อผู้อื่นเสมือนมีเมตตาต่อลูกของตน จิตใจคุณประดุจพระโพธิสัตว์แล้วล่ะ
เพราะ พระโพธิสัตว์ ใช้พรหมวิหาร 4 เป็นหลักในการบำเพ็ญบารมี
นั่นคือ เราสามารถสร้างบารมีด้วยการใช้หลักพรหมวิหาร 4 ก็คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ต่อผู้อื่นเสมือนมีเมตตาต่อตนเอง หรือเสมือนรักลูกของตนเช่นกัน
ผู้ใดทำได้เช่นนี้หรือพยายามมีพรหมวิหาร 4 ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้คุณจะไม่ใช่พระโพธิสัตว์ แต่ก็จะเป็นการสร้างบารมีและมหากุศล ซึ่งมหากุศลนี้ก็จะช่วยนำทางให้จิตนั้นเข้าสู่พระนิพพานได้โดยเร็ว
จบ.
---------------------
แถมคลิปเสริมเพื่อความเข้าใจในบทความยิ่งขึ้น
คลิปคำสอนของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.ปยุตโต เรื่อง พ่อแม่คือพรหมวิหารของลูก
ท่านเจ้าประคุณ ปยุตโต ได้อธิบายเสริมว่า
ในหลักธรรมแห่งพรหมวิหาร 4 นั้น ข้อ อุเบกเขา นั้นสำคัญที่สุด
เพราะหากมีเมตตา กรุณา มุทิตา โดยปราศจากอุเบกขาใช้ควบคุมแล้ว ก็จะทำให้ผู้ใช้หลักเมตตา กรุณา มุทิตา เพียงแค่นี้ อาจทำให้เกิดความลำเอียงในใจจนละเมิดหลักธรรมะได้
ซึ่งหลักอุเบกขานี้ปฏิบัติยากที่สุด เพราะต้องใช้ปัญญาในการควบคุมหลักเมตตา กรุณา มุทิตา อีกที
ถ้าใครยังไม่เข้าใจหลักอุเบกขาที่ถูกต้อง ก็ขอแนะนำให้ดูคลิปนี้โดยละเอียดครับ
คลิกอ่าน ทุกข์ของพระโสดาบันมีมากแค่ไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น