ไม่ว่ากองทัพไทยจะจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทีไร มักจะมีคนใช้คำถามโง่ ๆ ออกมาถามประชดว่า "จะซื้อไปรบกับใคร ยุคนี้เขาไม่รบกันแล้ว ควรเอาเงินไปพัฒนาการศึกษาหรือพัฒนาการสาธารณสุขดีกว่า"
ถ้าฟังแบบเผิน ๆ ดูเหมือนจะดีนะคำถามแบบนี้ แต่ที่จริงแล้ว เป็นคำถามที่โง่มาก ที่ถามว่า จะซื้ออาวุธไปรบกับใคร แล้วทำเป็นยกเอาเรื่องดี ๆ มาตบท้ายประโยคว่า เอาไปช่วยการศึกษา เอาไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ดีกว่า อะไรทำนองนี้
ขอยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เช่นกรณีล่าสุดคือเรื่องที่ กองทัพเรือจัดซื้อเรือดำน้ำ ก็จะมีพวกออกมาคัดค้านทำนองจะเอาไปรบกับใคร เศรษฐกิจแย่แบบนี้ควรเอาไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่า
เฮ่อ.. คนที่ออกมาต่อต้านพวกนี้เป็นพวกที่คิดในมุมโลกแคบมาก ๆ
ก่อนอื่น ผมขอยกเรื่องราวในประวัติศาสตร์การรบทางทะเลของกองทัพเรือไทย ในสมรภูมิยุทธนาวีเกาะช้าง มาเป็นตัวอย่างก่อนแล้วกัน
เรือดำน้ำของไทยในอดีต
เหตุการณ์การรบของกองทัพเรือไทยกับเรือรบฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2484 หรือเมื่อประมาณ 76 ปีที่ผ่านมา
หลายคนคงไม่รู้ว่า ที่เรือรบฝรั่งเศสต้องรีบถอนเรือรบกลับไปไซง่อนครั้งนั้น เพราะเรือรบฝรั่งเศสทราบข่าวว่า เรือดำน้ำของไทย 4 ลำ กำลังเดินทางกลับมาประจำการรบในสมรภูมิครั้งนี้
ใครไม่เคยรู้ประวัติศาสตร์เรื่องนี้ ก็ลองไปหาศึกษาดูครับ
ถามว่า ถ้าเมื่อร่วม ๆ 80 กว่าปีก่อน กองทัพเรือไทยไม่มีวิสัยทัศน์ซื้อเรือดำน้ำมาไว้ใช้การในตอนนั้น จะมีอะไรไปขู่ให้เรือรบฝรั่งเศสรีบล่าถอยกลับไป ?
คำถามโง่ ๆ เกี่ยวกับเรือดำน้ำที่กองทัพเรือกำลังจะซื้อ เช่น อ่าวไทยเป็นทะเลตื้น มีความลึกเฉลี่ยแค่ 50 เมตร จะซื้อเรือดำน้ำมาก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ ไม่คุ้ม
ขอตอบว่า ยุทธวิธีของเรือดำน้ำเขาไม่ได้มีไว้ปฏิบัติการณ์ในอ่าวไทยเป็นหลักสักหน่อย เขามีเรือดำน้ำไว้ออกไปสกัดข้าศึกศัตรูนอกอ่าวไทยในเขตน้ำลึกเพื่อไม่ให้ข้าศึกเข้ามาในอ่าวไทยง่าย ๆ โว้ย
แล้วเรือดำน้ำที่สั่งซื้อจากจีนนี่กินน้ำลึกแค่ 6.7 เมตรเท่านั้น จึงสามารถเข้าออกอ่าวไทยได้อย่างสบาย ๆ
ที่สำคัญ ประเทศไทยไม่ได้มีแค่ฝั่งอ่าวไทยเท่านั้น ไทยยังมีฝั่งอันดามันที่กว้างใหญ่ไพศาลด้านมหาสมุทรอินเดียอีกที่ต้องปกป้องดูแล
ไทยเรามีแผนว่าจะมีเรือดำน้ำจำนวน 3 ลำ ในขณะที่สิงคโปร์มีอยู่แล้ว 2 ลำและกำลังจะมีอีก 4 ลำในอนาคต ซึ่งทุกประเทศในอาเซียนก็มีแผนจะมีเรือดำนำกันทั้งนั้น จะมีแค่กัมพูชา บรูไน ติมอร์ และลาว เท่านั้นที่ยังไม่มีแผนจะมีเรือดำน้ำ
ส่วนไทยเราในอดีตคึอชาติที่ 2 ในเอเซีย และเป็นชาติแรกในอาเซียนที่มีเรือดำน้ำ
ที่จริงผมเห็นด้วยกับการที่มีคนออกมาตรวจสอบความคุ้มค่าหรือไม่ในการซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทย
แต่ผมรำคาญไอ้พวกชอบใช้ตรรกะและคำถามโง่ ๆ ที่ว่า จะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ไปรบกับใครนี่แหละ ไอ้พวกนี้มันคงเป็นประเภทต้องรอให้โจรมาเหยียบถึงหัวนอนก่อน แล้วค่อยคิดล้อมรั้วบ้านมั้ง
แล้วถ้ากองทัพเรือเปิดเผยข้อมูลของเรือดำน้ำจนหมด ก็เท่ากับเปิดเผยยุทธศาสตร์ความลับทางการทหารให้ชาติอื่นได้รับรู้จนหมด ซึ่งไม่มีชาติไหนเขาเปิดเผยความลับทางการทหารกันจนหมดหรอก
--------------
ทุกวันนี้กองทัพไทยพยายามลดขนาดกองทัพและกำลังพลลงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่เมื่อลดขนาดกองทัพลง ก็ต้องเสริมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยมากขึ้นมาทดแทน
ไอ้พวกที่ต่อต้านทั้งการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ แถมยังต่อต้านการเกณฑ์ทหารอีก บอกตรง คนพวกนี้เกิดมาเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศชาติโดยแท้ คือเป็นประเภทมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ
หากบ้านเมืองเกิดปัญหาสงคราม เชื่อผมได้เลย ไอ้พวกที่ต่อต้านกองทัพและเกลียดทหาร น่ะ ไอ้พวกนี้จะเป็นพวกแรกที่หนีไปต่างประเทศ หรือไม่ก็ไปสวามิภักดิ์ข้าศึกศัตรูแน่นอน
ประเทศไทยของเราใช้งบประมาณเพื่อการศึกษาต่อจีดีพีสูงอยู่ในระดับต้น ๆ ของโลก แต่คุณภาพการศึกษาของคนไทยกลับห่วยที่สุดในอาเซียน แพ้กระทั่งเขมร เพราะอะไรรู้ไหม ?
ก็เพราะมีไอ้พวกชอบใช้ตรรกะโง่ ๆ ที่ชอบถามว่า จะซื้ออาวุธไปรบกับใคร มันเพิ่มจำนวนมากขึ้นนี่แหละครับ
-------------------
ส่วนคำถามที่ว่า จะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ไปรบกับใคร ผมไม่มีเวลาเขียนในบทความนี้มากนัก จึงขอตัดข้อความจากเพจของผมมาลงแทนแล้วกันครับ
--------------------------
"การมีกองทัพที่เข้มแข็ง ย่อมทำให้ยุทธวิธีทางการทูตง่ายมากขึ้น"
เกิดเป็นคนต้องรู้จักหัดแยกแยะ เฉกเช่นร่างกายของคนเรา ก็ต้องบำรุงให้ครบทุกด้าน ไม่ใช่เน้นแต่การศึกษา แต่ไม่ยอมออกกำลังกาย ไม่กินอาหารให้ครบหมู่ และไม่รู้จักพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายก็ไปไม่รอด
ประเทศชาติก็เหมือนกัน จะเอาแต่ทุ่มงบประมาณเพื่อการศึกษาให้พวกไอคิวและอีคิวต่ำเรียนแบบฟรี ๆ อย่างเดียว แต่พวกแม่งกลับเรียนไม่เอาถ่าน จนประเทศชาติไม่ต้องมีงบประมาณมาปกป้องประเทศบ้างเลย ก็คงไม่ถูกต้องแล้วครับ จริงไหม
แม่ง เรียนก็ไม่เอาไหน แถมท้องก่อนวัยอันควรสูงสุดในเอเซีย ซ้ำยังชอบยกพวกตีกันเป็นประจำ ชอบซิ่งมอเตอร์ไซค์โดยไม่สวมหมวกกันน็อคจนตายห่าหรือบาดเจ็บสูงที่สุดในโลก จนประเทศต้องสิ้นเปลืองงบประมาณรักษาพยาบาลเกินควร ไอ้พวกนี้แหละตัวถ่วงประเทศชาติตัวจริง
ถ้าคนไทยไม่ตายเพราะอุบัติเหตุบนถนนสูงที่สุดในโลก ไทยเราจะมีโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้เพิ่มขึ้นอีกหลายแห่งแน่นอน หรืออาจมีกองทัพที่มียุทโธปกรณ์ทันสมัยกว่านี้อีกหลายเท่าก็ได้ ถ้าอยากเข้าใจมากกว่านี้ ไปอ่านบทความข้างล่างนี้ต่อเลยครับ
คลิกอ่าน จากสี่แยกวังหิน ไปจนถึงนั่งท้ายรถกระบะ คือดัชนีชี้วัดระเบียบวินัยคนไทย
ปวดหัวกับความคิดอย่างนี้ เอาที่สบายใจๆ
ตอบลบ