จากกรณีอัยการสูงสุดเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ไม่สั่งฟ้องคดีจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ โดยอ้างต้องสอบพยานหลักฐานทุจริตข้าวจีทูจีเพิ่ม
อัยการสูงสุดเตะถ่วงเรื่องนี้อย่างแถ ๆ เพราะประเด็นหลักทื่ ป.ป.ช. ต้องการเอาผิดยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่ประเด็นทุจริตข้าวจีทูจี
แต่ที่ ป.ป.ช. ต้องการเอาผิดยิ่งลักษณ์ คือ ประเด็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายมาตรา 157 ที่ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวจนสร้างความเสียหายให้แก่ชาติไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านบาทในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ทั้ง ๆ ที่ทั้ง สตง. ทั้ง ป.ป.ช. เคยมีหนังสือเตือนให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ยุติโครงการรับจำนำข้าวแล้วตั้งแต่ปีแรกที่ดำเนินโครงการ เพราะจะสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศอย่างมาก แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ไม่ยอมยกเลิกโครงการนี้ ยังดื้อดึงที่จะทำโครงการนี้ต่อไปจนเกิดความเสียหายมหาศาล
โดยเฉพาะ สตง. เคยทำหนังสือเตือนปัญหาและความเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียหายในในโครงการจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ถึง 5 ฉบับ เริ่มตั้งแต่ปี 2554
คลิกที่รูปเพื่อขยาย
คลิกอ่านรายละเอียดหนังสือเตือนจาก สตง. เรื่องโครงการจำนำข้าวทั้ง 5 ฉบับ
หนังสือเตือนของ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ทำหนังสือเลขที่ ปช. 0003/0198 เรื่องข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตกรณีการดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลในการรับจำนำข้าวเปลือก
ตามหลักของผู้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ต้องระงับยับยั้งสิ่งที่จะสร้างความเสียหายให้แก่ชาติบ้านเมือง
แต่ยิ่งลักษณ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี กลับไม่ยอมระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว จึงถือเป็นความผิดในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยตรง ในฐานะเป็นประธานนโยบายข้าวแห่งชาติโดยตำแหน่ง
อีกทั้งยิ่งลักษณ์เป็นผู้ที่แถลงนโยบายนี้ต่อรัฐสภา จึงถือว่า ยิ่งลักษณ์เป็นผู้รับผิดชอบนโยบายโครงการจำนำข้าวโดยตรง ซึ่งสามารถออกคำสั่งระงับยับยั้งโครงการนี้ได้
คลิกที่รูปเพื่อขยาย
ซึ่งคดีนี้ไม่ใช่การเอาผิดเรื่องทุจริตกับยิ่งลักษณ์แต่อย่างใด
เพราะคดีทุจริตต่าง ๆ เช่นคดีทุจริตข้าวจีทูจี ในโครงการนี้เป็นคดีอาญาที่จะไปเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องอีกต่างหาก เป็นคนละกรณี เป็นคนละคดีกับการเอาผิดยิ่งลักษณ์ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157
ซึ่งตอนนี้คดีทุจริตข้าวจีทูจี ป.ป.ช. ก็กำลังสอบสวนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ฯ
---------------------
อัยการสูงสุดคนปัจจุบัน
นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด
หากอัยการสูงสุดยังแกล้งโง่ ยังทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากต่อไป ก็เท่ากับไม่ซื่อสัตน์ต่อหน้าที่ของตัวเอง ที่เป็น "ทนายแผ่นดิน "
ถ้าอัยการสูงสุดคิดว่าจะไม่ฟ้องยิ่งลักษณ์ ก็หลักทางให้ ป.ป.ช. ดำเนินฟ้องยิ่งลักษณ์เองต่อไป
อัยการสูงสุดไม่ควรทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลอง
"อัยการสูงสุดยังแกล้งโง่ หรือ ยิ่งลักษณ์แกล้งฉลาด ?
ความเสียหายของประเทศหลายแสนล้านบาทจะต้องมีผู้รับผิดชอบ"
สกู๊ปข่าว ข้าวในโกดังรัฐมีมากที่สุดเป็นประวัติการณ์กดให้ราคาข้าวในตลาดโลกและในประเทศตกต่ำต่อไป
-------------------
อัพเดทข่าว 25 ธันวาคม 2557
คณะทำงานร่วม ป.ป.ช.-อสส. เห็นตรงกัน ตั้งผู้แทนสอบพยานเพิ่ม 2 ปาก ปมจีทูจี ให้สำนวนจำนำข้าวชัดเจนมากขึ้น ก่อนส่งอัยการสูงสูดพิจารณาส่งฟ้องอาญา "ยิ่งลักษณ์" หรือไม่
วันที่ 25 ธ.ค. นายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ร่วมกันแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างป.ป.ช. และอัยการสูงสุด ในสำนวนคดีอาญาของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีโครงการรับจำนำข้าวนัดที่ 4 ที่สำนักงาน ป.ป.ช.
โดยที่ประชุมมีมติมอบหมายให้ ป.ป.ช. และอัยการสูงสุด ตั้งผู้แทนเพื่อสอบพยาน จำนวน 2 ปาก กรณีการระบายข้าว ว่า เป็นรูปแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี หรือไม่ เพื่อให้สำนวนมีความสมบูรณ์มากกว่าเดิม เนื่องจากพยานให้ข้อมูลที่ขัดกัน รวมไปถึงการรวบรวมเอกสารหลักฐานบางส่วนด้วย โดยการสอบพยานเพิ่มเติม จะดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เพราะเป็นที่สนใจของประชาชน ซึ่งเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มแล้วเสร็จ จะส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่า จะส่งฟ้องหรือไม่ หากอัยการสูงสุดไม่ส่งฟ้อง ป.ป.ช.ก็จะดำเนินการเอง ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้งสองฝ่าย เห็นตรงกันในเบื้องต้น
ไทยรัฐออนไลน์
คลิกอ่าน รัฐบาลยิ่งลักษณ์เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ?
สตง.เป่าปี่ให้ควายฟัง และเป็นควายดืออีกด้วย
ตอบลบ