คือจริง ๆ แล้ว คลิปนักเรียนหญิง 2 คนที่บอกว่าไม่ยืนเคารพเพลงชาติ เพราะเป็นคนเกาหลีนั้น
ผมได้นำคลิปนี้มาโพสในเพจ ก่อนที่เว็บดังอย่าง youlike จะนำมาแชร์จนเป็นกระแสดังเสียอีก (แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะนำเสนอ)
แล้วประเด็นเรื่องนี้อยู่ตรงไหน ?
ประเด็นคือ นักเรียนหญิง 2 คนนี้ยังอยู่ในโรงเรียน อีกคนยังอยู่ในชุดนักเรียน การไม่ยืนเคารพธงชาตินั้น หากใครมีเหตุจำเป็นก็ไม่ต้องยืนเคารพก็ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร
แต่สิ่งที่นักเรียนหญิงสองคนนี้พูดต่อ คือ เพราะฉันเป็นคนเกาหลี จึงไม่ยืนเคารพเพลงชาติไทย นี่แหละคือประเด็น
เพราะทั้งสองคนเป็นคนไทย การบอกเป็นคนเกาหลี นี่คือแถ หรือที่เรียกว่า ตอแหล นั่นแหละ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้มารยาท เพราะคำพูดนี้เหมือนเป็นการลบหลู่ประเทศชาติที่ตนเองกำเนิด และลบหลู่เพลงชาติที่คนทั้งโลกเขาต้องให้เกียรติในเพลงชาติของตน
เพราะการให้เกียรติเคารพเพลงชาติ ถือเป็นมารยาทที่ดีในสังคมโลก ย้ำว่า มารยาทของโลก
แม้แต่ในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ หากเพลงชาติของชาติใดดังขึ้น ไม่ว่าเราจะเป็นคนชาติไหนก็ตาม เราก็ต้องยืนให้เกียรติเพลงชาตินั้น ๆ ด้วย
การไม่ยืนเคารพเพลงชาติน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าอยู่ในที่สาธารณะ ถ้าคนอื่นเขายืนเคารพกัน เราก็ควรยืนเคารพด้วย เพราะนี่คือมารยาทที่ดีในสังคม
แต่ถ้าเราอยู่ที่บ้าน เมื่อเสียงเพลงชาติในทีวีดังขึ้น ก็ไม่มีใครยืนเคารพธงชาติกันหรอกจริงไหม ?
ดังนั้นทั้งหมดมันขึ้นอยู่ที่กาลเทศะ มารยาท และจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม
แต่การที่พูดว่าที่ไม่ยืนเพราะเป็นคนเกาหลี นี่คือการพูดที่ไร้มารยาท และเป็นการพูดที่เสมือนดูถูกชาติกำเนิดตัวเอง คนสันดานแบบนี้แม้แต่เกาหลีใต้เขาก็ไม่อยากเอาไปเป็นขยะสังคมในประเทศเขาหรอกครับ
ยิ่งคนเกาหลีใต้เขาชาตินิยมรุนแรงยิ่งกว่าคนไทยเราเสียอีก ถ้าเคยดูละคร ดูซีรีย์เกาหลีใต้น่ะ หัดดูมารยาทที่เขาสอนไว้แฝงไว้ในซีรีย์ด้วยว่า เขาเข้มข้นเรื่องมารยาท เรื่องกาลเทศะ เรื่องเคารพประเพณีวัฒนธรรมเดิม ๆ เรื่องความเคารพผู้หลักผู้ใหญ่มากขนาดไหน เรียกว่า เข้มข้นกว่ามารยาทไทยเยอะ
พวกโง่อย่างนักเรียนหญิงพวกนี้ก็สักแต่เห่อเกาหลีแบบไม่มี ล.ลิง ไปวัน ๆ
เพราะคนที่ดูถูกรากเหง้าชาติกำเนิดของตัวเอง ไม่มีชนชาติไหนเขาอยากได้ไปเป็นคนในชาติเขาหรอก
ผมอยากจะบอกว่า ประเด็นนี้คนละเรื่องกับการอยากไปเป็นคนชาติอื่น หรืออยากโอนสัญชาติไปเป็นชาติอื่น คนละประเด็นนะครับ ต้องแยกแยะให้ออกก่อน
ผมขอสรุปในประเด็นนี้ในชั้นแรกว่า การไม่ยืนเคารพธงชาติ ไม่ใช่เรื่องผิดร้ายแรงอะไร แต่คำพูดที่ลบหลู่รากเหง้าว่า ตนไม่ใช่คนในชาตินั้น ๆ จึงไม่ยืนเคารพเพลงชาตินี่สิ ??
-----------------------------------
ดังนั้นประเด็นสำคัญเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องการไม่ยืนเคารพเพลงชาติ แต่ประเด็นสำคัญคือ การบอกตัวเองเป็นคนเกาหลี จึงไม่ยืนเคารพเพลงชาติไทย
ผมกล้าฟันธงเลยว่า ถ้านำคลิปนี้ไปแปลเป็นภาษาต่างประเทศ แล้วให้คนในประเทศต่าง ๆ ดู เขาจะไม่ตำหนิเรื่องการไม่ยืนเคารพเพลงชาติหรอก แต่เขาจะตำหนิการพูดจาเสมือนไม่ยอมรับชาติกำเนิดของตัวเอง ดูถูกเชื้อชาติของตัวเอง
พ่อแม่ของนักเรียนหญิงทั้งสองคนคงจะภูมิใจที่ลูกสาวของตัวเองไม่อยากเป็นคนไทยเหมือนพ่อแม่ใช่ไหม ??
ส่วนไอ้พวกที่ชอบยกตรรกะว่า ที่ฉันไม่เคารพเพลงชาติ ไม่ใช่ฉันไม่รักชาติ หรือ การรักชาติไม่ได้แปลว่าต้องเคารพเพลงชาติ ต้องร้องเพลงชาติอะไรทำนองนี้ ผมว่า คงมีแต่คนไทยเลว ๆ บางจำพวกเท่านั้น ที่ชอบยกตรรรกะแบบนี้มาอ้าง
เพราะคนชาติอื่น ๆ เขาไม่ยกตรรกะแบบนี้มาพูดหรอก เพราะเขารู้ว่า เรื่องการเคารพเพลงชาตินั้น มันเป็นเรื่องของการให้เกียรติ การแสดงความเคารพชาติตัวเอง และเป็นเรื่องของมารยาทสังคม
ถ้าแค่เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ยังทำไม่ได้ ไอ้คนที่บอกว่ารักชาติแต่กูไม่เคารพเพลงชาตินั่นน่ะ มันแค่แถบนตรรกะสวยหรูดูดีเท่านั้น เพราะถ้าชาติมีภัยจริง ๆ ไอ้คนประเภทนี้นี่แหละ แม่งหนีเอาตัวรอดก่อนใครแน่นอน
เพราะแค่กติกาสังคมง่าย ๆ พวกมันยังไม่เคารพเลย แล้วมันจะเสียสละอะไรเพื่อชาติได้ จริงไหม ?
ส่วนคลิปนี้อาจเป็นแค่เรื่องนักเรียนหญิงพูดสนุก ๆ ตลก ๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ก็นั่นแหละ การพูดตลกในบางเรื่องมันก็ไม่สมควรพูด
------------------------
เนติวิทย์ เด็กขบถในเชิงทางทำลาย
ที่จริงบทความนี้ผมไม่คิดว่าต้องเขียน เพราะมันก็แค่เรื่องเด็กกระแดะ 2 คนพูดจาเอาฮาแบบไม่รู้กาละเทศะเท่านั้น
แต่ที่ผมต้องเขียนบทความนี้ก็เพราะมีไอ้เด็กเวรเนติวิทย์ มันโพสเรื่องนี้ขึ้นมา
เหอะ ๆ การเคารพธงชาติ รวมถึงการร้องเพลงชาติไม่เคยมีการบังคับใด ๆ ทั้งสิ้น ไอ้เด็กเวรเนติวิทย์มันก็โชว์โง่จริง ๆ เพราะถ้ามีการบังคับจริง ๆ ป่านนี้คนไทยติดคุกกันจนล้นไปแล้ว
ในทวีปยุโรป ที่เขามีนักวิทยาศาสตร์มากมายสร้างความเจริญให้กับโลก เพราะเขาจะเป็นผู้คิดขบถในเชิงสร้างสรรค์สังคม
แต่กรณีเนติวิทย์ ไอ้เด็กเวรที่รังเกียจความเป็นชาติไทย รังเกียจวัฒนธรรมประเพณีไทย เกลียดทหาร เพราะมันเขียนถึงทหารบ่อย ๆ
ไอ้เด็กเวรเนติวิทย์จัดเป็นพวกขบถเชิงทำลาย คือแนวคิดสร้างความแตกแยกให้คนในชาติ แนวคิดให้คนลืมรากเหง้าตัวเอง แนวคิดนี้มันมาพร้อมกับการต้องการเปลี่ยนระบอบการปกครองประเทศให้เป็นสาธารณรัฐของตัวมันเอง ที่มีอีอั้มเนโกะเป็นคู่กิ๊กของเนติวิทย์ และมีไอ้หงอกเจียมเป็นพ่อบุญธรรม
โดยการนำความเป็นชาตินิยมที่คนในชาติพึงมีร่วมกัน นำมาสร้างวาทกรรมเชิงทำลายว่า "คลั่งชาติ" โดยที่ตัวมันเองนั่นแหละคือ พวกคิดทำลายความเป็นชาติ ที่พวกเราจะเรียกคนประเภทนี้ว่า "พวกหนักแผ่นดิน"
อย่างล่าสุดไอ้เด็กเวรเนติวิทย์ มันเพิ่งโพสเฟสล่าสุดว่า "หนักแผ่นดิน เป็นวาทกรรมล้าหลัง"
นั่นเพราะไอ้เนติวิทย์ มันมีเป้าหมายเหมือนอีอั้มเนโกะ มีอุดมการณ์เหมือนไอ้หงอกเจียม มันจึงเจ็บปวดกับวาทกรรม พวกหนักแผ่นดิน มันจึงต้องพยายามสรรหาคำมาทำลายวาทกรรมหนักแผ่นดินลงเพื่อปกป้องตัวมันเอง
---------------------------
ถ้าใครจำวันที่สมรักษ์ คำสิงห์ ได้เหรียญทองโอลิมปิกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยได้ ก็คงเข้าใจว่า คนที่เขาทำเพื่อชาตินั้นยิ่งใหญ่เพียงใด ได้ทำให้คนไทยมีความรู้สึกร่วมในความภาคภูมิใจขนาดไหน
นักกีฬาทุกคนในทุกชาติ ที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับนานาชาติ จนได้ยินเสียงเพลงชาติดังขึ้น เขาจะเข้าใจเรื่องแบบนี้ดีที่สุด
คลิกอ่านนายปรีดี คือผู้ลงนามกฎหมายเคารพเพลงชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น