เมื่อปีที่แล้ว พ.ศ. 2558 สหรัฐอเมริกาประหารชีวิตนักโทษไปทั้งหมด 28 ราย
ส่วนประเทศไทยไม่มีการประหารชีวิตมานานกว่า 7 ปีแล้ว คือครั้งสุดท้ายที่ไทยได้ประหารนักโทษ คือเมื่อพ.ศ. 2552
มิน่าล่ะ พวกค้ายาเสพติด พวกมือปืนรับจ้าง และพวกชั่วทั้งหลายมันเลยไม่กลัวโทษประหารชีวิตกันเลย
ส่วนไอ้พวกโง่ NGO นักสิทธิมนุษยชนที่ต่อต้านการประหารชีวิตน่ะ สงสัยมันจะรับเงินพวกต่างชาติที่อยากให้ประเทศไทยมีคนเลวเยอะ ๆ เต็มประเทศมั้ง จะบ่อนได้ทำลายชาติไทยได้ง่ายขึ้นมั้ง?
ปกติรัฐบาลก็ต้องเอาเงินภาษีจากคนดีเอาไปเลี้ยงนักโทษในคุก อันนี้ก็เป็นไปตามหลักการทั่วไป
แต่กรณีไอ้พวกชั่วที่มันเข้า ๆ ออก ๆ คุก เป็นว่าเล่นไม่เข็ดหลาบนี่สิ
แล้วรัฐบาลก็ยังต้องเอาเงินภาษีที่ได้จากคนดีคนทำมาหากินสุจริตที่จ่ายภาษีให้ชาติไปเลี้ยงไอ้พวกชั่วไม่มีจบสิ้น
เพราะการลดหย่อนผ่อนโทษแบบไม่มีหลักคิดที่ถูกต้อง รวมถึงโทษประหารชีวิตที่ได้กลายเป็นเสือกระดาษไปแล้ว
จึงทำให้คนชั่วได้ใจ
----------------
ไอ้พวก NGO ที่ต่อต้านการประหารชีวิต แม่งคือปลวกทำลายชาติชัด ๆ
ผมไม่ใช่ไม่อยากให้พวกนักโทษประหารกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี แต่ผมเมตตามากกว่านั้น คือ อยากให้โอกาสนักโทษประหารได้ไปเกิดเป็นคนดีใหม่เลยด้วยซ้ำ
เพราะการประหารชีวิตทำให้คนชั่วโทษรุนแรงพวกนี้จะไม่กลับไปก่อคดีซ้ำอีก ความเสี่ยงกระทำผิดซ้ำย่อมกลายเป็นศูนย์
ถามว่า ถ้าปล่อยพวกนักโทษประหารชีวิตออกไป แล้วเกิดไปก่อคดีซ้ำอีก ใครล่ะจะรับผิดชอบ ไอ้พวกต่อต้านโทษประหารชีวิต มึงกล้ามารับผิดชอบไหม ?
เอางี้ ไอ้พวก NGO นักสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย ถ้าพวกมึงไม่อยากให้ประหารชีวิตนักโทษรายไหน มึงก็จ่ายเงินค่าเลี้ยงดูนักโทษคนนั้น ๆ ไปตลอดชีวิตในเรือนจำไหมล่ะ
แล้วถ้านักโทษประหารที่ได้ลดหย่อนโทษจนได้ออกจากคุก พวก NGO ที่ต่อต้านโทษประหาร พวกมึงกล้ามาเซ็นรับรองรับประกันไหมว่า ถ้าพวกนักโทษเหล่านี้ออกไปสู่สังคมภายนอกแล้วเกิดก่อคดีซ้ำอีก พวกมึงต้องมาร่วมรับผิดชอบด้วยเอาไหมล่ะ
ถ้าพวกมึงสักแต่ต่อต้านการประหารชีวิตแบบมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ จนบ้านเมืองชิบหายวายวอดเพราะพวกมึงต่อต้านโทษประหารน่ะ
กูว่า พวกนักสิทธิมนุษยชน พวกมึงเลิกทำตัวหนักแผ่นดินเถอะว่ะ พวกมึงอยู่เฉย ๆ บ้านเมืองจะดีขึ้นกว่านี้อีกเยอะ
เพราะพวกมึงมัวแต่ปกป้องสิทธิคนชั่วที่ก่อคดีมากกว่าปกป้องคนดีที่เขาตายเพราะน้ำมือคนชั่วไปแล้ว
-----------------
คนดีต้องตายแบบไม่มีทางได้แก้ตัว แต่คนชั่วที่ฆ่าคนดีกลับไม่ตาย แถมยังได้รับการเลี้ยงดูในคุกจากภาษีของคนดี ๆ ที่ต่อไปคนดี ๆ ที่จ่ายภาษีอาจต้องตายเพราะคนชั่วเป็นรายต่อไป
ถุยส์ ระบบจัดการกระบวนการยุติธรรมประเทศนี้มันชั่งเฮงซวยจริง ๆ เพราะแบบนี้ไงล่ะ คนเลวมันถึงเต็มบ้านเต็มเมือง
ในประเทศที่เจริญแล้ว ที่ผู้คนเขามีจิตสำนึกในหน้าที่ เกรงกลัวกฎหมายเป็นส่วนใหญ่ เขาจะยกเลิกโทษประหารชีวิตไปก็ไม่แปลก เพราะศีลธรรมของคนเขาดีแล้ว เจริญแล้ว
แต่บ้านเมืองที่วินัยคนในชาติยังหย่อนยานมาก แถมไม่รู้จักหน้าที่พลเมืองที่ดีของชาติ แล้วยังมีกฎหมายที่เป็นแค่เสือกระดาษ
คนชั่วคนเลวก็ยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้นทวีคูณแพร่จำนวนเร็วอย่างกับเชื้อโรค จนคุกแทบไม่พอขังโจร
จนเรือนจำก็เลยต้องรีบชงเรื่องลดหย่อนผ่อนโทษเพื่อปล่อยนักโทษเป็นอิสระเร็วขึ้น ก็เพื่อให้เรือนจำไม่แออัดจนคุกแตก
แล้วไอ้พวกคนชั่วที่ได้รับโทษอย่างไม่สาสมกับความผิด มันก็เลยยิ่งได้ใจว่า ประเทศนี้คุกแม่งเข้า ๆ ออก ๆ ง่ายดีจังว่ะ
แล้วพวกชั่วมันก็เลยไม่กลัวติดคุกเท่าไหร่ ยิ่งพวกค้ายาเสพติด มันบอก บทลงโทษน้อย จนคุ้มค่าที่จะเสี่ยงค้ายา อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะโทษสูงสุดคือประหารชีวิต เลิกใช้ไปหลายปีแล้ว
พอนึกภาพออกรึยังว่า ทำไมปัญหาค้ายาเสพติดถึงมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีแนวโน้มจะลดลงเลย
ก็เพราะมันคุ้มที่จะเสี่ยงทำเลวไงล่ะ
แล้วไอ้พวกที่กระทำผิดซ้ำ ๆ ซาก ๆ เข้าออกคุกเป็นว่าเล่นน่ะ มันต้องไม่มีการลดหย่อนผ่อนโทษให้อีกแล้ว แถมสมควรเพิ่มโทษให้หนักยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ
แต่เจ้าหน้าที่ในระบบยุติธรรมไทย ไม่รู้คิดกันยังไง ถึงได้ไม่ลงโทษพวกกระทำผิดซ้ำให้หนักขึ้น หรือว่าได้ประโยชน์จากไอ้พวกชั่วเหล่านี้ ??
ผมได้ยินข่าวบ่อย ๆ มีพวกกระทำชั่วซ้ำซาก มีประวัติเข้าคุกมาหลายครั้งโดยไม่เข็ดหลาบ
นี่แหละเหตุทำให้สังคมไทยเพี้ยน สังคมวิปริตมากขึ้น เพราะคนดีไม่ได้รับการปกป้องที่ดีพอ แต่คนชั่วกลับได้รับความเมตตามากเกินไป
จริงไหม ??
ผมไม่ได้คัดค้านการลดหย่อนผ่อนโทษให้นักโทษคดีร้ายแรง แต่กระบวนการยุติธรรมควรปฏิรูปวิธีคิดใหม่ว่า คดีแบบไหนควรลดหย่อนโทษได้ และคดีไหนไม่สมควรลดหย่อนโทษเลย หรือเมื่อได้รับการลดหย่อนโทษแล้ว ก็ไม่ควรได้สิทธิรับการอภัยโทษอีก
หรือการพระราชทานอภัยโทษให้นักโทษในคดีอุกฉกรรจ์รายเดิม ก็ไม่ควรได้รับซ้ำกันหลายครั้ง จนจากโทษประหารชีวิต แต่สุดท้ายเหลือติดคุกจริงไม่ถึง 10 ปีก็ได้ออกจากคุกมาแล้ว
ตัวอย่างเช่น มือปืนรับจ้าง อาชีพนี้คืออาชีพที่ทำลายคนดี และระบบคุณธรรมของประเทศอย่างมาก ทำให้คนดีจำนวนมากไม่กล้าขัดขวางคนชั่ว เพราะกลัวไข้โป้ง
การที่ข้าราชการไม่กล้าขวางผู้มีอิทธิพล ก็เพราะกลัวตายนี่แหละ เลยเลือกคอร์รัปชันดีกว่าตาย
ฉะนั้นอาชีพรับจ้างฆ่าคน คือรากฐานของการทำลายชาติ อาชีพนี้จึงไม่ควรได้รับความเมตตาลดหย่อนโทษลง เป็นต้น
-----------------------
สรุปอีกครั้งตามชื่อบทความ ไอ้พวกต่อต้านโทษประหาร แม่งคือ ปลวกทำลายชาติบ้านเมือง
แม้โทษประหารอาจไม่ได้ลดปริมาณอาชญากรรมลง ก็อาจเป็นได้ (แต่ไม่แน่ ถ้าไม่ลองใช้โทษประหารให้จริงจังดูสัก 10 ปี อาชญากรรมอาจจะลดลงก็ได้ เพราะ สันดานคนไทยมักไม่ค่อยเหมือนชาติใดในโลกอยู่แล้ว คือ ถ้าไม่ถูกบังคับ คือไม่เคยเชื่อฟัง)
แต่ที่แน่ ๆ โทษประหารสามารถลดปริมาณคนชั่ว และลดความเสี่ยงที่พวกชั่วจะออกไปก่อคดีซ้ำจนคนดีต้องมาตายเพราะพวกชั่วนี้อีกได้อย่างแน่นอน
เพราะสังคมไทยมีคนเลวมากเกินไปแล้ว ที่สำคัญ ไม่เปลืองภาษีชาติว่ะ
คลิกอ่าน ศีลธรรมยิ่งเสื่อมกฎหมายยิ่งต้องแรง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น