วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2557

อโหสิกรรมให้ พันเอกอภิวันท์ เถอะครับ






ถามว่า เราด่าคนชั่ว เราบาปไหม ?
ขอตอบว่า บาปแน่นอน
เมื่อรู้ว่าบาป แล้วทำไมจึงทำ ?

งั้นขอย้อนถามว่า ทหารฆ่าข้าศึก ทหารบาปไหม ?
ขอตอบว่า บาปแน่นอน
เมื่อรู้ว่าบาป แล้วทำไมจึงทำ ?

จริง ๆ แล้วทหารเขาทำตามหน้าที่ในการปกป้องบ้านเมือง ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญอย่างมาก

ส่วนที่ผมด่าไอ้พวกชั่วที่คิดร้ายต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผมมิบังอาจเปรียบตนว่า ตนเองได้ทำหน้าที่ที่สำคัญ เหมือนกับที่ทหารได้ทำหน้าที่หรอกครับ

ผมเลยขอคิดแค่ว่า เหมือนกับเรารู้ว่า ตบยุงนั้นบาป แต่ก็เผลอยังตบยุงอยู่เรื่อยนั่นแหละ ที่จริงก็ยกตัวอย่างไม่ตรงเท่าไหร่

ถ้าหมามันวิ่งมาจะกัดพ่อแม่เรา เราจะเตะหมาตัวนั้นไหม ? นั่นแหละมั้ง

 แต่ชั่งมันเถอะ

---------------

กลับมาเรื่อง ทำไมควรอโหสิกรรมให้พันเอกอภิวันท์

สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง ผู้ทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น ตามหลักกฎแห่งกรรม

อโหสิกรรม หรือ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ถือเป็นอภัยทาน ซึ่งเป็นมหากุศลอย่างหนึ่งในพุทธศาสนา

ดังนั้นถ้าเราไม่อโหสิกรรมให้คนชั่วที่ตายไปแล้ว ก็เท่ากับเราคิดจองเวรจองกรรมกับคน ๆ นั้นต่อไปอีกในภพอื่นชาติอื่น

ถามว่า เราอยากจะให้คนชั่วคนนั้นกลับมาพัวพันกับเราอีกเหรอครับ ?

ยังไง ๆ คนชั่วเขาก็มีกรรมเป็นของเขาเอง ยังไงเขาก็ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้นแน่นอน ไม่มีใครหนีกฎแห่งกรรมพ้น

แต่ถ้าเราอโหสิกรรมให้กับคนที่คิดร้ายต่อสถาบันกษัตริย์ ที่มันได้ตายไปแล้ว ก็ให้เราคิดเสียว่า การอโหสิกรรมครั้งนี้ขอถวายให้เป็นพระราชกุศลแก่ในหลวงของเรา

แล้วกุศลจากอภัยทานของเรานี้ จะกลับมาปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักของพวกเราต่อไป

ใครใคร่เชื่อผมก็ดี ไม่เชื่อผมก็ไม่เป็นไรครับ แค่อยากแนะนำเท่านั้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น




counter statistics